ทำบล็อกมา 4 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่จะรีวิวแบรนด์ Origins เลยล่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เคยใช้เพราะจริง ๆ แล้วปูเป้เคยเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นสมัยพึ่งเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย เพราะในตอนนั้น Origins เป็นแบรนด์แรก ๆ ในท้องตลาดที่ภาพลักษณ์ดูเป็นกันเองและเป็นธรรมชาติที่สุดแล้ว (แถมราคาผลิตภัณฑ์ที่แพงที่สุดอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทเองมั้ง ซึ่งเป็นราคาที่เราเอาเงินค่าขนมซื้อได้สบาย ๆ) แต่หลังจากที่ทางแบรนด์เลิกนโยบายให้มีการซื้อชุดนวดหน้า นวดมือ นวดเท้า และเลิกผลิตสเปรย์บำรุงผมกลิ่นแอปเปิ้ลสุดเลิฟ ปูเป้ก็แทบไมได้แตะผลิตภัณฑืบำรุงผิวหน้าของแบรนด์นี้อีกเลย (มีใช้แต่พวก Body Care เพราะกลิ่นหอมเป็นที่สุดล่ะ)

Mega-Bright Skin illuminating Collection เป็นไลน์ใหม่ที่อยู่ภายใต้ชื่อ Dr. Andrew Weil for Origins™ ซึ่งคาดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาแทน Brighter by Nature เพราะในแง่ของการตลาดแล้วนั้น ชื่อของ Dr.Andrew Weil นั้นแข็งกว่ามาก โดยนำเสนอแนวคิดที่ว่าเมื่อผิวต้องเผชิญรังสียูวี ภาวะเครียดจากการสัมผัสกับสารเคมีในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่ความเหนื่อยล้า ทำให้เกิดจุดด่างดำ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ

อ้อ… ถึงจะห้อยอยู่ในชื่อ Dr. Andrew Weil แต่ไลน์นี้ก็ไม่มีส่วนผสมเกี่ยวกับเห็ดเลยล่ะ…

ทาง Origins นำเสนอและชูส่วนประกอบหลักสามชนิด ซึ่งตัวแรกคือ Rosa Roxburghii Complex (Rosa Roxburghii Fruit Extract) โดยเป็นสารสกัดจากผลของพืชตระกูลกุหลาบ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Chesnut Rose พบมากในแถบเมืองยุหนาน มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ซึ่งไม่สามารถหาข้อมูลที่ระบุไว้ว่าสารสกัดจากพืชชนิดนี้จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ แต่ผล Rosa Roxburghii นั้นก็มีการวิเคราะห์มาแล้วว่ามีปริมาณของวิตามินซี และ อีอยู่สูง รวมถึงมีสารแอนติออกซิแดนท์เอนไซม์อย่าง Superoxide Dismutaste และอื่นๆ อยู่อีกด้วย ทำให้ Rosa Roxburghii Fruit Extract มีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์ที่ดี และ Superoxide Dismutaste ยังสามารถลดปริมาณอนุมูลซูเปอร์ออกไซด์ (Superoxide Anion) ที่เป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ได้ ทว่าส่วนผสมชนิดนี้ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ เราสามารถหาได้ในผลิตภัณฑืไวท์เทนนิ่งของญี่ปุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์ในเครือของ ELCA อย่าง Clinique และ Estee Lauder ด้วย

ส่วนผสมอีกชนิดคือสารสกัดจากรากของต้นโบตั๋น (Paeonia Suffruticosa Extract/Paeonia Suffruticosa Root Extract) ที่สารประกอบที่แยกออกมาได้ทั้ง 6 ชนิด (Kaempferol, Quercetin, Mudanpioside B, Benzoyloxypaeoniflorin, Mudanpioside H และ Pentagalloyl-Beta-(D)-Glucose) นั้นมีคุณสมบัติในการขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ทั้งแบบ Competitive และ Non- Competitive

ส่วนผสมหลักตัวที่สามคือสารสกัดจากรากชะเอม ซึ่งอยู่ในรูปของ Dipotassium Glycyrrhizate และ Glycyrrhetinic Acid ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามีคุณสมบัติในการลดการอักเสบรวมถึงขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase อีกด้วย

