ช่วงเวลาหนึ่งปีนั้นผ่านไปไวนัก เผลอแปปเดียวก็ถึงเวลาของ PuPe’s Favorite อีกครั้ง เกณฑ์การตัดสินนั้นง่ายมาก ไอเทมไหนที่แจ่มว้าว หยิบมาใช้บ่อย ใช้จนหมด ซื้อใช้ซ้ำ ๆ ถึงจะได้ตำแหน่ง PuPe’s Favorite ไปครอง

หลัก ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในลิสต์ของปีนี้คือผลิตภัณฑ์หน้าใหม่ ๆ ที่ได้ลองในปีนี้ บางตัวที่ยังหาอะไรมาทดแทนไม่ได้จริงๆ ก็จะยังคงเอามาลงอยู่บ้าง แต่ผลิตภัณฑ์ที่เคยได้ลงเป็น Favorite ในปีก่อน แต่ไมไ่ด้ลงในปีนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ชอบแล้วนะจ๊ะ ยังคงชอบ และหลายตัวก็ยังคงใช้อยู่ทุกวัน แต่เราอยากจะเสนอความหลากหลายและตัวเลือกใหม่ ๆ ให้ผู้อ่านที่น่ารักของเรามากกว่า (มีแต่ของเก่า ๆ ทุกปีคงน่าเบื่อแย่)

ในปีนี้ปูเป้นำหมวดผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกายกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ปีก่อนหายไปและมีคนทวงกันมาพอสมควร (โดยเฉพาะกันแดดสำหรับผิวกาย) ก็หวังว่าจะสมใจทุกท่านที่ตั้งตารอคอยบล็อกนี้มาตลอดทั้งปีนะฮะ

ด้วยรัก

PuPe_so_Sweet

 photo PPFav2014MakeupRemover.png
Makeup Remover

THREE Balancing Cleansing Oil (200ml / 1,800 Baht)

ไม่เคยมีออยล์ล้างหน้าตัวไหนติด Favorite ของเรามาก่อน และส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบใช้ Cleansing Oil เท่าไหร่ เพราะถ้าไม่ทำให้เป็นสิวก็มักจทำให้ผิวแห้งหลังล้างออกไปเลย แต่ออยล์ล้างหน้าขวดนี้เปลี่ยนความคิดของเราไปอย่างสิ้นเชิง เนื้อออยล์จากพืชที่นุ่มผิว กลิ่นหอมแนวซิตรัสสดชื่น หลังจากล้างน้ำออกแล้วผิวจะยังคงมีน้ำมันตกค้างอยู่บางส่วน เพื่อให้การล้างซ้ำด้วยโฟมล้างหน้าอีกครั้งนั้นออกมาได้ฟีลที่พอดี ไม่แห้งตึง

L’Oreal Paris : Skin Perfection 3 in 1 Purifying Micellar Solution (200ml / 390 Baht)

เป็น Cleansing Water ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม สี และสารก่อการระคายเคือง ส่วนผสมเบสิคจึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ได้ ข้อเสียอย่างเดียวคือฝาขวดที่ทำให้การเทมันเลอะเทอะไปหน่อย แต่นอกนั้นก็ถือว่าเป็น Cleansing Water ที่ผ่านคุณสมบัติที่เราต้องการในทุกข้อ รวมทั้งราคาด้วย

 photo PPFav2014Cleanser_1.png

Cleanser

RMK Powder Soap (35g. / 1,150 Baht)

รักมากกกก เลิศมากกกก ดีงามมม ผงแป้งล้างหน้าสีหวาน ๆ นี้ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยนและสามารถทำความสะอาดรอบดวงตาได้โดยที่แทบจะไม่แสบตาเลย (​เว้นแต่จะสาดเข้าตาแบบจัง ๆ) ฟองไม่เยอะมาก เหมาะที่จะทำความสะอาดในตอนเช้า หรือทำความสะอาดหลังจากล้างเครื่องสำอาด้วย Makeup Remover แล้ว เพราะไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ล้างออกได้ง่าย ไม่มีน้ำหอม และขวดนึงใช้ได้สองเดือนกว่า ๆ เลยนะ

Kiehl’s Calendula Deep Cleansing Foaming Face Wash (230ml / 1,150 Baht)

เจลล้างหน้าตัวนี้เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมัน ทำความสะอาดได้ดีทีเดียว ล้างออกได้อย่างสะอาดหมดจด แถมกลิ่นหอมของมะนาวสดชื่น ๆ อีกด้วย

Hada Labo AHA/BHA Foaming Wash (160ml / 387 Baht)

โฟมล้างหน้าตัวนี้เหมาะมากสำหรับผิวผมถึงผิวมันในช่วงหน้าร้อนที่อากาศเนอะหนะ สารทำความสะอาดอ่อนโยนและล้างความมันออกได้ดี รู้สึกสะอาดสบายผิวในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป (แต่อย่าหวังเรื่องผลัดเซลล์ผิวล่ะ)

Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Facial Wash (100g / 280 Baht)

โฟมล้างหน้าสิ้นคิดของเรา คือมันเป็นอะไรที่เบสิคและดีงาม อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง คงความชุ่มชื้นให้ผิวหลังล้างหน้าด้วย หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงจนกระเป๋าฉีก ใช้ได้กับทุกสภาพผิวและเหมาะมากสำหรับผิวผสมถึงผิวมันในช่วงที่อากาศแห้ง เราจะปรับจาก AHA/BHA มาใช้ตัวนี้แทน

