หลังจากเปิดตัวกลุ่ม  No7 Laboratories เมื่อปีก่อนเพื่อต้อนรับการมาของกระแสบูสเตอร์บำรุงผิวเข้มข้นที่ฮิตไปทั่วโลก ปีนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ออกมาเพิ่มกันอีกหลายตัวเลยทีเดียว ซึ่งทาง Boots ประเทศไทยก็ได้ส่งบูสเตอร์ใหม่ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนก่อนให้ปูเป้ถึงที่บ้าน

กลุ่ม No7 Laboratories นี้นำเสนอแนวคิดของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เข้มข้นและผ่านการทดสอบทางคลีนิคเพื่อให้มั่นใจได้ในประสิทธิภาพ เป็นอีกทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย ปลอดภัย ก่อนที่จะตัดสินเข้าคลีนิคผิวหนังหรือไปฉีดสารหรือยิงเลเซอร์ หรือสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการทำหัตถการหล่านั้นเพื่อช่วยเสริมและคงผลลัพธ์ให้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น (ซึ่งส่วนตัวปูเป้ก็มีแนวคิดที่เห็นพ้องกันว่า แม้ว่าคุณจะไปทำเลเซอร์หรือหัตถการราคาแพงทั้งหลายก็ยังจำเป็นต้องใช้สกินแคร์ที่ดี อ่อนโยน และมีประสิทธิภาพควบคู่ไปด้วยอยู่ดี)

โดยผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่มีอยู่ 2 ชิ้น ตัวแรกคือ  No7 Laboratories : Dark Spot Correcting Booster Serum (15ml / 1,400 BAHT) ซึ่งเป็นบูสเตอร์ที่ทำมาสำหรับคนที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ จุดด่างดำ รอยสิว และอีกชิ้นคือ  No7 Laboratories : Firming Booster Serum (30ml / 1,750 BAHT) ที่มาในรูปของแอพพลิเคเตอร์ที่ช่วยนวดผิวและส่วนผสมของเปปไทด์และไฮยาลูโรนิคแอซิดที่เพิ่มความชุ่มชื้นยืดหยุ่นของผิว (ซึ่งใช้เปปไทด์ตัวเดียวกับที่มีอยู่ใน No7 Laboratories : Line Correcting Booster Serum แต่มีปริมาณที่น้อยกว่า)

ปูเป้ตัดสินใจลองใช้ตัวที่เน้นเรื่องจุดด่างดำ เนื่องจากช่วงนี้กำลังมีปัญหาสิวจากการพักผ่อนที่ไม่มีคุณภาพและความเครียดอยู่พอดี ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เคลมว่ามีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนความหมองคล้ำและจุดด่างดำที่มากกว่าผลิตภัณฑ์ของ NO7 รุ่นปกติถึง 6 เท่าด้วยกัน และเคลมว่าจุดด่างดำจะดูจางลงใน 2 สัปดาห์เลยทีเดียว

Product’s Formula

No7 Laboratories : Dark Spot Correcting Booster Serum (15ml / 1,400 BAHT) มีส่วนผสมของแอคทีฟที่คุ้นชื่อกันในผลิตภัณฑ์กลุ่มผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง เริ่มตั้งแต่ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นและปัจจุบันนิยมใช้เป็นสารไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสด้วยคุณสมบัติในการต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสที่มีส่วนสำคัญในการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ส่วนการกระตุ้นคอลลาเจนมีเพียงการทดสอบแบบ In-Vitro เริ่มมีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับอนุพันธ์วิตามินซีตัวนี้มากขึ้นในปีหลัง ๆ มานี้ แม้ยังมีภาษีไม่เท่าวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid แต่ก็ถือเป็นอนุพันธ์วิตามินซีอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ

