หลังจากที่ KANEBO เปิดตัวคอนเซปต์ใหม่ภายใต้แนวคิด I HOPE เมื่อปี 2020 พร้อมกับปูทิศทางของสกินแคร์ใหม่ ด้วยโทนสีดำกับรูปลักษณ์เรียบง่ายดูไร้เพศ และแนวคิดของการดูแลผิวพื้นฐาน ON. & IN. Skincare System เพียง 2 ขั้นตอนที่เรียบง่าย ปูเป้ได้แนะนำตัวผลิตภัณฑ์ตัวที่เราชอบอย่าง KANEBO : ON SKIN ESSENCE V (100ml / 3,450 BAHT) รวมไปถึงวิธีและขั้นตอนในการใช้ทั้งแบบที่แบรนด์แนะนำ และแบบประยุกต์เอาไว้ในหลายบทความ

แต่คำถามที่ปูเป้มักได้รับมาเวลาที่มีคนมาขอคำปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์ KANEBO : ON SKIN ESSENCE V มักจะมาในทำนองเดียวกันคือ เขาซื้อผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาแล้ว แต่สงสัยว่าจะใช้เอสเซนส์ตัวนี้อย่างไร ควรเรียงขั้นตอนการใช้อย่างไร หากเซรั่มที่เขาใช้อยู่มีเนื้อที่บางเบากว่าเอสเซนส์?

การตอบคำถามว่า KANEBO : ON SKIN ESSENCE V จะนำไปใช้เป็นขั้นตอนไหนในการบำรุงผิวควบคู่กับผลิตภัณฑ์อื่นจากแบรนด์อื่นไม่มีคำตอบที่ตายตัว แต่จำเป็นต้องเข้าใจผลิตภัณฑ์ตัวนี้บนพื้นฐานของ Formulation ที่เป็นแก่นของผลิตภัณฑ์ และอธิบายแนวคิดทางการตลาดที่เป็นเปลือกครอบของผลิตภัณฑ์ตัวนี้อีกทีอย่างตรงไปตรงมาที่สุด

Product’s Concept

ปัจจุบันแนวคิดการเรียงลำดับสกินแคร์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะมีหลัก ๆ อยู่ 2 แบบ

1. การเรียงลำดับตามเนื้อสัมผัสจาก บางเบา  —>  เข้มข้น ซึ่งมักดูจากความข้นหนืดของเนื้อผลิตภัณฑ์​ และ ระดับการเคลือบผิว ซึ่งมักสอดคล้องกับสัดส่วนของน้ำ กับ น้ำมัน ในสูตร

2. เรียงตามประเภทของผลิตภัณฑ์ เช่น  [Toner / Water Lotion —>  Essence / Serum —> Moisturizer —> Sunscreen  ] ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีเนื้อสัมผัสจากบางเบาไปเข้มข้นด้วย

แต่บางแบรนด์ก็มีคอนเซปต์การเรียงผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบของตัวเอง เช่น SUQQU ที่มีแนวคิดของสกินแคร์แบบ  Serum Frist เป็นต้น  [ Serum —> Lotion —>  Moisturizer —> Sunscreen  ] 

ในแง่ของการตลาดและแนวคิดของผลิตภัณฑ์ ทาง KANEBO เลือกที่จะวางผลิตภัณฑ์ KANEBO : ON SKIN ESSENCE V ตัวนี้เป็นขั้นตอนของ เอสเซนส์เตรียมผิว ใช้หลังล้างหน้าเป็นขั้นตอนแรก  ก่อนใช้ครีมในตอนกลางวันและกลางคืน รวมกันเป็น 2 ขั้นตอนของการดูแลผิวพื้นฐานที่เรียบง่าย  โดยตัวอักษร V ย่อมาจาก Veil ซึ่งสื่อว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะคลุมเป็นเหมือนผิวชั้นที่สอง สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหยาบกร้าน หรือมีความกังวลเรื่องความเงาวาว

ซึ่งขั้นตอนที่ทาง KANEBO กำหนดเอาไว้นั้นดูเข้าใจได้ง่ายสำหรับตัวแบรนด์ KANEBO เองเพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นขั้นตอนของเซรั่มของ KANEBO มีเนื้อที่ดูเข้มข้นกว่า KANEBO : ON SKIN ESSENCE V นั่นเอง

แต่ในความเป็นจริงนั้นคนจำนวนไม่น้อย (รวมไปถึงปูเป้ด้วย) มีสเปต็ป ขั้นตอนการดูแลผิว ด้วยผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่หลากหลายมารวมกัน เมื่อเจอกรณีที่นำ KANEBO : ON SKIN ESSENCE V ไปใช้คู่กับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่น ที่ก็มีเนื้อสัมผัส หรือจัดประเภทผลิตภัณฑ์ ที่อาจทำให้เราเลือกไม่ถูกว่าควรจะยึดแนวคิดการเรียงสกินแคร์แบบไหนดี   ปูเป้มักจะไปหาคำตอบจากพื้นฐานที่เป็นหัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ นั่นคือสูตรผสม หรือ Formulation ครับ