Paula’s Choice RESIST Perfectly Balanced Foaming Cleanser (190ml / 900 Baht)

ตัวนี้พึ่งวางขายในไทยช่วงหลังๆ ของปีนี้เอง แต่มาแรงแซงทางโค้งมากมาย เนื้อเคล็นเซอร์เข้มข้น ให้ฟองเล็กน้อยถึงปานกลาง ทำความสะอาดได้ดี ล้างออกได้ไม่ยาก และให้ความรู้สึกนุ่มสบายผิวหลังล้างออก เป็นเคล็นเซอร์ของป้าพอลล่าที่เราชอบที่สุดในตอนนี้เลย

 photo PPFav2014Toner.png

Toner / Water Lotion

Paula’s Choice RESIST Weightless Advance Repairing Toner (118ml / 1,050 Baht)

ในที่สุดเราก็เจอคนที่มาโค่นตำแหน่งโทนเนอร์ในดวงใจไปจาก Skin Balancing Toner ของป้าพอลล่าไปได้ กับโทนเนอร์ตัวใหม่ของป้าที่เนื้อบางเบาแต่อัดแน่นไปด้วยสารบำรุง ทั้งวิตามิน B3 ปริมาณมาก เปปไทด์ และส่วนผสมที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว ให้ผลของการบำรุงแบบครอบคลุมไปถึงการป้องกันริ้วรอยด้วยเลย

IPSA The Time Reset Aqua (200ml / 1750 Baht)

รุ่นใหม่นี้ปราศจากแอลกอฮอล์ แต่ยังคงความรู้สึกที่บางเบา และให้ความชุ่มชื้นเหมือนม่านน้ำคลุมผิวบางเบา ปูเป้ชอบเอามาใช้เป็นเบสในการทำ Lotion Mask ในยามที่ผิวขาดน้ำ แจ่มมาก ๆ

Hada Labo Super Hyaluronic Acid Hydrating Lotion – Light (170ml / 580 Baht)

ในที่สุด Hada Labo ก็เอาสูตร Light เข้ามาขาย พร้อมกับสูตรใหม่ที่เพิ่มไฮยาลูโรนิคเป็น 4 ชนิดเพื่อความชุ่มชื้นที่ล้ำลึกยิ่งขึ้น ตัวนี้เหนอะน้อยกว่าสูตรปกติมาก นับเป็นโลชั่นสารพัดประโยชน์ นอกจากจะใช้กับผิวหน้าแล้ว ปูเป้ยังเอามาตบที่ผิวกายก่อนจะทามอยซืเจอไรเซอร์ทับเพื่อความชุ่มชื้นที่ดียิ่งขึ้นในช่วงอากาศแห้ง ๆ ตอนหน้าหนาวนี้

Clinique Even Better Essence Lotion – normal to oily Skin (100ml / 1,700 Baht)

แม้มันจะไม่ได้ช่วยให้ขาวหรือสีผิวสม่ำเสมอกันสักเท่าไหร่ในความรู้สึกของปุเป้ แต่มันเป็นโลชั่นน้ำที่ทำออกมาได้ดี ให้ผิวดูใสเพราะความชุ่มชื้น มีสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด และสูตรสำหรับผิวเบอร์ III IV ก็ เบาสบายผิว ไม่รบกวนการเลเยอร์ผลิตภัณฑ์ในขั้นต่อ ๆ ไปด้วยล่ะ

 photo PPFav2014Essence.png
Treatment Essence

Biotherm Life Plankton Essence (125ml / 2,500 Baht)

กราบงาม ๆ 99 ทีรัว ๆ กับเอสเซนส์ตัวนี้กับประสิทธิภาพในการลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว สำหรับคนที่เป็นสิว มีผิวอักเสบ รอยแดง และมีคันบ่อยๆ อย่างปูเป้นั้น มันเหมือนสวรรค์มาโปรดเลยล่ะ ช่วงที่ไปกดสิว หรือผิวเยิน ๆ แพ้ ๆ มีอักเสบ เราจะเอาน้ำแพลงก์ตอนตัวนี้มาทำมาส์กหน้าเลย 

เอสเซนต์ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นดีเลยล่ะ แต่ก็ว่าคุณสมบัติในการเคลือบผิวจะทำให้รู้สึกเหนอะไปถ้าทาสกินแคร์ทับหลายชั้น ส่วนใหญ่ปุเป้เลยจะใช้ตัวนี้ในตอนกลางคืน หรือในตอนกลางวันที่ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน

Sum:37 Secret Programing Essence (150ml / 130,000 Won)

น้ำป้าเช็งเกาหลีที่เอาผักผลไม้กว่า 50 ชนิด มาหมักบ่มในอุณหภูมิ 37 องศา นาน 3 ปี 7 วัน พร้อมเปิดเพลงให้มันฟังด้วย นอกจากเรื่องราวที่ฟังดูเว่อวังอลังการแล้ว เอสเซนส์ตัวนี้มีเนื้อที่ข้นกว่า FTE และให้เรื่องความชุ่มชื้นได้ดีกว่า เรื่องความใสของผิวก็ทำได้ดี แม้ส่วนตัวรู้สึกว่ายังให้ผลในเรื่องความใสของผิวสู้ SK-II ไม่ได้ แต่ก็ถือเป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจมาก เราตั้งใจจะไปซื้อเพิ่มตอนไปทริปเกาหลี แต่ว่างบประมาณก็พ่ายแพ้ให้กับขวด Limited Edition ของ SK-II ไปก่อน ไว้มีโอกาสไปเกาหลีครั้งต่อไปเราจะตำมาใช้ต่ออีกแน่นอนจ้า