(Source : 3-O-Ethyl Ascorbic Acid: A Stable, Vitamin C-Derived Agent for Skin Whitening Selected Physicochemical and Biological Properties of Ethyl Ascorbic Acid Compared to Ascorbic Acid. Antioxidant Ability and Stability Studies of 3-O-Ethyl Ascorbic Acid, a Cosmetic Tyrosinase Inhibitor. , Intramelanocytic Acidification Plays a Role in the Antimelanogenic and Antioxidative Properties of Vitamin C and Its Derivatives)

นอกจากวิตามินซีแล้วก็มีสารสกัดจากพืชอีก 4 ชนิด อย่าง Sophora Angustifolia Root Extract กับ Phyllanthus Emblica Fruit Extract และ Morus Alba Leaf Extract ซึ่งมีข้อมูลที่ศึกษาในเซลล์ไมลาโนไซต์ของมนุษย์ว่าช่วยลดปริมาณเมลานินได้ แต่การศึกษานี้ทำบนเซลล์ทดสอบ และสนับสนุนโดย Boots เอง ข้อมูลอื่น ๆ ส่วน Ammonium Glycyrrhizate ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของ Glycyrrhetic Acid ซึ่งเป็นหนึ่งในสารสำคัญของชะเอมเทศที่ช่วยต้านการระคายเคือง การอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ 

ส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติเหล่านี้ดูมีความน่าสนใจในแง่ของการเป็นไวท์เทนนิ่ง แต่ข้อจำกัดก็คือยังมีการศึกษาไม่มากนัก

(Source : The effects of Sophora angustifolia and other natural plant extracts on melanogenesis and melanin transfer in human skin cells, Are Natural Ingredients Effective in the Management of Hyperpigmentation? A Systematic Review,  Glycyrrhizic acid (GA), a triterpenoid saponin glycoside alleviates ultraviolet-B irradiation-induced photoaging in human dermal fibroblasts.)

Gluconolactone เป็นสารกลุ่ม  PHA (Poly Hydroxy Acid) ซึ่งเป็นสารช่วยผลัดเซลล์ผิวที่มีความอ่อนโยนกว่า AHA เพราะมีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่า และมีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ได้ 

(Source : The use of polyhydroxy acids (PHAs) in photoaged skin., Applications of hydroxy acids: classification, mechanisms, and photoactivity.)

ตามทฤษฏีแล้วแอคทีฟในสูตรก็ช่วยในเรื่องการลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดการส่งสัญญาณไปสร้างเมลานิน มีส่วนผสมที่ต้านเอนไซม์ไทโรซิเนส และมีส่วนผสมที่ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวเพื่อเร่งเอาเซลล์ที่มีเมลานินสะสมให้หลุดออกไปได้ไวขึ้น

Ingredients : Aqua (Water/Eau), Glycerin, Gluconolactone, 3-O-Ethyl Ascorbic Acid, Aluminum Starch Octenylsuccinate, Butylene Glycol, Polyacrylate Crosspolymer-6, Potassium Hydroxide, Phenoxyethanol, Ammonium Glycyrrhizate, Phyllanthus Emblica Fruit Extract, Propylene Glycol, Caprylyl Glycol, Sophora Angustifolia Root Extract, Hydroxypropyl Cyclodextrin, Ethylhexylglycerin, Tetrasodium EDTA, T-butyl Alcohol, Morus Alba Leaf Extract.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นเซรั่มเนื้อขุ่น ตัวผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมของสี และ นำ้หอม แต่ก็ไม่เหม็นหรือมีกลิ่นแปลก ๆ แต่อย่างใด  ตัวผลิตภัณฑ์สามารถทาลงไปบนผิวได้โดยไม่จำเป็นต้องผสมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เนื้อเซรั่มมีความชุ่มชื้นเล็กน้อยและไม่เหนอะหนะผิว