Product’s Formula

เมื่อมองในแง่ของ Formulation ตัว KANEBO : ON SKIN ESSENCE V (100ml / 3,450 BAHT) นั้นจัดเป็นอิมัลชั่นน้ำนมที่เลียนแบบโครงสร้างผิวซึ่งมีส่วนผสมของลิพิดและน้ำมันอย่าง Squalane และน้ำมันแมคคาดาเมีย Macadamia Ternifolia Seed Oil และเสริมเนื้อสัมผัสให้มีการกระจายแสงที่ดีและมีความนวลเนียนไม่มันวาวด้วยเทคนิคสิทธิบัตรเฉพาะในการนำ Bentonite มาผสมในปริมาณไม่มากแต่มีความเสถียรสูง

โดยสารแอคทีฟหรือสารบำรุงก็ยืนพื้นด้วยส่วนผสมที่พบได้ในผลิตภัณฑ์ KANEBO ที่มีอยู่เดิม ได้แก่

–  Rubus Suavissimus (Raspberry) Leaf Extract ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

–  Hydrolyzed Lupine Protein คือส่วนผสมที่มีชื่อว่า STRUCTURINE ของบริษัท Silab ที่เคลมถึงการสร้างโปรตีนและลิพิดของผิวชั้นนอกเพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชุ่มชื่นขึ้น

Vaccinium Myrtillus Leaf Extract หรือสารสกัดจากใบของบิลเบอรี่เขาใช้ส่วนผสมที่มีชื่อว่า Cureberry ของบริษัท Ichimaru Pharcos เคลมถึงคุณสมบัติในการกระตุ้น GAD67 ซึ่งเป็นอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต GABA ในชั้นผิวเพื่อเสริมการทำงานของชั้น Skin Barrier และการผลัดแบ่งของเซลล์ผิว และยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายโครงสร้างผิวอีกด้วย

–  Dipotassium Glycyrrhizate สารสำคัญที่พบได้ในรากชะเอมช่วยต้านการระคายเคือง 

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Glycerin, Squalane, Polyglyceryl-10 Tristearate, Macadamia Ternifolia Seed Oil, Bentonite, Xanthan Gum, Dimethicone, Phenoxyethanol, Stearic Acid, Chlorphenesin, Disodium EDTA, Fragrance, Dipotassium Glycyrrhizate, Hydrolyzed Lupine Protein, Rubus Suavissimus (Raspberry) Leaf Extract, Vaccinium Myrtillus Leaf Extract, Tocopherol, Sodium Benzoate.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นลักษณะของอิมัลชั่นที่มีความข้นเพียงเล็กน้อย เมื่อลูบลงบนผิวจะกระจายตัวอย่างรวดเร็วและให้ความรู้สึกฉ่ำผิวเหมือนเอสเซนส์น้ำ แต่เมื่อเซ็ทตัวจะดูไม่มันวาว ดูด้วยตาเปล่าเหมือนไม่ได้ทาอะไร แต่ลูบสัมผิวจะรู้สึกได้ถึงการเคลือบผิวบาง ๆ

เมื่อใช้บนผิวหน้าจะสัมผัสถึงความรู้สึกได้ดีกว่า  ผิวหน้าที่มีความรู้สึกไม่ค่อยสบายผิวและมีโทนแดงเล็กน้อยหลังจากทำความสะอาดและปล่อยจนแห้ง หลังลง KANEBO : ON SKIN ESSENCE V ไปแล้วแม้ว่าผิวจะดูไม่มันวาว แต่จะรู้สึกสบายผิว มีความนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น โทนแดงลดลง และผิวดูจับแสงดีมีความโกลว์กว่าผิวเปลือยเปล่าที่ไม่ทาอะไรเลย

ลองสมมุติว่าหากเราปิดชื่อผลิตภัณฑ์ ลืมคำว่าเอสเซนส์หรือแนวคิดที่ครอบเอาไว้ โดยดูแต่ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ และดูที่เนื้อสัมผัสที่เรารู้สึกได้ เราน่าจะเข้าใจว่านี่คืออิมัลชั่นเนื้อบางเบาที่ให้ความรู้สึกฉ่ำผิวเมื่อแรกสัมผัส แต่จะเคลือบและเป็นเสมือนผิวชั้นที่สองบาง ๆ ช่วยเก็บความชุ่มชื้น โดยผิวจะดูไม่มันวาว และดูมีความโกลว์ขึ้นอีกด้วย