SK-II Facial Treatment Essence (215ml / 5,990 Baht)

ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ใช้มา 8 ปีแล้ว ถ้าฉีดเข้าเส้นคงได้ทำไปแล้ว 555

SK-II LXP Ultimate Perfecting Essence (150ml / 10,110 Baht)

เสียใจมากที่รักตัวนี้ เพราะราคามันโหดร้ายเหลือเกิน แถมราคาก็ขึ้นเอา ๆ แต่มันดีจริง ๆ ช่วงเดือน 6 – 9 เรานอนวันละไม่กี่ชั่วโมง แต่เพราะขวดทองนี้ สภาพผิวเรายังคงตรวจมาได้คะแนนดีอย่างไม่น่าเชื่อ ขวดนี้จึงเก็บเอาไว้ในช่วงที่อยากจะบูสต์ผิว หรือใช้ร่างกายหักโหม เพื่อให้ยังคงสภาพเป็นคนอยู่ได้

 photo PPFav2014Serrum.png
General / Multi-Benefit Serum

หมวดนี้สำหรับเซรั่มที่เรามองว่าใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทุกเพศ ทุกวัย และใช้คู่กับเซรั่มเฉพาะทางอื่น ๆ ได้

Paula’s Choice RESIST Ultra-Light Super Antioxidant Concentrate Serum (30ml / 1,490 Baht)

สิ่งที่เราชอบมากคือเนื้อมันบางเบาและอัดแน่นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแบบ A List ตัวเด่นๆ ดัง ๆ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทุกเพศ ทุกวัย เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับใช้ในตอนกลางวัน (กลางคืนก็ได้นะ แต่ถ้ามีเซรั่มหลายตัวเราจะแยกใช้ตัวนี้แค่กลางวัน แลกลางคืนทาตัวอื่น)

Sulwhasoo First Care Activating Serum (60ml / 2,500 Baht)

เป็นเซรั่มที่เราใช้มาตลอดกว่าสองปีแล้ว แต่เรารักมันมากยิ่งขึ้นเมื่อพบว่ามันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการเตรียมผิวก่อนจะออกกำลังกาย คือปูเป้ออกกำลังกายฟิตเนสและก่อนที่จะออกกำลังกายก็จะต้องล้างหน้าให้สะอาด แต่ครั้นจะไม่ทาอะไรหลังล้างหน้าเลยหน้าก็จะรู้สึกแห้งไม่สบายผิว จะทามอยซ์เจอไรเซอร์ก็เหนอะไป กลัวอุดตัน แต่สุดท้ายเราพบว่าการโปะเจ้า FCAS นี้หลังล้างหน้าเพียงตัวเดียวก็เพียงพอให้ผิวรู้สึกสบาย และสิวก็ไม่ขึ้นด้วย เราแนะนำน้องที่มีปัญหาสิวเพราะสกินแคร์จากการเล่นฟิตเนสเหมือนกัน นางก็บอกว่าเวิคร์

Fracora Placenta Extract (30ml / 1,390 Baht)

เซรั่มรกหมูที่รัก เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในบรรดาสารพัดสุดยอดสกินแคร์ที่เราประโคมโบกลงไปบนหน้า จะยังเหลือที่ว่างพอให้มีการพัฒนาของหนังหน้าเราได้อีก แต่เราคิดผิด รกหมูนางช่วยให้ผิวเรารู้สึกละเอียดขึ้น และจุดด่างดำ รอยสิวจางไวขึ้นได้อีก ทำให้เราชอบจับผิวตัวเองหลังล้างหน้ามาก ๆ เพราะมันลื่นและนิ่มมมม (PS. เราใช้คู่กับการกินอาหารเสริมรกหมูและคอลลาเจนของเขาด้วยนะ)

 photo PPFav2014Eye.png
Eye Treatment

StriVectin-AR Advance Retinol Eye Treatment

หลังจากใช้ตัวนี้มาได้สักพักหนึ่งในช่วงที่เราทำ Before-After ของสกินแคร์ตัวอื่น จนทำให้เราสังเกตเห็นว่าร่องจาง ๆ ตรงหางตาที่มันขึ้นมาตามวัยมันตื้นหายไป (ทั้งที่เราใช้อายครีมตัวอื่นมาตลอดก่อนหน้านี้มันก็ยังมี) จึงมั่นใจว่าเพราะตัวนี้นี่แหล่ะที่ช่วยไว้และก็ใช้มาเรื่อย ๆ ในช่วงหลังของปี

SK-II Facial Treatment Essence Eye (15g / 2,900 Baht)
ถึงจะขายเป็นเอสเซนส์ แต่ด้วยเนื้อสัมผัสและส่วนผสมของตัวเบสแล้วนั้นมันคืออายครีมตัวหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากมาย ส่วนตัวใช้แล้วรู้สึกว่ามันช่วยให้ตาไม่คล้ำมากในช่วงที่นอนดึก ให้ความชุ่มชื้นแบบไม่เหนอะหนะ ไม่ได้ช่วยเรื่องริ้วรอยจ้า

Vichy LiftActiv Serum 10 Eye & Lahes (15ml / 1,700 Baht)