การใช้ผลิตภัณฑ์ทางแบรนด์แนะนำให้ใช้เป็นการแต้มเน้นที่จุดด่างดำหรือรอยสิว ซึ่งส่วนตัวปูเป้ก็เน้นแต้มตามจุดที่ต้องการก่อน แต่ถ้ามีปัญหาผิวหมองคล้ำโดยภาพรวมด้วยปูเป้ก็มองว่าสิ่งนี้ก็อ่อนโยนและสามารถทาบาง ๆ ทั่วใบหน้าได้

ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งจะคาดหวังผลที่  8 – 12 สัปดาห์ แต่จากประสบการณ์ในการใช้ 2 สัปดาห์ของปูเป้นั้นพบว่า หากทาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ตรงจุดที่มีการอักเสบของสิวตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยหลังจากการอักเสบหายไปแล้วจะเกิดเป็นรอยดำจากสิวไม่เข้มมาก เป็นแค่รอยจาง ๆ ที่มีแนวโน้มจางลงอย่างต่อเนื่อง แต่กับรอยดำหรือจุดด่างดำที่มีอยู่ก่อนแล้วยังรู้สึกว่าไม่ค่อยแตกต่างมากนักในเวลา 2 สัปดาห์ คงต้องใช้เวลามากกว่านี้เพื่อให้เห็นผล

Conclusion

โดยสรุปแล้ว No7 Laboratories : Dark Spot Correcting Booster Serum เป็นเซรั่มไวท์เทนนิ่งที่เน้นส่วนผสมที่เข้มข้นขึ้นกว่าสูตรเดิมที่ No7  เคยมีมา และทำมาได้ค่อนข้างอ่อนโยน เน้นทางเลือกของสารไวท์เทนนิ่งจากธรรมชาติ และมีเนื้อที่บางเบาพอที่จะใช้ได้กับทุกสภาพผิว หรือแม้ผิวที่เป็นสิวเพราะตัวสูตรมีความเป็น water-based ซึ่งก็ค่อนข้างตอบโจทย์จากการทดลองใช้ที่พบว่าช่วยให้รอยอักเสบจากสิวกลายเป็นรอยดำได้น้อยลง

ถ้าไม่ติดเรื่องสารแอคทีฟว่าต้องเป็นธรรมชาติแล้วนั้นเรามองว่าปัจจุบันมีแอคทีฟใหม่ ๆ ที่มันแรงกว่านี้ ส่วนที่พิจารณาแง่ของกลไกของผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งแล้วยังมีพื้นที่ให้กับส่วนผสมที่จะเข้าไปช่วยจัดการกันกับโปรตีน α-MSH หรือในส่วนของการเร่งการลำเลียงและการ uptake เมลานินเข้าสู่เซลล์ผิวอย่าง  Niacinamide แต่ถ้าพิจารณาว่าด้วยเรื่องการผสม PHA ที่อาจทำให้ค่า  pH ของผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสมกับส่วนผสมที่ว่ามาก็เข้าใจในข้อจำกัดตรงส่วนนี้ได้ และส่วนผสมที่ว่านี้หาได้ในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กันไม่ยาก ก็เลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่

ความเห็นส่วนตัวคิดว่าเขาน่าจะให้ปริมาณมามากกว่านี้เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว แต่ว่า Boots ก็ชอบมีโปรโมชั่นในช่วงวันเกิดที่จัดหนักจัดเต็มอยู่ก็เป็นช่วงที่อาจช่วยทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

No7 Laboratories : Dark Spot Correcting Booster Serum
Price :  15ml / 1,400 BAHT
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Anti-inflammation / Antioxidant / Whitening / Fragrance-Free

No7 Laboratories : Dark Spot Correcting Booster Serum
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เป็นไวท์เทนนิ่งที่ค่อนข้างอ่อนโยน และมีเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างเบา ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวเป็นสิว
  • ไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม ค่อนข้างอ่อนโยน
CONS
  • สารไวท์เทนนิ่งจากธรรมชาติยังมีข้อมูลที่จำกัด
  • ปริมาณไม่จุใจ
3.4Overall Score