อีกส่วนประกอบที่จะขาดไม่ได้สำหรับผลิตภัณฑ์ Origins คือ “น้ำมันหอมระเหย” หรือ Essential Oil ที่ทางแบรนด์ภาคิภูมิใจนำเสนอว่าเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณภาพและมีความบริสุทธิ์สูง

ใน Essential Oil มีสารประกอบรวมกันอยู่มากมายซึ่งมีทั้งสารที่เป็นประโยชน์ สารที่ให้กลิ่นหอม และสารที่อาจเป็นปัญหากับผิวได้ปะปนกันไป จริงอยู่ที่ Essential Oil หลายชนิดมีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ ลดเชื้อแบคทีเรีย และอื่น ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่ามันก็มีข้อเสีย เช่นน้ำมันหอมระเหยของพืชตระกูลซิตรัสอาจทำให้ผิวไหม้ได้ง่ายขึ้เมื่อโดนแสงธรรมชาติ (Phototoxic) หรือ Linaloon ที่เป็นสารประกอบของ Lavender นั้นมีโอกาสทำให้เกิดพิษต่อเซลล์ได้ (Cytotoxic) จากที่กล่าวมาแล้วว่า Essential Oil มีทั้งประโยชน์ และมีโทษเมื่อใช้ไม่ถูกต้อง ในกรณีสำหรับการนำมาใช้บนผิวโดยตรงนั้นก็มีข้อแนะนำให้ใช้ในความเข้มข้นที่ต่ำ และหากมีการระคายเคืองหรือแพ้ก็ต้องหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด

มีข้อสังเกตุเกี่ยวกับการระบุส่วนผสมของแบรนด์ Origins เล็กน้อยว่า ส่วนประกอบของ Essential Oil ที่อยู่ในลำดับต้น ๆ ของส่วนผสมนั้น เป็นลักษณะของ “สารรวม” หรือ “คอกเทล” ในขณะที่ส่วนผสมอื่น ๆ จะถูกแยกด้วยตามความเข้มข้นด้วยเครื่องหมายจุด (และส่วนผสมที่อยู่น้อยกว่า 1% ลงไป จะเรียงอย่างไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเรียงตามความเข้มข้น) ดังนั้นส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้จึงไม่ได้ถูกใส่มาในปริมาณที่เยอะเหมือนอย่างที่เคยเข้าใจ ส่วนตัวมีความเห็นว่าการใช้ทริกในการระบุส่วนผสมแบบนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์ดูเป็น “ธรรมชาติ” มากขึ้น เพราะนอกจากส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้และสารสกัดจากพืชที่เป็นจุดขายแล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ ก็มีทั้งซิลิโคน สารสังเคราะห์ และส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตเครื่องสำอางทั่ว ๆ ไป

ปูเป้ขอบอกตรงว่าผมชอบกลิ่นของ Origins มาก หอมเลิศที่สุดในสามโลกแล้ว แต่แน่นอนว่าผมก็ยังมองว่ากลิ่นหอมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบำรุงผิวโดยตรง และมีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคือง (Irritation) หรือการแพ้ได้ (Allergic Reaction) ได้ในบางคน ดังนั้นใครที่กังวลเรื่องนี้ก็ขอให้ทดสอบผลิตภัณฑ์ให้แน่ใจก่อนซื้อหรือก่อนใช้ทุกครั้ง และใครที่มีผิว Sensitive ก็จะขอให้เลี่ยงเอาไว้ก่อนจะดีกว่า ส่วนใครที่ไม่เห็นด้วยกับปูเป้ในเรื่องนี้ หรือคิดว่าส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยนั้นปลอดภัย 100% ก็ขอให้อ่านรีวิวนี้โดยมองข้ามคอมเมนต์เรื่อง Essential Oil ไปละกันจ้า (คนเราเห็นต่างกันได้เนอะ)

(Source : Effects of Rosa roxburghii Extract on Proliferation and Differentiation in Human Hepatoma SMMC-7721 Cells and CD34^+ Haematopoietic Cells, Relationship between ascorbic acid accumulation and related enzyme activities in fruit of Rosa roxburghii Tratt, In vitro antioxidant, antimutagenic and genoprotective activity of Rosa roxburghii fruit extract., Tyrosinase inhibitors isolated from the roots of Paeonia suffruticosa., Are Essential Oils Safe?), Critical incident: idiosyncratic allergic reactions to essential oils.)

Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Serum (30 ml / 3,000 THB)

มาดูที่ฮีโร่ของไลน์นี้กันก่อนเลย นอกจากส่วนผสมหลักทั้ง 3 ชนิด รวมถึงน้ำหอมหอมระเหยที่ปูเป้ได้ให้ความเห็นไปแล้วในเบื้องต้น เซรั่มขวดนี้ก็มีวิตามินซีในรูปของ Ascorbyl Glucoside ซึ่งวิตามินซีก็เป็นไวท์เทนนิ่งในตัวอยู่แล้ว มาคู่กับส่วนผสมที่ช่วยลดการระคายเคืองและแอนติออกซิแดนท์อีกหลายตัว และมี Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract หรือ ViaPure Citrus ของบริษัท Actives International ซึ่งเป็นการสกัดเอาฟลาโวนอยด์ Apigenin เพื่อมาใช้ในการลดการระคายเคืองและลดการอักเสบของผิวที่จะเกิดขึ้นจากรังสี UV ได้

แต่มีอยู่ส่วนผสมหลักอีกหนึ่งตัวที่ทางแบรนด์ไม่ได้พูดถึงคือ Dimethoxytolyl Propylresorcinol หรือ Nivitol™ (UP-302) โดยบริษัท Unigen Pharmaceutical ซึ่งเป็นสารที่ได้มาจากต้น Dianella Ensifolia ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการผลิตเมลานินให้น้อยลงโดยใช้กลไกในการขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase และทำให้เอนไซม์ชนิดนี้เสื่อมสลายตัวเร็วขึ้น ข้อดีของ Dimethoxytolyl Propylresorcinol คือใช้ในความเข้มข้นที่ต่ำมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีประสิทธิภาพมากกว่า Kojic Acid ถึง 20 เท่า (ส่วนผสมนี้ก้ถูกผสมอยู่ใน Clinique Even Better และ Estee Lauder Idealist เช่นกัน)

(Source : Unigen® Announces The Launch Of Nivitol™ – Powerful New Anti-Aging Skin Care Ingredient, 1-(2,4-Dihydroxyphenyl)-3-(2,4-dimethoxy-3-methylpheny)propane inhibits melanin synthesis by dual mechanisms., 1-(2,4-dihydroxyphenyl)-3-(2,4-dimethoxy-3-methylphenyl)propane, a novel tyrosinase inhibitor with strong depigmenting effects., Anti-inflammatory activity of structurally related flavonoids, Apigenin, Luteolin and Fisetin.)

ในเนื้อเซรั่มจะมีชิมเมอร์ขนาดเล็กอยู่ค่อนข้างมาก เมื่อส่องกับแสงจะเห็นการหักเหเป็นสีเหลือง ทอง ชมพู ซึ่งให้คุณสมบัติในการกระจายแสงเพื่อเพิ่มประกายสดใสแก่ผิวในทันที