อันนี้นอกกระแสสุด ๆ จนเราเองก็ลืมไปเลยว่ามีจนกระทั่งขุดกรุเจอก่อนจะหยิบมาใช้แบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่อายเซรั่มตัวนี้ให้สัมผัสที่ชุ่มฉ่ำ ซึมง่าย ไม่เหนอะ ให้ความชุ่มชื้นกำลังดีสำหรับคนที่ผิวรอดวงตาไม่แห้งมาก (ถ้าแห้งมากทามอยซ์เจอไรเซอร์ทับได้ตามปกติ) ตัวนี้ทำให้ผิวรอบดวงตาละเอียดขึ้น ริ้วเล็ก ๆ จางลง และช่วยให้ขนตาแข็งแรงหลุดร่วงน้อยลงด้วย ตัวนี้ทาชิดแนวขนตาได้โดยที่ไม่แสบตาด้วยล่ะ

 photo PPFav2014Sunscreen.png
Daily Moisturiser / Sunscreen

Garnier UV Complete Whiten & Protect Daily Sunscreen SPF50+ PA++++ (30ml / 249 Baht)

ดีใจที่สุดในสามโลกที่กันแดดตัวนี้กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งพร้อมการปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยยังคงราคาสุดประหยัด ประสิทธิภาพสูง กัน UV ได้ครบและเสถียร ปราศจากน้ำหอม ใช้แทนมอยซ์เจอไรเซอร์ในตอนกลางวันไปได้เลย เหมาะสำหรับหรับผิวธรรมดา ผิวผสม ถึงผิวแห้ง ตัวนี้ไม่กันน้ำและล้างออกง่ายด้วยเคล็นเซอร์ทั่วไป

Biore UV Aqua Rich Watery Mousse SPF50+ PA++++ (30ml / 290 baht)

สูตรใหม่ที่ออกมาในช่วงต้นปีมีค่าการป้องกันรังสี UV ที่ดีขึ้น เสถียรขึ้น เนื้อสัมผัสเนียนติดผิวได้ดีขึ้น มีโอกาสเป็นขุยน้อยลง ในราคาเบาๆ เหมือนเดิม เป็นกันแดดที่เราแนะนำสำหรับคนที่มีผิวธรรมดาถึงผิวมันที่อยากได้กันแดดเนื้อดี ๆ ไม่เหนอะ ไม่มัน

Allie UV Long Keep Gel SPF50+ PA++++ (25g / 500 Baht – 60g / 1,050 Baht)

สำหรับใครที่มีงบมากขึ้น ALLIE ใช้เทคโนโลยีเบื้องหลังคล้ายกับ Biore แต่เนื้อสัมผัสเนียนละเอียดกว่า ช่วยเป็นเบสปรับผิวให้ดูกระจ่างขึ้น ติดผิวได้ดีทีเดียว แถมไม่มีน้ำหอมด้วย

RMK UV Face Protector SPF50+ PA++++ (50g / 1,250 Baht) ตัวนี้เป็นตัวที่เราชอบหากต้องการฟีลแบบสบาย ๆ เนื้อจะคล้าย Biore รุ่น ​Essence หลอดสีฟ้า แต่ว่ามีค่าPA สูงกว่า และไม่มีน้ำหอมด้วย ด้วยราคาที่สูงกว่าเราจึงสงวนเอาไว้ทาหน้าและคออย่างเดียวพอ

Paula’s Choice RESIST Youth-Extending Daily Mattifying Fluid Board Spectrum SPF50 (60ml / 1,350 Baht) เป็นกันแดดทาหน้าแบบ Chemical ล้วนของป้าพอลล่าที่บางที่สุดแล้ว เนื้อเหลวมาก และเมื่อแห้งจะเซ็ทตัวแบบซอฟแมท ซิลิก้าจำนวนมากทำให้เวลาเซ็ทตัวและปัดแป้งฝุ่นลงไปแล้วผิวจะดูนวลแต่เป็นธรรมชาติดี เป็นมอยซืเจอไรเซอร์ผสมสารกันแดดที่ไว้ใจได้อีหนึ่งตัว

 photo PPFav2014Hydration.png
Hydration



Kiehl’s Hydro-Plumping Re-Texturizing Serum Concentrate (50ml / 2,500 Baht)

แว่บแรกเราพูดเลยนะว่าปล้นกันชัด ๆ กับ Glycerin 15% ในราคา 2,500 บาท แต่พอได้ลองใช้แล้วนี่กลืนน้ำลายตัวเองอึกใหญ่ เพราะแม้กระทั่งตัวเราเองยังไม่คิดมาก่อนว่า Glycerin 15% กับสารสกัดข้างเคียงนิดหน่อย เมื่อนำมาหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีของเนื้อสัมผัสและระบบนำพามันจะมีผลกับผิวได้มากขนาดนี้

เรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อ GLycerin และความชุ่มชื้นไปอีกขั้นหนึ่งเลย ประทับใจมากถึงขนาดเอาไปเป็นตัวอย่างตอนไปบรรยายเรื่องเครื่องสำอางด้วย คือทุกสิ่งที่เขาเคลมมามันทำได้หมดเลย คือผิวรู้สึกฟู อิ่มเอิบ ดูสดใส ผิวละเอียดขึ้น และชุ่มชื้นได้ยาวนานแม้เนื้อจะไมไ่ด้ข้นหรือหนักอะไรเลย ตัวนี้เราแนะนำให้เพื่อนที่ผิวแห้งมากใช้ นางชอบมาก ส่วนเราผิวผสมถึงมันเป็นสิวง่ายและขาดน้ำ ก็แจ่มมาก เรียกได้ว่าเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยจริง ๆ

 photo PPFav2014AntiAging.png
Anti-Aging

SK-II Essential Power Essence (50ml / 5,700 Baht) + SK-II Essential Power Rich Cream (50g / 5,200 Baht)

