ในเดือนสิงหาคมนี้มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จาก No7 ที่เน้นเรื่องความเข้มข้นของส่วนผสมที่มากสุดเท่าที่ No7 เคยมีมาเลยทีเดียวล่ะ
No7 เป็นแบรด์ที่อยู่ในเครือร้าน Boots จากประเทศอังกฤษ ซึ่งเคยเป็นกระแสบูมสุดพลังเมื่อสิบปีก่อนหลังจากที่รายการโทรทัศน์ช่อง BBC ทำสกู๊ปเกี่ยวกับเครื่องสำอางและในตอนนั้นมีการสัมภาษณ์นักวิจัยที่ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่มีความน่าเชื่อว่า No.7 : Protect and Perfect Intense Beauty Serum นั้นได้ผลจริง โอ้โห คนไปต่อคิวแย่งกันซื้อสุดพลังจนเป็นข่าวครึกโครม
(Source : ‘Proof’ face creams beat wrinkles)
และก็เป็นเรื่องปกติที่เมื่อมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นฮีโร่แล้วก็จะต้องมีการขยายแตกไลน์แยกย่อยออกมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากตัวต้นแบบ โดยในตลอดระยะเวลา 10 ปีมานี้ก็มีหลายตัวแหล่ะ แต่ปัญหาอย่างหนึ่งของการต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสำเร็จคือมันจะยึดติดกับต้นแบบมากไป ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัส หรือแม้แต่ในแง่ของส่วนผสมที่จะเป็นการยืนพื้นเดิมและเพิ่มปรับแต่งแค่เล็กน้อยเท่านั้น การเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จึงเป็นสิ่งที่เรารอคอยและก็ตื่นเต้นว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหนเหมือนกันนะ
โดยเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาปูเป้ได้ไปงานเปิดตัวกลุ่ม No7 : Laboratories ซึ่งเป็นไลน์ใหม่ที่เขาตั้งใจให้เป็นสุดยอดของการฟื้นบำรุงผิว เน้นประสิทธิภาพและอัดส่วนผสมที่เข้มข้น ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะว่าเทรนด์ในปัจจุบันมันมีแบรนด์ลักษณะที่เน้นความเข้มข้นของส่วนผสมออกมากันพอสมควรแล้ว รวมไปถึงกระแสของ Booster ที่เน้นการยกระดับการบำรุงและปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วได้อย่างสะดวก โดยผลิตภัณฑ์แรกของกลุ่มนี้ก็คือ No7 : Laboratories Line Correcting Booster Serum ที่ออกตัวแรงว่าช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น 5 ปี หลังการใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 12 สัปดาห์
No7 : Laboratories Line Correcting Booster Serum (15ml / 1,750 Baht) เป็นผลิตภัณฑ์บูสเตอร์ที่สามารถใช้บนผิวได้โดยตรง คือใช้เป็นเซรั่มทาหน้าปกติเลย หรือจะใช้เป็นบูสเตอร์ผสมเข้ากับเซรั่ม หรือมอยซ์เจอไรเซอร์ หรือแม้แต่กับรองพื้นที่เราใช้อยู่ก็ได้ และมีปรับเปลี่ยนตัวเบสของผลิตภัณฑ์ที่จากเดิมเซรั่มกลุ่ม Protect and Perfect ของเขาจะยึดติดกับเบสซิลิโคนลื่น ๆ ผิว แต่เนื่องจากความนิยม เทรนด์ของเนื้อสัมผัสทีเปลี่ยนไป รวมถึงแนวโน้มที่ทาง EU อาจจะมีการแบนส่วนผสม Cyclopentasiloxane ในเครื่องสำอางชนิดไม่ต้องล้างออกในอนาคตเรื่องจากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมนั้น Booster Serum สูตรใหม่ล่าสุดของ No7 แม้จะดูฟูนุ่มและมีความข้น แต่มันเป็นเบสน้ำที่กระจายตัวและผสมเข้ากับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ทั่วไปที่เราใช้อย่างง่ายดาย