Ingredients : Water, Dimethicone, Isododecane, Cyclopentasiloxane, Polysilicone-11, Butylene Glycol, Ascorbyl Glucoside, PEG-10 Dimethicone, PEG-6, Citrus Aurantium (Orange) Peel Oil | Pelargonium Graveolens Oil | Canaga Odorata Flower Oil | Eugenia Caryophyllus (Clove) Bud Oil | Rosa Damascena Flower Oil | Jasminum Officinale (Jasmine) Oil | Viola Odorata Flower/Leaf Extract |Polianthes Tuberosa Extract | Citronellol | Geraniol | Benzyl Benzoate | Eugenol, Rosa Roxburghii Fruit Extract, Paeonia Albiflora (Peony) Root Extract, Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract, Gentiana Lutea (Gentian) Root Extract, Horderum Vulgare (Barley) Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract, Citrus Grandis (Grapefruit) Peel Extract, Hydrolyzed Rice Bran Extract, Salicylic Acid, Cholesterol, Squalane, Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, Polysorbate 20, Tocopheryl Acetate, Dimethoxytolyl Propylresorcinol, Caprylyl Glycol, Sodium Hyaluronate, Dipotassium Glycyrrhizate, Di-C12-18 Alkyl Dimonium Chloride, Tromethamine, Polysorbate 60, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer, Glycyrrhetinic Acid, Sodium Hydroxide, Hexylene Glycol, Silica, Phenoxyethanol, Titanium Dioxide (CI 77891), Mica.

เซรั่มเป็นเบสน้ำและซิลิโคนที่เซ็ทตัวแนบสนิทกับผิวอย่างรวดเร็ว เนื้อผลิตภัณฑ์จะอำพรางร่องพื้นผิวที่ไม่เรียบให้สม่ำเสมอขึ้นซึ่งส่งผลให้การสะท้อนแสงเป็นไปอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น จากการทดลองใช้พบว่าเนื้อเซรั่มเข้ากันกับผลิตภัณฑือื่น ๆในไลน์ได้เป็นอย่างดี ไม่มีการลอกเป็นขุยเกิดขึ้น และทำให้กันแดดติดผิวได้ดีขึ้นด้วย

โดยสรุปแล้ว นอกจากส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยแล้ว นี่เป็นเซรั่มที่มีสารไวท์เทนนิ่งหลายชนิดผสมกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานไปที่การยับยั้งหรือโจมตีเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิวเป็นหลัก หากใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวหรือลดการส่งสัญญาณของเซลล์ผิวไปยังเมลาโนไซต์ ก็จะทำให้เห็นผลได้ดียิ่งขึ้น

Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Cleanser (150 ml / 1,400 THB)

สารทำความสะอาดที่ใช้เป็นแบบที่พบได้ทั่วไปใน Cleanser ตำรับเอเชีย ซึ่งการใช้สารกลุ่ม Fatty Acid ในการทำความสะอาดนั้นจะทำให้ผิวแห้ง ตึง ฝืดได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับค่า pH หรือปริมาณของด่างที่ใส่มา (ในที่นี้คือ Potassium Hydroxide) และส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น (Glycerin, Sodium Hyaluronate)

วิธีการใช้โฟมล้างหน้าลักษณะนี้ที่ถูกต้อคือการบีบโฟมลงมาในปริมาณที่ไม่ต้องมาก (ขนาดเท่าเม็ดไข่มุก) และผสมน้ำเพื่อวิปโฟมให้ฟูนุ่มและแน่นจนเหมือนโฟมโกนหนวด วิธีนี้จะช่วยลดความเข้มข้นของสาร ทำให้เกิดการระคายเคืองและลดความแห้งตึงของผิวที่จะเกิดขึ้น ฟองโฟมยังลดการเสียดสีของผิวในขณะนวด และทำให้ล้างฟองออกได้ง่ายขึ้นด้วย แต่วิธีนี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดนั้นไม่สูงนัก จึงทำให้โฟมล้างหน้าหลอดนี้เหมาะที่จะใช้เป็น Secondary Cleanser หลังจากใช้ Makeup Remover เพื่อลบเครื่องสำอาง รองพื้น บีบีครีม หรือครีมกันแดดออกก่อน

โดยรวมแล้วโฟมตัวนี้จะเหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมันครับ ถ้าทำตามวิธีการใช้ข้างบนแล้วผิวก็จะไม่แห้งตึงนัก จะว่าไปแล้วเราไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงขนาดนี้เพื่อล้างหน้าก็ได้ เว้นแต่เราจะชอบใช้อะไรครบไลน์ หรือชอบกลิ่นของโฟมหลอดนี้จริง ๆ