เมื่อมองจากภายนอกเราเป็นคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยและเราเองก็คิดแบบนั้นมาตลอด แต่สิ่งที่ทำให้เราตกใจมากกับสัญญาณของวัยที่เพิ่มขึ้นคือตอนที่เรานั่งท้าวคางดูคอมไปเรื่อยๆ แล้วก็เงยหน้าขึ้นไปดูกระจก เราเห็นรอยยับรอบพับตรงคางเป็นเส้นคงอยู่นานเป็นสิบวินาที แบบว่าเราตกใจมาก คือความกระชับความยืดหยุ่นของผิวข้างในเราเริ่มไปแล้ว แม้ภายนอกจะยังดูเป็นปกติ

หลังจากใช้คู่นี้จนเซรั่มหมดไปขวดนึงแต่ครีมยังเหลืออีกครึ่งกระปุก (เพราะมันเป็นสูตรเข้มข้นน่ะเลยใช้ไม่มากในตอนกลางคืน เราใช้แต้มแลกมาฟรี) เราพบว่าผิวมีความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ไวขึ้น คือเวลาเท้าคางก็ยังมีรอยพับนะ แต่มันคืนตัวไวขึ้นกว่าตอนก่อนที่จะใช้ แล้วเรารู้สึกว่ารูขุมขนเราดูกระชับและผิวก็นุ่มมาก

Clarins Facial Lift Total Contouring Serum (50ml / 2,790 Baht)

เซรั่มปรับรูปหน้าที่เคลมว่าช่วยให้หน้าเป็นวีเชพ คือไม่ว่าเขาจะเคลมไว้ว่าอะไรบ้าง แต่สิ่งที่เราชอบและเห็นชัดคือเมื่อทำคู่กับท่าที่เขาแนะนำให้ใช้คู่กัน โครงหน้าเราจะเข้มรูปมากขึ้นเพราะมันช่วยเดรนของเสียและของเหลวที่ค้างอยู่ใต้ผิว ทำให้รูปหน้าเราชุดขึ้น ตรงแก้ม ปากที่มักบวมๆ ก็จะยุบลง รุ่นใหม่นี้เนื้อก็เบาขึ้น ซึมง่ายขึ้น ทำให้การเลเยอร์ผลิตภัณฑ์ขั้นต่อไปไม่ค่อยมีปัญหาด้วยล่ะ

 photo PPFav2014Whitening.png
Whitening

IPSA White Process Essence (20ml / 2,750 THB , 50ml / 5,500 THB)

ปีนี้ไม่ค่อยได้ลองไวท์เทนนิ่งอะไรใหม่ เพราะว่ายังมีอันนี้ตุนไว้อยู่หลายขวด ก็ยังใช้และชอบมาตลอดทั้งปีเหมือนเดิมจ้า

SK-II Cellumination Aura Essence (30ml / 4,990 Baht)

รุ่นใหม่ของปี 2014 นี้ไม่ได้มีอะไรต่างจากเดิมมาก ยังคงให้ผิวดูกระจ่างและใสขึ้น สิ่งที่เราชอบคือเนื้อสัมผัสมันชุ่มชื้นมากกว่าเดิม รุ่นเก่าจะทาแล้วแห้ง แต่ตัวนี้จะชุ่มขึ้นและเซ็ทตัวแบบกึ่งแมทเล็กน้อย

Sulwhasoo Luminature Essential Skin Finisher (80ml / 3,000 Baht)

พนักงานขายอาจจะบอกให้เราใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังลงมอยซ์เจอไรเซอร์ ก่อนทากันแดดในแต่ละวัน ซึ่งในสภาพอากาศแบบไท๊ยไทยนั้นถ้าใช้ตามที่เขาบอกล่ะก็จะเกลียดไอ้ขวดนี้มากเพราะหน้าจะมันเยิ้มเป็นลูกนิมิตกันเลยทีเดียว (เว้นแต่คุณจะผิวแห้ง หรือใช้กันแดดที่แมทมาก ๆ) ในสภาพอากาศแบบบ้านเราและสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมันแล้วนั้น ตัวนี้ใช้เป็นขั้นตอนของมอยซ์เจอไรเซอร์ก่อนทากันแดดก็พอแล้ว เพราะว่าเนื้อของมันมีส่วนผสมของ Squalane ในการเคลือบผิว กับสารบำรุงอีกหลายชนิด ทำให้ผิชุ่มชื้นขึ้น ช่วยให้ผิวใสขึ้น อิ่มเอิบขึ้น กระจ่างขึ้น ข้อเสียเดียวของมันคือมีอาการเป็นขุยบ้างเมื่อเจอกับกันแดดบางตัว แต่ใช้ต่อเนื่องแล้วผิวมันเปล่งปลั่งขึ้นได้จริง ๆ ล่ะ