ในแง่ของส่วนผสมของสารบำรุงนั้น ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ชูความเข้มข้นของเปปไทด์เป็นหลัก โดยเคลมว่าส่วนผสมของเปปไทด์ Palmitoyl Tripeptide-1 กับ Palmitoyl Tetrapeptide-7 หรือ Matrixyl 3000 Plus ที่เข้มข้นมากขึ้น 7 เท่า เมื่อเทียบกับปริมาณที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ No.7 : Protect and Perfect Intense Advanced Serum ซึ่งนั่นน่าจะมากกว่าความเข้มข้น 10% ซึ่งเป็นความเข้มข้นสูงสุดของผลิตภัณฑ์ที่ใส่ Matrixyl 3000 Plus กันไปพอสมควร ข้อมูลจากผู้พัฒนาผลิตภัณพืตัวนี้ระบุว่าทาง No7 ได้ร่วมมือกับบริษัทที่คิดค้น Matrixyl 3000 Plus ในการอัดความเข้มข้นของเปปไทด์ตัวนี้ในผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด และพบว่าจุดที่ความเข้มข้นมากกว่าขึ้น 7 เท่านี้คือความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพที่สุด (เขาบอกไว้แบบนี้นะ)
Matrixyl 3000 Plus เป็นเปปไทด์เป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมพอสมควร และถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย แต่ในแง่ของข้อมูลเรื่องประสิทธิภาพที่มีการตีพิมพ์นั้นยังมีค่อนข้างจำกัด ข้อมูลงานวิจัยของ Matrixyl 3000 Plus นั้นมีอยู่ไม่มาก โดยชิ้นหนึ่งมี Sederma ผู้ผลิตเปปไทด์ตัวนี้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน และอีกชิ้นหนึ่งก็คือการศึกษาที่ใช้ผลิตภัณฑ์ No.7 : Protect and Perfect Intense Beauty Serum ซึ่งส่วนผสมของเปปไทด์ตัวนี้ควบคู่กับสารบำรุงอื่น ๆ อีกหลายตัว
(Source : Evaluation of dermal extracellular matrix and epidermal-dermal junction modifications using matrix-assisted laser desorption/ionization mass spectrometric imaging, in vivo reflectance confocal microscopy, echography, and histology: effect of age and peptide applications., Effects of a cosmetic ‘anti-ageing’ product improves photoaged skin )
ส่วนผสมของเปปไทด์อีกตัวหนึ่งที่ไม่ได้ถูกพูดถึงเอาไว้แต่เขาก็ใส่มาก็คือ Acetyl Dipeptide-1 Cetyl Ester หรือ Calmosensine™ จากผู้ผลิตเดียวกับ Matrixyl นั่นแหล่ะ เปปไทด์ตัวนี้ไม่ได้เน้นไปที่เรื่องริ้วรอยแต่ถูกเคลมว่าช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวจากระคายเคืองโดยเปปไทด์ตัวนี้จะไปขัดขวาง substance P ซึ่งเป็นเปปไทด์ที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นตุ้นการไหลเวียนของเลือดและการอักเสบ จึงช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวได้
Source : Management of rosacea-prone skin: evaluation of a skincare product containing Ambophenol, Neurosensine, and La Roche-Posay Thermal spring water as monotherapy or adjunctive therapy., Comparison of skin calming effects of cosmetic products containing 4-t-butylcyclohexanol or acetyl dipeptide-1 cetyl ester on capsaicin-induced facial stinging in volunteers with sensitive skin.)
Ingredients : Aqua/Water, Glycerin, Butylene Glycol, Aluminum Strach Octenylsuccinate, Polyacrylate Crosspolymer-6, Sorbitan Laurate, Phenoxyethanol, Sodium Lactate, Hydroxyethyl Cellulose, Carbomer, Caprylyl Glycol, Acetyl Dipeptide-1 Cetyl Ester, Polysorbate 20, Ethylhexylglycerin, Tetrasodium EDTA, Potassium Hydroxide, T-Butyl Alcohol, Palmitoyl Tripeptide-1, Palmitoyl Tetrapeptide-7.
