เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อัลมอนด์คือเราอ่านฉลากข้างกล่องและเห็นว่า “L’Occitane ได้ตั้งมั่นใจการซื้อส่วนผสมวัตถุดิบอัลมอนด์จากในตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้นก็เอะใจว่ามันสำคัญยังไง? เลยไปหาข้อมูลดูก็พบว่า 10 ประเทศที่มีการผลิตอัลมอนด์มากที่สุดไม่มีฝรั่งเศสติดในนั้นเลย

เมื่อลองกูเกิ้ลหาประวัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็พบว่าในอดีตนั้นแคว้น Provence (โพรวองซ์) สวรรค์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสเต็มไปด้วยต้นอัลมอนด์มากมาย แต่เพราะวิกฤติทางสภาพอากาศที่ทำให้ต้นอัลมอนด์มีปัญหา มันจึงถูกโค่นและแทนที่ด้วยต้นมะกอกและไร่องุ่นเพื่อผลิตไวน์ ทางแบรนด์ L’Occitane ซึ่งถือกำเนิดในแคว้นโพรวองซ์อันรุ่มรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาตินี้ พยายามให้ต้นอัลมอนด์นับหมื่นได้กลับมาหยั่งรากอย่างมั่นคง ด้วยการสนับสนุนการค้าของผู้คนในชุมชนผ่านการซื้อวัตถุดิบจากในท้องถิ่น  ส่วนผสมที่ได้จากอัลมอนด์หลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน บัตเตอร์ สารสกัด หรือแม้แต่เปลือกที่นำมาใส่ในผลิตภัณฑ์ขัดผิว ล้วนมาจากความตั้งใจอันแน่วแน่ของทางแบรนด์

ไม่ใช่แค่ส่วนผสมของอัลมอนด์นะ  แต่พวกเชียบัตเตอร์ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ก็มาจากการซื้อวัตถุดิบในราคาที่เป็นธรรมจากชุมชนในแอฟริกาด้วย พอรู้แล้วก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจมากเลยนะ คือปูเป้เป็นคนที่ชอบและอินกับเรื่องราวของการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และการอุ้มชูสร้างอาชีพให้กับผู้คน การค้าขายที่เป็นธรรม  แต่ไม่เคยได้ยินหรือรับรู้อะไรแบบนี้จากแบรนด์เท่าไหร่ ซึ่งปูเป้ว่ามันน่าเสียดายอ่ะ และอยากเอามาบอกต่อให้รู้กัน

ในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์นั้นต้องบอกว่าปูเป้เคยได้ลองกลุ่ม Almond เมื่อนานมากหลายปีแล้วกับครีมในกระปุกที่เป็นตัวดังของเขา คือเนื้อมันดีมากเลยนะ นุ่มผิวและชุ่มชื้น ไม่เหนอะ แต่ติดแค่อย่างเดียวคือว่าเราอ่ะไม่ค่อยถูกกับกลิ่นแนว Powdery ซึ่งเป็นกลิ่น base note ของครีมตัวนี้ แถมกลิ่นมันติดทนข้ามวันเลย  ซึ่งเรื่องของความชอบในหรือไม่ชอบในเรื่องกลิ่นเนี่ยเป็น Subjective แต่ละคนชอบไม่เหมือนกันเป็นเรื่องปกติ อันนี้ต้องไปลองกันเองนะฮะ คุณอาจจะชอบกลิ่นนี้มาก ๆ จนขาดไม่ได้ไปเลยก็ได้

มันก็อาจเป็น first impression ที่ติดในความทรงจำของเรา ก็เลยทำให้เราพลาดในการได้ลองทำความรู้จักของดี ๆ ในกลุ่มอัลมอนด์ไป ซึ่งมาพบทีหลังว่ามันมีไอเทมที่ดีมาก ๆ แบบน่าประทับใจอยู่ด้วยล่ะ