ใครที่มีงบในระดับหนึ่ง แต่ไม่อยากจะใช้อะไรหลายขั้นตอน หลังล้างหน้าใช้ Sulwhasoo First Care Activating Serum ตามด้วยเซรั่มตามความกังวลของผิวสักตัว ทา Luminature Essential Skin Finisher ก็จบขั้นตอนการบำรุงผิวได้เลย (กลางวันทากันแดดเพิ่ม) ง่าย ๆ

 photo PPFav2014Acne.png
Acne Buster

La Roche-Posay Effaclar Duo[+] (40ml / 960 Baht)

เลิศที่สุดในสามโลก เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สำหรับผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวมันที่เป็นสิวง่ายที่ไม่เหนอะหนะ ช่วยลดการอุดตันในระดับที่ไม่รุนแรงได้ ช่วยลดการอักเสบได้อย่างช้าๆ และทำให้รอยแดงไม่ค่อยเป็นรอยดำหลังจากสิวที่อักเสบหาย ใช้คสบคู่ไปกับยารักษาสิวได้ และหลังจากหยุดยารักษาสิวก็ใช้เพื่อประคองสภาพผิวได้ ปีนี้ใช้มา 4 หลอดแล้ว หมดแล้วซื้อเติมตลอด หลอดนึงติดที่โต๊ะ หลอดนึงติดกระเป๋าเวลาไปฟิตเนสเลยจ้า

Paula’s Choice RESIST Daily Pore-Refining Treatment 2% BHA (88ml /1,150 Baht)

เป็น BHA 2% ของป้าพอลล่าที่บางเบาสมชื่อ ทาแล้ววึมหายวับเหมือนไม่ได้ทาอะไรเลย แถมยังมีสารบำรุง สารต้านการระคายเคือง และเปปไทด์เพื่อช่วยต่อต้านริ้วรอยด้วย ถึงจะไม่ได้มีปัยหาเรื่องริ้วรอย แต่ความบางเบาของเนื้อก็ทำให้มันน่าลงทุนมากเลยล่ะ ชีวิตดี๊ดี ไม่ต้องทนกับความเยิ้มของ BHA Liquid อีกต่อไป

 photo PPFav2014Mask.png
Mask

Fracora Placenta Whitening Mask (8 Sheet / 1,390 Baht)

หลังจากต้องมนต์เซรั่มรกหมู ทำให้เราเริ่มสำรวจและลองผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ตัวต่อไปที่เราลองและแจ็คพอตคือมาส์กอันนี้ สิ่งที่ชอบคือแผ่นมาส์กใหญ่มากจนสามารถแปะไปเกือบถึงคอเพื่อช่วยบำรุงเหนียงได้ มีส่วนที่แตะตาด้วย เนื้อเอสเซนส์มากถึง 25ml ต่อซอง ไม่มีน้ำหอมและส่วนผสมที่ระคายเคืองผิว มาสืกเสร็จแล้วผิวจะฉ่ำนุ่มมาก ตอนแรกเข้าใจว่าแผ่นนึงน่าจะแพงแบบสามสี่ร้อย แต่พอไปเห็นราคาในห้างแล้วตกแผ่นละร้อยกว่าบาท ถ้าซื้อตอนลดยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ ดาวให้ผ่านคร่ะ!!!

HolikaHolika Pig Nose Clear Black Head 3-Step Kit

มีมาส์กลอกสิวเสี้ยนขายอยู่มากมาย แต่อันนี้เราชอบมากตรงคอนเซปต์ของมัน ในชุดนึงจะมีสามส่วน ส่วนแรกจะเป็น Tissue Mask ที่แปะเพื่อช่วยเปิดรูขุมขนและทำให้สิวเสี้ยนอ่อนนุ่ม ทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นก็แปะด้วยแผ่นลอกสิวเสี้ยนทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วลอกออก หลังจากลอกสิวเสี้ยนไปแล้วขั้นตอนที่สามจะเป็นมาส์กไบโอเซลลุโลสเพื่อช่วยปลอบประโลมผิวและปิดรูขุมขน เรียกได้ว่าเป็นสามขั้นตอนที่สมบูรณ์แบบในการจัดการปัยหาสิวเสี้ยนเลยล่ะ

ข้อเสียอยู่ที่แผ่นลอกสิวเสี้ยนมันเล็กไปหน่อยสำหรับจมูกของเรา และส่วนผสมของน้ำหอม (เพราะมันเป็นแบรนด์แมสเกาหลี ยังไงก็ต้องมีน้ำหอม)

SK-II Facial Treatment Mask (6 Sheet / 3,400 Baht)

เป็นปีที่ใช้มาส์กตัวนี้บ่อยมากเพราะว่าใช้แต้มแลกฟรีมาได้เยอะ กับมีคนมาขายถูก ๆ เลยเหมามาหลายกล่อง ยังคงเป็นมาส์กที่ไว้วางใจได้เสมอมาถ้าต้องการให้หนังหน้าเปล่งประกายก่อนงานสำคัญ จัดไป 14 แผ่น แผ่นละวันในตอนก่อนนอน รับรองเกิด!!!