Ingredients : Water, Myristic Acid, Glycerin, Behenic Acid, Palmitic Acid, Potassium Hydroxide, Sodium Methyl Cocoyl Tautate, Lauric Acid, Stearic Acid, Citrus Aurantium (Orange) Peel Oil | Pelargonium Graveolens Oil | Canaga Odorata Flower Oil | Eugenia Caryophyllus (Clove) Bud Oil | Rosa Damascena Flower Oil | Jasminum Officinale (Jasmine) Oil | Viola Odorata Flower/Leaf Extract |Polianthes Tuberosa Extract | Citronellol, Rosa Roxburghii Fruit Extract,PEG-3 Distearate, Butylene Glycol, Sodium Hyaluronate, Phenoxyethanol, Methylchloroisothiazolinone, Methylisothiazolinone.

Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Treatment Lotion (200 ml / 1,500 THB)

โลชั่นเช็ดผิวนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์เป็นอันดับสาม พ่วงมาด้วยคอกเทลของน้ำมันหอมระเหย แม้จะไม่ได้ทำให้ผิวแห้งอะไรนักและมีส่วนผสมของสารแอนติออกซิแดนท์ สารลดการระคายเคืองมาให้บ้าง แต่ปูเป้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะคุ้มกันหรือทดแทนกันได้รึเปล่า ถ้าสามารถตัดน้ำมันหอมระเหยไปได้ โทนเนอร์ตัวนี้ก็จะถือว่าอยู่ในระดับโอเคสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันครับ

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Alcohol Denat., Citrus Aurantium (Orange) Peel Oil | Pelargonium Graveolens Oil | Canaga Odorata Flower Oil | Eugenia Caryophyllus (Clove) Bud Oil | Rosa Damascena Flower Oil | Jasminum Officinale (Jasmine) Oil | Viola Odorata Flower/Leaf Extract |Polianthes Tuberosa Extract | Citronellol | Geraniol | Benzyl Benzoate, Paeonia Albiflora (Peony) Root Extract, Rosa Roxburghii Fruit Extract, Palmaria Palmata Extract, Glycerin, Polysorbate 20, Sodium Hyaluronate, Dipotassium Glycyrrhizate, Salicylic Acid, Jojoba Wax PEG-120 Esters, Glucosamine HCL, Caprylyl Glycol, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Hexylene Glycol, Toocopheryl Acetate, Sodium Hehydroacetate, Phosphoric Acid, Potassium Hydroxide, Phenoxyethanol.

Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Moisturizer (50 ml / 2,700 THB)

ส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาในผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือ Palmaria Palmata Extract ที่นอกจากจะไปลดการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase และยังมีคุณสมบัติในการลดการลำเลียงถุงเม็ดสีเข้าไปยังเซลลืผิวด้วย เป็นส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการเป็นไวท์เทนนิ่งของเซรั่มนั่นเอง นอกจากนั้นก็เป็นส่วนผสมที่ซ้ำ ๆ กันกับเซรั่มซึ่งก็ได้ให้ความเห็นไปแล้วด้านบน แต่บรรจุภัณฑ์แบบกระปุกสามารถทำให้สารบำรุงต่าง ๆ ที่ไวต่อแสงและอากาศจะค่อยๆ เสื่อมประสิทธิภาพไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เปิดใช้

(Source : INNOVATORY APPROACH FIGHTS PIGMENT DISTURBANCES)

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมเจลชุ่มฉ่ำ บางเบา และไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะเอาไว้บนผิว ถือว่าให้ผลทางคอสเมติคที่ดีทีเดียวและเหมาะกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนอย่างบ้านเราด้วย อันนี้น่าจะใช้ได้กับเกือบทุกสภาพผิว แต่ผิวที่แห้งมากอาจจะพบว่ามันเคลือบผิวได้ไม่พอ คงต้องปรับไปใช้อะไรที่เนื้อเข้มข้นกว่านี้

