แบรนด์ Kamedis ที่มีผลิตภัณฑ์โลชั่นดูแลปัญหาหนังศีรษะคันและเป็นรังแคที่ใช้ได้ผลดีมาก ๆ เขาส่งผลิตภัณฑ์แชมพูและคอนดิชันเนอร์สูตรและรูปโฉมใหม่สำหรับคนมีปัญหาหนังศีรษะมาให้ลองใช้ครับ และในช่วงเข้าหน้าฝนที่อากาศชื้นสูงอบอ้าวนี้ ปูเป้คิดว่าอยากมาพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ไปพร้อมกับข้อมูลและเทคนิคในการดูแลและจัดการกับปัญหาหนังศีรษะเหล่านี้ให้ได้เก็บเป็นข้อมูลกัน

ซึ่งใครที่ติดตามปูเป้มานานจะรู้ว่าเราเป็นคนที่แทบไม่มีปัญหากับเส้นผมเลยเพราะทั้งหนาและดกดำดี แต่มักมีปัญหากับหนังศีรษะคันได้ง่ายและมีรังแค บางช่วงอาการจะหนักหน่อย เพราะจะเริ่มคันมากขึ้น อักเสบ เป็นตุ่ม เกาจนเลือดไหลกันเลย

PuPe’s Scalp Care Tip

จากประสบการณ์ในการพยายามวิธีการดูแลและแก้ปัญหา ปูเป้พบว่าสาเหตุของปัญหาหนังศีรษะคัน อักเสบ มีรังแค ของปูเป้นั้นมาจากความไม่สมดุลของระดับน้ำมันบนหนังศีรษะ ที่ย่ำแย่ลงเพราะเชื้อราบางชนิด และซ้ำเติมด้วยพฤติกรรมที่ไม่ดีของตัวเองครับ

รังแคนั้นเกิดได้ทั้งจากหนังศีรษะที่แห้งเกินไปและมันเกินไป แต่พื้นฐานที่มีเหมือนกันคือหนังศีรษะเกิดความไม่สมดุล หนังศีรษะแห้งไปก็ระคายเคืองและลอกเป็นขุยรังแคได้ จากการสระผมบ่อยไป เกาแรงไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป

 หนังศีรษะมันเกินไปก็เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อราที่กินไขมันเป็นอาหารอย่าง Malassezia spp.  และ Malassezia restricta  ซึ่งเลือกกินกรดไขมันบางชนิดและไปเปลี่ยนโปรไฟล์ไขมันบนผิวให้มีสัดส่วนของ Oleic Acid มากขึ้น ซึ่งทำให้หนังศีรษะอ่อนแอและอักเสบได้  ความมันและความชื้นอับ ไม่ว่าจากความร้อนชื้นของสภาพอากาศก็ดี การสระผมแล้วไม่เป่าให้แห้งสนิท ก็ทำให้เกิดความชื้นอับ ก็ยิ่งทำให้เชื้อราเติบโตได้ดี 

ดังนั้นการดูแลปัญหาเหล่านี้อย่างยั่งยืน คือเราต้องมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับสาเหตุที่กล่าวมา และต้องรวมไปถึงการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของเราอย่างเหมาะสม

ในส่วนของแชมพูนั้น สำหรับปูเป้ที่จะสระผมทุกวันเพราะถ้าหมกหัวไว้ขึ้นวันที่สองจะเริ่มคันแล้วล่ะก็ จะเน้นแชมพูที่มีความอ่อนโยนพอที่จะใช้เป็นประจำได้ ไม่รุนแรงเกินไป และที่สำคัญคือจะต้องไม่เหลือพวกสารเคลือบตกค้างมากเกินไป สารเคลือบที่ทำให้เส้นผมเรียบลื่นที่ตกค้างสะสมบนหนังศีรษะจะทำให้เกิดกลิ่นอับและความมันอับชื้นได้ง่าย

 

ตัวแชมพู Kamedis : Scalp Control Dandruff Shampoo (ปริมาณ 200 มิลลิลิตร  ราคา 750 บาท)  เป็นแชมพูสูตรที่ใช้สารทำความสะอาดโดยรวมให้ฟองได้ดี เป็นสูตรที่ไม่ทิ้งสารเคลือบอะไรเอาไว้เท่าไหร่เพราะไม่มีซิลิโคนและสารกลุ่มน้ำมัน แต่จะมีสารประจุบวก Polyquaternium-10 ช่วยได้นิดหน่อย  ข้อดีคือจะไม่เป็นภาระกับหนังศีรษะ แต่ผมอาจจะฝืดเล้กน้อยแต่ในจุดเราใช้พวกคอนดิชันเนอร์ในช่วงปลายและกลางเส้นผมได้

สิ่งสำคัญในแชมพูตัวนี้คือสารที่มีฤิทธิ์จัดการกับเชื้อรา ซึ่งปรับสูตรจากเดิมที่เคยใช้ Zinc Pyrithione (เนื้อจะเป็นสีขาวทึบ) มาใช้เป็นสารอย่าง Piroctone Olamine และ Climbazole แทน ซึ่งมีการศึกษาที่พบว่า แชมพูที่ผสม Piroctone Olamine 0.5% ผสมกับ Climbazole 0.45% นั้นให้ประสิทธิภายในการลดเชื้อราและคุมอาการคันและรังแคเทียบได้กับแชมพูที่ผสม Zinc Pyrithione 1% ครับ  นอกจากนี้ก็มี Control Botaniplex™ สารสกัดจากพืชสมุนไพรที่ต้านการอักเสบซึ่งเขายื่นขอสิทธิบัตรเอาไว้โดยเคลมว่าช่วยเรื่องรังแคและการการอักเสบของผิว