ด้วยความที่เนื้อเอสเซนส์มันเป็นเจลเบส จะมีปัยหาเป็นขุย ๆ เวลาเราลงสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไปถ้าเราแค่วนเอสเซนส์ที่เหลือหลังจากลอกมาส์กไปเรื่อยๆจนแห้ง ปูเป้จะใช้วิธีการเอา FTE เทใส่สำลีแล้วตบที่ผิวไปเรื่อย ๆ สัก 60 วินาที แล้วค่อยประคบจนซึมเข้าผิว ตามด้วยการลงกสินแคร์ตามปกติ จะลดปัยหาเป็นขุยไปได้เยอะเลยเอสเซนส์ที่ยังเหลือในวงและแผ่นมาส์กก้เอามาบีบแล้วทาทั้งตัวก่อนทาครีมทับได้ จะได้เปล่งทั้งหน้าทั้งตัว

 photo PPFav2014Lip.png
Lip Care

Clinique Superbalm Lip Treatment (7ml / 600 Baht)

เราเกลียดมันมากในยามปกติ แต่ตอนที่ปากเราแห้ง ระคายเคืองจนเป็นเหมือนมีเม็ด ๆ แข็งๆ แห้งๆ สาก ๆ ที่ริมฝีปาก เจ้าลิปตัวนี้ช่วยให้ปัญหาที่ว่าหายไปในไม่กี่วัน แค่ทาเอาไว้หนา ๆ แล้วอย่าไปยุ่งกับมัน ไม่เม้มปาก แล้วปากสวย ๆ จะกลับมาในไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชนนนนน

EOS Lip Balm (3.29 US$)

คือไม่ได้ตั้งใจซื้อนะ แต่มันขาดยอดที่จะได้ของแถมตอนสั่งของจากเมืองนอก เห็นอันนี้มันลดราคาอยู่แล้วยอดมันพอดี ก็เลยสั่งมาเผื่อมาแจกชาวบ้านเขา แล้วก็เก็บทิ้งไว้จนลืมจนมันจะหมดอายุอีก 6 เดือนเลยรีบเอาออกมาใช้ และพบว่าแม่งดีมากอ่ะ คือถ้าใครเบื่อเวลาใช้ลิปบาล์มบำรุงปากแล้วชอบเป็นคราบขาวๆ นะ ตัวนี้ไม่เป็นเลยคุณ กลิ่นก็หอม แถมยังใช้ง่ายด้วย ราคาก็ไม่แพง แต่ไม่มีขายในไทยอย่างเป็นทางการ ส่วนใครจะถามว่าสั่งร้านหิ้วร้านไหนไว้ใจได้ ดาวไม่รู้คร่ะ ไปสุ่มแทงหวยกันเอาเองนะคระ

 photo PPFav2014BodySunscreen.png
Body Sunscreen


Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA+++ (80ml / 420 Baht)

รุ่นใหม่ของปี 2014 เนื้อละเอียดขึ้น กัน UV ได้ครบและเสถียรขึ้นด้วย ตัวนี้ทาหน้าแะทาตัวได้ แต่เราเลือกเอามาทาตัวเพราะราคาพอรับได้ เนื้อสัมผัสดี ไม่เหนอะหนะ และเติมระหว่างวันได้อย่างสบาย ๆ

Nivea Sun Whitening Perfect Protect Body Serum SPF50 PA+++ (90ml / 299 Baht)

มันคือสิ่งที่เราคิดมาตลอดว่าเมื่อไหร่ในตลาดแมสบ้านเราจะมีสักที นั่นคือกันแดดสำหรับผิวกาย ที่กัน UV ได้ครบ เสถียร ทาแล้วไม่เหนอะเหนียว ราคาไม่แพง และไม่มีน้ำหอม ตัวนี้ตอบโจทย์ทุกอย่างเลยคุณ และด้วยความที่มันไม่มีน้ำหอมเราจะได้กลิ่นของสารกันแดดแบบชัดเจนเปลี่ยน แต่ส่วนตัวเราว่ามันก็ดีกว่ากลิ่นน้ำหอมห่วย ๆ ที่เขาชอบประโคมใส่มาอยู่เรื่อย

 photo PPFav2014BodyMoisturiser.png
Body Moisturiser

Jergens Ultra Healing Extra Dry Skin Moisturiser (650ml – 295 Baht)

สูตรเดิมก็ดีนะ แต่สูตรใหม่เนื้อดีกว่าเดิม ตัวนี้ผจญอากาศเย็นเกือบติดลบได้สบาย ๆ เลย เป็นตัวที่เรารักมากในช่วงอากาศแห้ง ๆในช่วงปลายปีนี้ แม้กลิ่นจะป้าไปนิดนึงสำหรับเรา แต่ใช้ตอนก่อนนอนไม่มีใครมาดมหรอก (กระซิก ๆ)

Bliss Lemon+Sage Body Butter Maximum Moisture Cream (200ml / 1,450 Baht)

เราชอบกลิ่น Lemon & Sage ของ Bliss มาก ตัวนี้จุงเป็นตัวที่เราชอบเพราะกลิ่นเป็นหลัก และเนื้อครีมก็จะเหมาะกับการนวดตัวเพราะมันจะลื่น ๆ แต่พอทิ้งไว้ให้ซึมแล้วจะไม่เหนอะ ทว่าถ้าหวังเรื่องความชุ่มชื้นล่ะก็สู้เจอเก้นส์ไม่ได้เลย

Kiehl’s Creme De Corps (500ml / 2,400 Baht)

เวลามีคนที่สนิทมากไปอเมริกาเราจะกราบกรานให้เขาแบกขวดลิตรมาให้เสมอเพราะว่าราคามันถูกกว่าไทยพอสมควรเลย โลชั่นตัวนี้มี Squalane เยอะมาก มันเคลือบผิวได้ดี ไม่มีน้ำหอมจึงไม่มีตีกับกลิ่นน้ำหอมที่เราทา