คือพอดีในปีนี้ L’Occitane  จะทำแคมเปญเกี่ยวกับเรื่องการรีไซเคิล และเขาเห็นว่าปูเป้เป็นคนที่จริงจังเรื่องการจัดการแยกขยะและการรีไซเคิลมากจึงมีการติดต่อเพื่อร่วมงานกัน และในช่วงวันเกิดเขาก็ส่งกระเช้าผลิตภัณฑ์ซึ่งก็เป็นกลุ่ม Almond นี้มาให้ และเรายอมรับตรงนี้เลยว่าก็ไม่ได้ให้โอกาสหยิบมันมาใช้เลย จนกระทั่งวันที่เราใช้แถบแว๊กซ์ขนแล้วคราบแว๊กซ์ติดเต็มขาเลย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าคราบแว๊กซ์นี้ต้องใช้ออยล์หรือน้ำมันมานวดเพื่อละลายมันออก โดยปกติถ้ามีติดมานิดเราก็จะใช้ออยล์หลัก ๆ ที่มีติดบ้านก็คือออยล์สำหรับล้างเครื่องสำอาง  แต่นี่คือติดเต็มขาสองข้างก็รู้สึกว่ามันต้องใช้ออยล์เปลืองมาก นึกได้ว่าทางแบรนด์เคยส่งตัวนี้มาให้ตอนวันเกิดเลยไปหยิบ L’Occitane : Almond Shower Oil (500ml / 1,900 BAHT , 200ml / 1,155 BAHT)  มาใช้เป็นครั้งแรกและพบว่าเป็นออยล์อาบน้ำที่ล้างออกง่าย ไม่เหลือคราบลื่นมากไป ทำมาได้ลงตัว  ที่สำคัญคือผิวนุ่มละมุนนีมากกกกกกกก

โทนกลิ่นของตัวอาบน้ำในขณะใช้มีความ nutty แนวถั่ว ๆ แซมวนิลามา มีความสดชื่นกว่า มันไม่ได้ powdery จ๋าแบบที่เราเคยใช้กับตัวครีมกระปุก และที่ติดตัวหลังล้างออก จะเหลือติดอยู่แบบไม่มากไป  ทำให้แม้จะไม่ใช่โทนกลิ่นที่ปกติเราชอบแต่ก็ไม่ได้ถึงกับทนไม่ได้ และเราสามารถปรับใช้ครีมบำรุงผิวกายกลิ่นแนวสดชื่น เปรี้ยว ๆ ซิตรัส ๆ แบบเราชอบ อย่างเช่นกลุ่มเวอร์บีน่ามาทาทับเพื่อ pairing กลิ่นให้เหมาะหรือเสริมกันได้ด้วย  ออยล์อาบน้ำจึงเป็นตัวแรกที่ปูเป้ใช้ได้ และใช้จริงจังในกลุ่มนี้ล่ะ

หลังจากนั้นก็เลยเปิดใจลองสินค้าในกลุ่มนี้และพบว่าตัวที่เข้าตาเราก็คือ L’Occitane : Almond Milk Bath (500ml / 1,350 BAHT) ที่เมื่อเทียบกับ Milk Bath ที่ปกติเราซื้อใช้อยู่ถือว่าราคาโอเคเลยนะ แถมขวดอลูมิเนียมก็ดูวินเทจเก๋ ๆ  ข้างในจะเป็นเหมือนน้ำนมเข้มข้นที่มีส่วนน้ำมันอัลมอนด์และน้ำมันดอกทานตะวัน


เป็นน้ำนมผสมน้ำแช่อาบที่ให้ความรู้สึกที่ดีมาก มันทำให้น้ำที่ล้อมโอบร่างกายเรารู้สึกนุ่มนวล ลุกจากอ่างมาล้างตัวด้วยน้ำสะอาด ซับผิวให้แห้ง ผิวจะนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งเลย กลิ่นจะติดผิวจาง ๆ ใครเป็นสายแช่น้ำอุ่นต้องลองอันนี้  บอกเลยว่าถ้าเป็นกลิ่นแนวส้ม ๆ ที่ปกติเราชอบมันจะเป็น Milk Bath ที่สมบูรณ์แบบสำหรับเราเลยอ่ะ

ปูเป้แอบไปลองดม ๆ ดูแลพบว่ากลุ่มเวอร์บีน่ามีกลิ่นเปรี้ยว ๆ สดชื่น ถูกจริตมากกว่า  จึงอยากจะฝากบอกกับทางแบรนด์ช่วยออกผลิตภัณฑ์น้ำนมอาบน้ำกลิ่นแบบเวอร์บีน่าแต่มีความนุ่มชุ่มชื้นผิวแบบกลุ่มอัลมอนด์มาจะเลิศโดนใจเรามาก ๆ และพร้อมเปย์อย่างเต็มที่