คือแนวคิดการตั้งหรือเรียกผลิตภัณฑ์ว่าเป็นเอสเซนส์ เซรั่ม ทรีตเมนต์ สลีปปิ้งมาส์ก บูสเตอร์ และอีกสารพัด นั้นเป็นอิสระของผู้ผลิตจะตั้งขึ้นมา เพราะไม่ได้มีข้อกำหนดนิยามตามกฏหมายเอาไว้  อิมัลชั่นเนื้อบางเบาสูตรนึงบางเบาอาจจะถูกเรียกเป็นเอสเซนส์ เป็นเซรั่ม เป็นทรีตเมนต์ เป็นมิลค์ เป็นบูสเตอร์ ก็ได้ทั้งนั้น ไม่ได้ผิดแต่อย่างใด

ปูเป้อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านรีวิวตัวนี้เข้าใจประเด็นพื้นฐานเหล่านี้ เพราะเมื่อเราเข้าใจ เราก็จะไม่ถูกจำกัดหรือถูกตีกรอบด้วยความคิดที่ว่า สิ่งนี้ใช้เป็นขั้นตอนของเอสเซนส์ได้เพียงอย่างเดียวและต้องถูกใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้าหรือใช้ก่อนเซรั่มเท่านั้นอีกต่อไป  เราสามารถใช้สิ่งนี้เป็นขั้นตอนของอิมัลชั่นนำไปใช้เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อดีสำหรับผิวธรรมดา และผิวผสม หรือสำหรับผิวมันที่มีปัญหา Skin Barrier ปราการผิวอ่อนแอก็ได้


ปูเป้จะยกตัวอย่างที่ตัวเองปรับใช้ และรู้สึกว่ามันเวิคร์มาก เช่นในตอนกลางวันก็ปรับใช้ KANEBO : ON SKIN ESSENCE V เป็นขั้นตอนของอิมัลชั่น (มอยซ์เจอไรเซอร์) เพราะต้องการการเคลือบผิวบางเบาและดูไม่มันวาวที่เหมาะกับอากาศร้อนชื้นเหนอะหนะในตอนกลางวัน  โดยขั้นตอนของเอสเซนส์หรือโลชั่นน้ำในขั้นตอนแรกนั้นปูเป้เลือก SUQQU : AQUFONS Hydrating Lotion Enriched ซึ่งเนื้อสัมผัสแบบน้ำและเทคโนโลยีในการผลิตที่ย่ออานุภาคระดับนาโน แบบเดียวกับ  KANEBO : ON Skin Essence F  ตามด้วยเซรั่มเนื้อบางเบาที่มี และจบด้วยการลงกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวด้วย

ส่วนตอนกลางคืนที่ผิวเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย และคนที่อายุ35+ จะพบว่าผิวแห้งขาดน้ำได้ง่ายมากจนต้องโบกครีมที่เคลือบผิวดี ๆ แต่ถ้าโบกหนักหรือเนื้อเหนียวไปก็หนึบติดหมอนนอนหลับไม่สบาย   การใช้ KANEBO : ON SKIN ESSENCE V  ที่แม้จะมีเนื้อที่บางเบาและเซ็ทตัวแบบไม่มันวาว แต่มีส่วนผสมของน้ำมันและลิพิดที่คล้ายกับที่มีในชั้นผิวตามธรรชาติ จึงเพิ่มระดับการเคลือบผิวเพื่อเก็บกักความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความเหนียวหนักบนผิว แต่ยังช่วยลดความรู้สึกหนึบบนผิวของผลิตภัณฑ์ที่จะทาในขั้นตอนต่อไปให้น้อยลงอีกด้วย

หรือคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวอะไรมาก หรือสำหรับผู้ชาย ผิวธรรมดา ผิวผสม ผิวมัน ที่ไม่ได้อยากบำรุงเยอะแยะหลายขั้นตอน แต่ก็ไม่ถึงกับปล่อยปะละเลยไม่ทาอะไรเลย  ยกตัวอย่างปะป๊าของปูเป้ ก็ตามประสาผู้ชายที่ไม่ได้สำอาง หรือขยันจะดูแลผิว แต่ด้วยอายุที่เยอะขึ้นผิวจะแห้งได้ง่าย โดยเฉพาะหลังล้างหน้า เขาแค่อยากทาอะไรที่รู้สึกสบายผิว แต่ไม่มันหรือหนึบเหนียว ใช้ง่ายและสะดวก ซึ่งปูเป้ก็ให้ปะป๊าใช้ KANEBO : ON SKIN ESSENCE V ที่มาในรูปแบบของขวดปั้มที่ใช้สะดวก จึงตอบโจทย์พอดีเลยล่ะ 