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Dimethicone, Glycerin, Octyldodecyl Myristate, Bis-PEG-18 Mehyl Ether Dimethyl Silane, Citrus Aurantium (Orange) Peel Oil | Pelargonium Graveolens Oil | Canaga Odorata Flower Oil | Eugenia Caryophyllus (Clove) Bud Oil | Rosa Damascena Flower Oil | Jasminum Officinale (Jasmine) Oil | Viola Odorata Flower/Leaf Extract |Polianthes Tuberosa Extract | Geraniol | Benzyl Benzoate |Citronellol, Horderum Vulgare (Barley) Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract, Paeonia Albiflora (Peony) Root Extract, Palmaria Palmata Extract, Rosa Roxburghii Fruit Extract, Sucrose, Squalane, Dipotassium Glycyrrhizate, Jojoba Esters, Tromethamine, Methyl Gluceth-20, Laureth-4, PEG-6, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Sodium Hyaluronate, Tocopheryl Acetate, Polymethylsilsesquioxane, Carbomer, Caprylyl Glyol, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Hexylene Glycol, Phenoxyethanol.

Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating UV Protector SPF40 / PA+++ (40 ml / 1,800 THB)

กันแดดหลอดนี้ใช้สารกันแดดแบบผสมทั้ง Chemical และ Physical ซึ่งสามารถปกป้องผิวได้ครบทั้ง UVA และ UVB และสารกันแดดชนิด Physical ก็มีความเสถียรอยู่แล้ว (ตราบใดที่มันยังคงติดอยู่บนผิว) นอกจากส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยแล้ว กันแดดหลอดนี้ก็มีส่วนผมของสารแอนติออกซิแดน์และสารลดการระคายเคืองอีกหลายชนิด (รวมถึงส่วนผสมที่เป็นไวท์เทนนิ่งด้วย)

กันแดดหลอดนี้มีสีเนื้อซึ่งไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรเท่าไหร่ แต่จะช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้น เหมือนใช้เป็นเมคอัพเบสได้ในตัว สามารถเกลี่ยได้ง่ายมากและเซ็ทตัวแบบ Soft Matte ดูไม่มันวาว แต่จากที่ลองใช้นั้นก็สามารถดูดซับความมันอยู่ได้แค่ชั่วโมงกว่าก็เริ่มเห็นความมันบริเวณ T-Zone โผล่ขึ้นมาบ้างแล้ว กันแดดหลอดนี้ไม่กันน้ำและเหงื่อจ้า เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้ประจำวัน (หากใครเคยใช้กันแดด Derma White ที่พึ่งออกใหม่เมื่อปีก่อน มันจะคล้ายกันเลยแต่ของ Origins มีความเข้มของเม็ดสีน้อยกว่าเยอะ)

นอกจากส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยแล้ว กันแดดหลอดนี้มีคุณสมบัติของครีมกันแดดที่ดีครบถ้วนทุกประการ โดยเฉพาะผลทางคอสเมติคที่น่าประทับใจ

Ingredients : Water, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Zinc Oxide, Butylene Glycol, Titanium Dioxide, C12-15 Alkyl Benzoate, Cetyl Alcohol, Laureth-4, Ethylhexyl Salicylate, Citrus Aurantium (Orange) Peel Oil | Pelargonium Graveolens Oil | Canaga Odorata Flower Oil | Eugenia Caryophyllus (Clove) Bud Oil | Rosa Damascena Flower Oil | Jasminum Officinale (Jasmine) Oil | Viola Odorata Flower/Leaf Extract |Polianthes Tuberosa Extract | Geraniol | Benzyl Benzoate | Citronellol | Eugenol, Rosa Roxburghii Fruit Extract, Paeonia Albiflora (Peony) Root Extract, Gentiana Lutea (Gentian) Root Extract, Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract, Horderum Vulgare (Barley) Extract, Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower Extract, Triticum Vulgare (Wheat) Germ Extract, Salicornia Herbacea Extract, Palmaria Palmata Extract, Pantethine, Dipotassium Glycyrrhizate, Sodium Hyaluronate, Polyethylene, PEG-100 Stearate, Hydrogenated Lecithin, Polyglyceryl-3 Beewax, PVP/Hexadecena Copolymer, Isostearic Acid, Isohexadecane, Tocopheryl Acetate, Polyhydroxystearic Acid, Caprylyl Glycol, Squalane, Methicone, Polysornate 80, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Zeolite, Nylon-12, Alumina, Acrylamide/Sodium Acryloyldimethyltaurate Copolymer, Xanthan Gum, Hexylene Glycol, Phenoxyethanol, Iron Oxides (CI 77491, CI 77492, CI 77499).