ตัวที่ได้ลองล่าสุดคือ L’Occitane : Almond Delicious Paste (200ml / 1,990 BAHT) ซึ่งเรียกได้ว่าเหมือนกับการเอาบัตเตอร์หรือบาล์มทาบำรุงผิว มาผสมกับเปลือกอัลมอนด์บดและน้ำตาลทราย เอามาขัดผิวเลย  คือมัน Rich มาก ตอนล้างออกจะเหลือน้ำมันเคลือบผิวอยู่มาก เรียกได้ว่าซับผิวให้แห้งแล้วไม่ต้องทาครีมเลย และผิวจะนุ่มมาก ๆ แต่ข้อเสียก็คือปริมาณน้ำมันที่มากมายนี้จะตกค้างอยู่บนพื้นห้องอาบน้ำของเราด้วย ซึ่งใครที่ห้องน้ำไม่ได้ใช้วัสดุกระเบื้องที่กันลื่นน่าจะมีความกังวลเรื่องลื่นล้มและต้องเสียเวลามาล้างขัดห้องน้ำทุกครั้งหลังใช้ แต่ปูเป้มีวิธีแก้ปัญหาตรงนี้ครับ

เราสามารถได้การขัดผิวและความเนียนนุ่มทั้งหมดนี้โดยที่ล้างออกง่าย ไม่ทิ้งความมันมากไป และที่สำคัญพื้นห้องน้ำไม่ลื่นจนอาจล้ม ด้วยการเอา L’Occitane : Almond Delicious Paste มาผสมกับ L’Occitane : Almond Shower Oil ครับ โดยสัดส่วนง่าย ๆ คือ 1:1  แต่ถ้าอยากให้เนื้อเข้มข้นกว่านั้น ก็ใส่ออยล์ให้น้อยลงหน่อยได้ครับ

การผสมกันนี้ ตัวสารอีมัลซิไฟเออร์ใน Shower Oil จะช่วยให้ตัวบัตเตอร์ขัดผิวนี้หลอมรวมกับน้ำและล้างออกได้ง่ายขึ้น ไม่ทิ้งคราบลื่นเอาไว้บนพื้น เหลือไว้แต่ผิวที่นุ่มชุ่มชื้นกำลังดี คนที่ผิวไม่แห้งก็อาจจะไม่ต้องทาอะไรต่อเลย แต่ถ้าผิวค่อนข้างแห้งก็ทามอยซ์เจอไรเซอร์ที่ชอบตามได้ตามปกติ

ถ้าใช้ L’Occitane : Almond Delicious Paste เดี่ยว ๆ จะเหลือน้ำมันบนผิวมากกว่า สำหรับคนที่ผิวแห้งมากจริง ๆ และไม่ได้มีปัญหาเรื่องพื้นห้องน้ำจะลื่น หรือไม่ได้ขี้เกียจมาทำความสะอาดพื้นห้องอาบน้ำ ก็ใช้แบบนี้ไปได้เลยจ้า

ล่าสุดเขาพึ่งส่งสูตรใหม่ของ L’Occitane : Almond Milk Concentrate (200ml / 2,590 BAHT) มาให้ ซึ่งสูตรใหม่นี้มีการตัดส่วนผสมของซิลิโคนออกไป มีการเพิ่มสารกลุ่มแซคคาไรด์เพื่อเก็บความชุ่มชื้นได้นานขึ้น และเอาอนุพันธ์เมนทอลออกไปด้วย โดยรวมเป็นสูตรที่ถูกปรับปรุงขึ้น เนื้อสัมผัสที่เลิศเลอ ความชุ่มชื้นความนุ่มของผิวดี  (แต่ปูเป้ก็ยังติดเรื่องกลิ่นที่เมื่อใช้ทาทั้งตัวแล้วมันแน่นไปสำหรับตัวเอง)

สำหรับใครที่สนใจผลิตภัณฑ์กลุ่มอัลมอนด์ก็สามารถแวะไปที่เวปไซต์ https://th.loccitant.com เพื่อดูว่ามีผลิตภัณฑ์อะไรที่น่าสนใจอีกได้ตามสะดวก

อ้อ!!! สำหรับแคมเปญ Big Little Things เรื่องการรีไซเคิลที่เกริ่นเอาไว้เมื่อช่วงต้นของบทความ แต่เดิมจะเริ่มในช่วง Earth Day ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ของโควิดไม่ดีเท่าไหร่ จึงขอเลื่อนไปก่อนครับ แต่ว่ายังไม่ยกเลิกแน่นอน  ขอให้ทุกคนเตรียมบรรจุภัณฑ์เปล่าของเครื่องสำอาง ยี่ห้อใดก็ได้ครับ ที่เป็นพลาสติกประเภท PP และ PET  ล้างให้สะอาด ตากหรือเช็ดให้แห้ง  เพื่อนำมาแลกเป็นของรางวัลกับ L’Occitane ได้  ยังไงปูเป้จะมาแจ้งอีกครั้งเมื่อแคมเปญเปิดตัวอย่างเป็นทางการนะครับ 

Related Posts