เพื่อให้ส่วนผสมได้ทำงานได้เต็มที่ ให้เรานวดทำความสะอาดหนังศีรษะเบา ๆ สักประมาณ 2 นาที ให้สารจัดการเชื้อราทำงานไป ก่อนล้างออกและลงตามด้วยคอนดิชันเนอร์ครับ  เราสามารถใข้สัก 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับคนที่สระผมทุกวัน เราจะใช้ Kamedis : Scalp Control Dandruff Shampoo  สลับไปกับแชมพูปกติที่เราใช้ก็ได้ครับ

Ingredients : Water (Aqua), Ammonium Laureth Sulfate, Ammonium Lauryl Sulfate, Cocamidopropyl Betaine, Sapindus Mukurossi Fruit Extract, Acrylates Copolymer, Sodium Lauroyl Sarcosinate, Polyquaternium-10, Salicylic Acid, Piroctone Olamine, Sodium Benzoate, Climbazole, Styrene/Acrylate Copolymer, Triethanolamine, Sodium Chloride, Fragrance, Indigofera Tinctoria Extract.

Kamedis : Scalp Control Nourishing Conditioner (ปริมาณ 200 มิลลิลิตร  ราคา 690 บาท) อันนี้น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เลยเพราะเมื่อสามปีก่อนจำได้ว่าเคยลองแค่แชมพูกับโลชั่นบำรุงหนังศีรษะครับ  ซึ่งส่วนตัวคิดว่าดีแล้วที่มีคอนดิชันเนอนร์ออกมาเนื่องจากแชมพูของเขาจำเป็นต้องใช้คอนดิชันเนอร์เพื่อให้เส้นผมที่ยาวหน่อยมีความลื่นและหวีง่ายขึ้น

คอนดิชันเนอร์นี้เน้นไปที่สารกลุ่มไขมันและส่วนผมของเชียบัตเตอร์ มีซิลิโคนไม่มาก  จะไมไ่ด้ทำให้ผมลื่นเรียบได้ไวเท่าครีมนวดผมที่ถล่มซิลิโคนกัน แต่จะต้องหมักคอนดิชันเนอร์นี้เอาไว้อย่างน้อยสุดสำหรับคนผมสั้น ไม่เสียมากก็ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที แต่ถ้าผมยาวหรือมีความแห้งเสียให้หมักทิ้งไว้นานกว่านั้นสัก 5 นาทีครับ

ในคอนดิชันเนอร์ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของสารจัดการเชื้อรา เพราะคอนดิชันเนอร์เป็นสิ่งที่ใช้กับเส้นผมเป็นหลัก  แต่ก็ยังผสมสารสกัดจากพืชสมุนไพร อย่าง Chrysanthemum Indicum Flower Extract และ Phellodendron Chinense Bark Extract ที่มีชื่อทางการค้าว่า   Botaniplex™ BALANCE SC ของบริษัท Acme Hardesty ซึ่งเคลมว่าสารสกัดสองตัวนี้มีฤิทธิ์เสริมกันในการปรับสมดุลของ Microbiome บนผิวหนัง ชื่อลดการอักเสบและปัญหารังแคได้

Ingredients : Water(Aqua), Cetearyl Alcohol, Myristyl Alcohol, Dimethiconol, Cetrimonium Chloride, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Chrysanthemum Indicum Flower Extract, Phellodendron Chinense Bark Extract, Sapindus Mukorossi Fruit Extract, Sodium Hyaluronate, Tocopheryl Acetate, Panthenol, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Dimethicone PEG-8 Meadowfoamate, Triethanolamine Dodecylbenzene Sulfonate, Phenoxyethanol, Ethylhexylglycerin, Citric Ácid, Fragrance (Parfum).

 

โดยทั่วไปแล้วถ้ามีอาการคันเล็กน้อย มีปัญหาไม่มาก ลำพังแค่แชมพูกับคอนดิชันเนอร์ก็น่าจะตอบโจทย์แล้ว แต่ถ้าอาการที่หนักข้อขึ้น บอกเลยว่า Kamedis : SEBO & PSO Scalp Lotion (ปริมาณ 100 มิลลิลิตร  ราคา 850 บาทที่ปูเป้เคยรีวิวไว้หลายปีแล้ว ย้อนกลับไปอ่านแบบละเอียดกันได้เลย  ตัวนี้จัดการอยู่หมัดจริง ๆ  เป็นตัวที่ปูเป้จะมีติดบ้านเอาไว้ตลอด วันไหนอาการออกก็เอามาทาบาง ๆ บนหนังศีรษะหลังสระผมและซับแห้งแล้ว  หลังจากนั้นก็เป่าผมและหนังศีรษะให้แห้งสนิท ทิ้งไว้ข้ามคืนหรือทิ้งไว้ข้ามวันค่อยมาสระผม ใช้ต่อเนื่องไม่กี่วันคือคุมอาการหนังหัวคันเป็นตุ่ม อักเสบ ได้ดีมากจริง ๆ ครับ

ตัวโลชั่นบำรุงหนังศีรษะตอนนี้ยังคงเป็นแพคเกจและสูตรเดิมอยู่ครับ ส่วนอนาคตจะมีแพคเกจใหม่หรือสูตรใหม่อย่างไรก็ต้องคอยติดตามข่าวกันได้ทาง Facebook : Kamedis Thailand

สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ Kemedis ส่วนตัวปูเป้จะสั่งช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ ทั้งใน Lazada และ Shopee ครับ

 

Related Posts