Conclusion

โดยสรุปแล้ว KANEBO : ON SKIN ESSENCE V เป็นอิมัลชั่นน้ำนมเนื้อบางเบาที่รู้สึกชุ่มผิวแต่เซ็ทตัวให้ผิวดูกระจ่างและไม่มันวาว เทคโนโลยีเนื้ออิมัลชั่นที่เลียนแบบปราการปกป้องผิว มีสารสำคัญช่วยเสริมการสร้างโมเลกุลที่จำเป็นต่อโครงสร้างผิวที่แข็งแรงและชุ่มชื้น ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ผิวทุกเพศและทุกวัยต้องการ

ใครที่ชอบแนวคิดสกินแคร์ 2 ขั้นตอนของ KANEBO ก็สามารถใช้เป็นขั้นตอนของเอสเซนส์ที่ทางแบรนด์ได้กำหนดและวางแนวทางเอาไว้ได้ตามปกติ

ส่วนใครที่ชอบ Mix & Match เลือกผลิตภัณฑ์หลายยี่ห้อมาใช้ร่วมกัน ปูเป้ก็เสนอแนวทางว่าคนที่ผิวผสมค่อนไปทางมัน สามารถใช้ตัวนี้เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์ในตอนกลางวันได้เลย  สำหรับกลางคืนคนผิวผสมอาจจะต้องเติมมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อที่เข้มข้นขึ้นในจุด U-Zone ที่มักแห้งกว่าส่วนอื่นไปด้วย

ส่วนคนผิวแห้งแต่รู้สึกว่าผิวมีความหยาบกร้านก็สามารถใช้เป็นขั้นตอนของเอสเซนส์ที่ช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนและคลุมเคลือบผิวได้  และใครที่ชอบเลเยอร์สกินแคร์หลายชั้น การเซ็ทตัวแบบไม่มันวาวจะช่วยลดความหนึบหนับของสกินแคร์ที่ใช้คู่กันได้

จะเห็นได้ว่า ถ้าเราเข้าใจที่หลักการอันเป็นแก่นของตัวผลิตภัณฑ์ เราจะสามารถเลือกและปรับการใช้งาน ที่เหมาะกับบริบทและความต้องการเขาเราได้ โดยไม่ถูกจำกัดในกรอบ และแทนที่จะทำให้เรารู้สึกสับสน มึนงง หรือเครียดในการเรียงลำดับสกินแคร์  จะกลายเป็นความสนุกในปรับแต่งและทดลองเพื่อหารูปแบบที่เหมาะกับตัวเอง  ซึ่งความสุขนั้นก็น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราหลงใหลในสกินแคร์ไม่ใช่หรือ?

สำหรับใครที่สนใจหรืออยากลองคอนเซปต์สกินแคร์ 2 ขั้นตอนของ KANEBO ก็อยากแนะนำว่าเขามีเป็นชุด KANEBO Skincare Kit V ขนาดทดลองใช้ อันประกอบไปด้วย KANEBO : ON SKIN ESSENCE V ขนาด 50ml กับ KANEBO : Cream In Day 15g แล ะKANEBO : Cream IN Night 15g  ซึ่งเพียงพอต่อการใช้ 2 – 4 สัปดาห์ (แล้วแต่ความหนักมือในการใช้ของแต่ละคน) เป็นชุดที่คุ้มมาก ๆ เพราะมูลค่าของที่ได้คือ 4,050 บาท แต่ชุดเซ็ทนี้จำหน่ายในราคาเพียง 2,750 บาทเท่านั้น ตอนมีโปรโมชั่นก็จะลดราคาลงไปอีกและมีของแถมด้วย สามารถซื้อได้ทั้งทางเคาน์เตอร์และออนไลน์ทาง Central Online หรือ M Online ได้เลย

แต่ถ้าใครสะดวกไปที่เคาน์เตอร์เราก็อยากแนะนำให้ไปเพราะเขาจะมีเครื่องตรวจสภาพผิวที่จะให้ข้อมูลสภาพผิวเราที่เป็นจริงในขณะนั้นด้วย  การรู้ข้อมูลนั้นมีประโยชน์ในการที่เราจะเลือกและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะฮะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

KANEBO : ON SKIN ESSENCE V
Price :100ml / 3,450 BAHT
Skin Type : All Skin Type /
Outstanding : Hydration / Light-Weight / Nourish

KANEBO : ON SKIN ESSENCE V
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เนื้อผลิตภัณฑ์ดีมาก ฉ่ำผิวดุจเอสเซนส์เมื่อแรกทา เซ็ทตัวดูโกลว์แต่ไม่มันวาว โดยไม่ทำให้ผิวรู้สึกแห้ง
  • ใช้เป็นขั้นตอนของเอสเซนส์ก็ดี หรือประยุกต์นำไปใช้เป้นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวผสมถึงผิวมันก็เลิศ
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
4.1Overall Score