บรรจุภัณฑ์เป็นแบบ Airless-Pump ที่ต้องบิดที่ก้นฐานเพื่อคลายล็อคให้สามารถกดตัวปั้มได้ก่อนใช้ ทรงเหมือนหลอดฉีดยา เป็นกิมมิคในการออกแบบแต่การพกไปใช้ยามเดินทางพบว่าความยาวของมันค่อนข้างเกะกะพอสมควร คือในปริมาณ 15 มิลลิลิตรมันมีขวด Airless-Pump ที่มีขนาดกระทัดรัด กดใช้หรือพกพาสะดวกกว่านี้ล่ะ
เนื้อเซรั่มมีความข้นและขุ่นเล็กน้อย มีความอยู่ตัวในระดับหนึ่ง ใช้เป็นเซรั่มทาลงบนหน้าโดยตรงก็มห้สัมผัสที่ดีและไม่หนึบเหนียวบนหน้า ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเล็กน้อย เหมาะกับทุกสภาพผิว ตัวผลิตภัณฑ์ไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคืองิว ไม่มีสี และสารแต่งกลิ่นหรือน้ำมันหอมระเหยใด ๆ จึงอ่อนโยนพอที่จะใช้ทารอบดวงตาได้เลยล่ะ
สำหรับการใช้เป็น Booster ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นก็เหมาะมากเพราะว่ากระจายตัวเข้ากับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไปได้ดี และการไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมนอกจากจะอ่อนโยนแล้วยังไม่ก่อปัญหาเรื่องไปตีกับกลิ่นน้ำหอมของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เราใช้อยู่ด้วย (บูสเตอร์ไม่ควรมีน้ำหอมด้วยเหตุผลนี้)
ทางแบรนด์มีการเคลมถึงประสิทธิภาพว่าใน 2 สัปดาห์จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของริ้วรอยพวก Lines & Wrinkles ซึ่งเราไม่ค่อยมีปัญหาตรงนั้นเท่าไหร่ จึงบอกได้ยากว่ามันจะเห็นผลในการเปลี่ยนแปลงเรื่องริ้วรอยแค่ไหนล่ะ แต่เท่าที่ใช้มาคือไม่มีปัยหา ไม่แพ้ ไม่อุดตัน ใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่มีได้สบาย ๆ
โดยสรุปแล้ว No7 : Laboratories Line Correcting Booster Serum ก็คือเซรั่มที่อัดเปปไทด์ Matrixyl 3000 Plus มาอย่างเข้มข้นถึงใจ และจากที่เขาเคลมมาก็น่าเข้มข้นที่สุดในท้องตลาดที่เราจะหาซื้อได้แล้วในตอนนี้ ดังนั้นหากคุณมีความสงสัยและอยากลองประสิทธิภาพของเปปไทด์ตัวนี้ให้ประจักษ์กับตัวเอง นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ให้เราได้พิสูจน์กันแบบชัด ๆ ไปเลยว่าจะเวิร์คกับเราแค่ไหน และในมุมของการเป็นบูสเตอร์ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่จะสามารถเสริมเปปไทด์เข้าไปในเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่เราชื่นชอบอยู่แล้วและไม่อยากจะเปลี่ยน นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของที่ระคายเคืองผิว ไม่มีน้ำหอมจึงอ่อนโยนและใช้ได้ง่าย
นี่เป็นเซรั่มที่เมื่อเทียบราคาต่อปริมาณแล้วก็ต้องถือว่าแรงที่สุดเท่าที่ No7 เคยมีมาเลยล่ะ แต่ส่วนหนึ่งนั่นเป้นเพราะว่าส่วนผสมเปปไทด์นั้นเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่มีราคาสูงอันดับต้น ๆ ในวงการเครื่องสำอางเลยก็ว่าได้และการที่อัดมาเยอะก็คือต้นทุนเยอะนั่นเอง ข่าวดีคือราคาที่ว่านี้ในประเทศไทยแทบจะไม่ต่างกับที่อังกฤษเท่าไหร่เลย และด้วยร้าน Boots ชอบมีโปรโมชั่นโดนใจมาเป็นระยะ คุณอาจได้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาลองใช้ในราคาที่เป็นมิตรแบบสุด ๆ ก็ได้นะ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
No7 : Laboratories Line Correcting Booster Serum
Price : 15ml / 1,750 Baht
Skin Type : All Skin Type / Sensitive Skin
Outstanding : Anti-Aging / Gentleness
- ส่วนผสมเปปไทด์ต่อต้านริ้วรอยในความเข้มข้นที่สูงมาก และน่าจะมากเป็นอันดับต้น ๆ เท่าที่เราจะหาได้ในท้องตลาดปัจจุบันนี้
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม อ่อนโยน และใช้ได้แม้กับผิวรอบดวงตา
- เนื้อสัมผัสที่ดี และผสมเข้ากับสกินแคร์ได้ง่าย
- เปปไทด์ยังมีข้อมูลสนับสนุนประสิทธิภาพอยู่ไม่มากเท่าส่วนผสมต่อต้านริ้วรอยอื่น ๆ อย่างวิตามินซี หรือวิตามินเอ
- ถ้ามองในแง่ของการเป็นบูสเตอร์เปปไทด์ก็ถือว่าโอเคล่ะ แต่ถ้ามองว่านี่เป็นเซรั่มต่อต้านริ้วรอย เรามองว่าเขาสามารถใส่สารบำรุงอื่น ๆ มาได้มากกว่านี้