โดยภาพรวมแล้ว Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin illuminating Collection เป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซึ่งคาดหวังในเรื่องของการเป็นไวท์เทนนิ่งได้แบบค่อยเป็นค่อยไป (โดยตัว Serum จะเป็นตัวหลัก และเสริมด้วย Moisturizer) เนื้อผลิตภัณฑืให้สัมผัสและความรู้สึกในการใช้ที่ดี สิ่งที่ขาดไปในไลน์นี้คือตัวที่ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวที่จะเอาเซลล์ที่หมองคล้ำให้หลุดออกไปไวขึ้น (ถึงจะมี Salicylic Acid แต่ค่า pH รวมถึงความเข้มข้นไม่มากพอที่จะผลัดเซลล์ผิวได้) ดังนั้นใครที่มีพวก Peel หรอ AHA / BHA / PHA ก็สามารถใช้คู่กันได้ (แต่ใครที่กังวลเรื่องการระคายเคือง ขอแนะนำให้ใช้ PHA จ้า)

ที่ต้องคำนึงถึงนั้นมีอยู่เพียงอย่างเดียวคือส่วนผสมของ Essential Oil อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่ตอนนั้น เพราะแม้จะมีประโยชน์ในบางแง่มุม (และกลิ่นหอมโคตรรรร ปลาบปลื้มมมม!!!) แต่ส่วนผสมเหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง หรืออาการแพ้ได้ โดยไม่สำคัญว่าจะสกัดมาจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้แม้จะไม่เกิดขึ้นกับทุกคน แต่สำหรับคนที่มีผิว Sensitive หรือกังวลในเรื่องของการแพ้หรือการระคายเคืองให้ทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะซื้อหรือจะใช้กับผิวหน้าเพื่อความมั่นใจด้วยจ้า

สรุปสั้น ๆ ว่าใครที่เป็นแฟนของกลิ่นหอม ๆ และน้ำมันหอมระเหยที่อยากได้ชุดไวท์เทนนิ่งที่คาดหวังผลได้ก็กระโจนเข้าใส่ได้เลย แต่ใครที่ไม่ชอบใช้อะไรที่มีกลิ่นหอมหรือต้องการหลีกเลี่ยงส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย เราก็มี Clinique : Even Better Clinical Dark Spot Corrector เป็นตัวเลือกที่พอทดแทนกันได้ เพราะสารไวท์เทนนิ่งหลักนั้นแทบเหมือนกันเลยจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั๊ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้งครับ

ส่วนใครที่สนใจหรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีเคาน์เตอร์ที่ไหน มีโปรโมชั่นอะไร หรือมีกิจกรรมอะไรบ้าง ก็แวะไปที่ Facebook ของ Origins Thailand ได้เลยจ้า

ข้อดี

– ส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งนั้นคาดหวังผลได้
– มีส่วนผสมของสารแอนติออกซิแดนท์และสารลดการระคายเคืองมาหลายชนิด
– บรรจุภัณฑ์เป็นแบบทึบแสง
– เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบา เหมาะกับอากาศเขตร้อน
– กันแดดให้ผลทางคอสเมติคที่ดี
– กลิ่นหอมม๊ากกกก (เป็นความชอบส่วนตัว)

ข้อเสีย

– มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย และสารสกัดจากพืชที่ให้กลิ่นหอมในทุกผลิตภัณฑ์
– มอยซ์เจอไรเซอร์ใช้บรรจุภัณฑ์แบบกระปุกที่ไม่เป็นมิตรกับสารบำรุงที่ไวต่อแสงและอากาศ

***Sponsored Item***

– Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Cleanser
– Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Treatment Lotion
– Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Serum
– Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating Moisturizer
– Dr. Andrew Weil for Origins™ : Mega-Bright Skin Illuminating UV Protector SPF40 / PA+++