คล็ดไม่ลับในการใช้คือควรทาทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จและซับผิวหมาด ๆ จะทำให้การใช้โลชั่นต่อครั้งนั้นน้อยลง ทาได้ลื่นขึ้น และซึมเข้าผิวไว ผิวจะนุ่มมม แต่ถ้าทาตอนผิวแห้งจะรู้สึกมัน ๆ นิดนึงล่ะ

Paula’s Choice RESIST Weightless Body Treatment 2%BHA (210ml / 1,250 Baht)

เนื่องจาก AhA10% ของป้า แม้กลิ่นจะดีขึ้นกว่าสูตรเดิม แต่ถ้าเปิดทิ้งไว้นานๆ แล้วยังใช้ไม่หมดก็จะมีกลิ่นตุ่ยๆ อยู่เสมอ เราเลยจะชอบใช้ BHA มากกว่า ในการทำให้ผิวที่หยาบกร้านโดยเฉพาะข้อศอก เข่า และเท้าให้เนียนนุ่มขึ้น แถมเนื้อยังเบามาก สามารลงมอยซืเจอไรเซอร์อื่น ๆ ตามต่อได้อย่างไม่มีปัญหา

– THREE Full Body Emulsion AC (150ml / 1,300 Baht)

เป็นบำรุงผิวกายที่หวังเรื่องผลทางอารมณ์และจิตใจล้วน ๆ เพราะว่ากลิ่นมันแนว Armoma Therapy ที่ผ่อนคลายแบบสุด ๆ เราชอบมาก ๆ ช่วงอารมณ์อึน ๆ เราจะใช้ตัวนี้ตลอด เนื้อโลชั่นยังเหลวมากและซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่เหนอะหนะเลย ใช้ได้แม้กระทั่งในช่วงหน้าร้อน

 photo PPFav2014Hand.png
Hand & Nail Treatment

POLA Hand Treatment Jun-Bi-Sho (100g / 1,800 Baht)

นอกจากแพคเกจแบบกระปุกที่ทำให้พกลำบากแถมหยิบมาใช้ยาก นี่เป็นแฮนด์คีมที่เราชอบที่สุดตั้งแต่ใช้มาหลายๆ ยี่ห้อ กลิ่นมันหอมสดชื่นบาง ๆ เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ ซึมไว ไม่เหนอะหรือมันเยิ้ม ทาก่อนนอนแต่เคลือบผิวได้ถึงเช้า อยากบำรุงมากขึ้นหน่อยทาหนาๆ เน้นตรงจมูกเล็บแล้วสวมถุงมือทิ้งไว้ 15 นาที มือจะนุ่มผู้ดีสุด ๆ

L’Occitane Nail & Cuticle Nourishing Oil (7.5ml / 750 Baht)

ใครมีปัญหาหนังข้างเล็บเยิน จมุกเล็บแห้งลอกแตก จัดตัวนี้มาด่วน เพราะมันเวิคร์มาก หนังด้าน ๆ แค่ปาด ๆไปแบบชุ่มกลับดูดีได้ในเวลาไม่นาน ตรงปลายหลอดเป็นแปรงพูกันทำใช้สะดวกสุด ๆ ข้อเสียเดียวคือกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ได้หอมเลย แต่คุณสมบัติอื่นมันปัง มันใช่ ทำให้เรายอมทนกลิ่นเห่ย ๆ ของมันได้ ไม่แจ่มจริงดาวไม่ยอมทนขนาดนี้นะคระ

 photo PPFav2014Makeup.png
Makeup


THREE Ultimate Diaphanous Loose Powder (17g / 1,950 Baht)

เราเป็นคนที่ต้องการความเป็นธรรมชาติแบบที่สุด นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราชอบแป้งฝุ่นของ THREE รุ่นใหม่นี้มาก มันเบา ละเอียด ให้ผิวสวยเป็นธรรมชาติเหมือนไมไ่ด้แต่งอะไร แค่ช่วยกลบความเงามันจากสกินแคร์และกันแดด เพิ่มความนัวให้ผิว ถ้าเน้นธรรมชาติกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับผิว ให้ซื้อสูตร Translucent แต่ถ้าอยากได้ความเปล่งปลั่งให้ซื้อสูตร Glow มันจะมีชิมเมอร์ที่ละเอียดมาแบบสังเกตด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น

 photo PPFav2014Gadgets.png
Beauty Gadget

Clarisonic Plus with Luxe Brush (หัวแปรงอันนึงประมาณพันบาท)

แล้วคุณจะรัก Clarisonic มากขึ้นถ้าได้ลองหัวแปรงขนนุ่มสุด ๆ (และแพงสุด ๆ) ที่เขาพึ่งวางขายเมื่อปีที่ผ่านมา (ในไทยยังไม่ขายนะจ๊ะ ไปซื้อมาจากสิงคโปร์และเกาหลี) คือหัวแปรงรุ่นเก่าจะสั้นและแข็งกว่า สำหรับผิวคนเอเชียที่ไม่ทนทานนักเราบอกตรงๆว่าเราใช้ทุกวันเช้าเย็นไม่ได้ แต่หัวแปรงรุ่น Luxe เราใช้ได้ทุกวันเลยล่ะ ถึงจะทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่าแต่ก็สะอาดกว่าใช้มือปกติ หัวแปรงสำหรับผิวกายก็เหมือนช่วยนวดตัวไปด้วย แต่ถ้าอยากขจัดขี้ไคลแบบจริงจังเราจะเปลี่ยนไปใช้หัวรุ่นเก่าล่ะ