SKINWILL กลับมาแล้วพร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่และรูปลักษณ์ใหม่ หลังจากที่แบรนด์ไม่มีการอัพเดทผลิตภัณฑ์มาหลายปีมากและดูเงียบหายไป ซึ่งส่วนตัวปูเป้เองก็ดีใจ เพราะรู้สึกได้ว่าคราวนี้เขาทำการบ้านมาพอสมควรโดยเฉพาะการพยายามปรับภาพลักษณ์ในเรื่องของแบรนด์ดิ้งและแพคเกจ แม้จะยังมีส่วนที่ปูเป้คิดว่ายังสามารถปรับให้ดีกว่านี้ได้ แต่ก็ถือว่าดูน่าใช้ขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
คนที่ตามปูเป้มาตั้งแต่แรก ๆ จะต้องรู้จักหรือเคยใช้ SKINWILL กันบ้าง เพราะเป็นแบรนด์ไทยที่ปูเป้เคยใช้เมื่อปี 2011 หรือสิบกว่าปีที่แล้ว ที่แม้ว่าจะเป็นแบรนด์เล็ก ๆ และมีแพคเกจจะไม่ได้ดูสวยงามหรูหรา แต่ส่วนผสมน่าสนใจและมีสารแอคทีฟเข้มข้นซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ไม่ง่ายในยุคนั้น (ยุคนั้นยังไม่มีเทรนด์พวก Booster หรือแบรนด์แบบ The Ordinary) จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ลองใช้ก็รู้สึกว่ามันได้ผลดี จึงแนะนำอยู่เรื่อย ๆในช่วงนั้น เราก็อยากเห็นเหมือนกันว่าช่วงที่หายไปเขาไปทำการบ้านอะไรมาบ้างในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่นี้
ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง SKINWILL : Revitalized To Target(30ml / BAHT) เป็นเซรั่มเนื้ออิมัลชั่นที่เน้นไปในเรื่องการลดเลือนริ้วรอย เสริมความชุ่มชื้น เสริมสมดุลผิว ต้านการระคายเคือง และเสริมกรดไขมันที่จำเป็นต่อความแข็งแรงของผิว มีส่วนผสมที่เข้าใจง่าย ตัวเบสไม่ซับซ้อน เน้นที่ไปสารแอคทีฟหลายชนิด โดยทางแบรนด์เลือกที่จะชูสองส่วนผสมหลักเป็นจุดขาย ได้แก่น้ำทมันจากเมล็ดกัญชง และ Bakuchio
Bakuchiol เป็นสารสำคัญที่พบมากในต้น Psoralea corylifolia (Babchi) หรือโกฐนษิณี ซึ่งเป็นพืชที่ถูกใช้ในแพทย์แผนอายุรเวชและแพทย์แผนจีนด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและต้านการอักเสบ นี่เป็นส่วนผสมที่ปูเป้ชอบโดยมีข้อมูลที่ชี้ว่ากลไกในการทำงานโดยกระตุ้นการแสดงออกของยีนจะคล้ายกับ Retinol มาก ช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนเพื่อลดเลือนริ้วรอยและลดเลือนจุดด่างดำ โดย ข้อมูลการศึกษา Bakuchiol 0.5% เทียบกับ Retinol 0.5% พบว่ามีคุณสมบัติในเพื่อลดริ้วรอยเสริมความกระชับของผิวได้แบบใกล้เคียงกัน ไม่มีความต่างอย่างมีนัยทางสถิติ โดย Bakuchiol มีผลข้างเคียงเรื่องการระคายเคืองที่น้อยกว่า (และยังมีแนวโน้มว่า Bakuchiol จะไปเสริมประสิทธิภาพกับสารกลุ่มวิตามินเอเมื่อใช้ร่วมกันได้ด้วย) นอกจากนี้ยังมีการศึกษา Bakuchiol ร่วมกับสารประกอบเชิงซ้อนอื่น ๆ ว่าคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านจุลชีพ ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะกับผิวเป็นสิวง่าย
Cannabis Sativa Seed Oil หรือน้ำมันเมล็ดกัญชง เป็นน้ำมันที่มีข้อมูลว่าอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-6 (Linoleic Acid) กว่า 50% และ Omega-3 (α-Linoleic Acid) กว่า 17% และกรดไขมันอื่น ๆที่ดีกับผิว มอบคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและเสริมความแข็งแรงของผิว น้ำมันเมล็ดกัญชงยังมีสารพวกแคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ ซึ่งมอบคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระแต่ก็มีอยู่ในสัดส่วนไม่มากนัก เป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์กับผิว และเอาไว้สร้างเป็นจุดขายในเชิงการสื่อสาร
ส่วนผสมอื่น ๆ ก็มีตัวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอย่าง Phytol ในที่นี้คือส่วนผสมไฮเทคภายใต้ชื่อทางการค้าว่า MossCellTec™ No.1 ของบริษัท Mibelle Biochemistry ได้มาจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ของมอสสายพันธุ์ Physcomitrella patens ซึ่งเคลมว่าช่วยเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างนิวเคลียสของเซลล์ ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น
สิ่งที่น่าสนใจคือผู้ผลิตทำการทดสอบคุณสมบัติในการปกป้องโครงสร้างของผิวที่ถูกความเครียดจากสภาพแวดล้อมอย่างความร้อนชื้น–แห้งเย็น และพบว่า MossCellTec™ No.1 ช่วยคงโครงสร้างผิวที่แข็งแรงเอาไว้ได้ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับชีวิตของเราในตอนนี้ที่ต้องสวมหน้ากากที่ทำให้ผิวต้องเจอสภาพที่ร้อนและชื้น แต่เมื่อถอดหน้ากากอยู่ในห้องปรับอากาศก็เจอความเย็นและแห้ง ซึ่งความเปลี่ยนแปลงกระทันหันนี้เป็นความเครียดที่ทำให้ผิวเราอ่อนแอ ดังนั้นสารสกัดตัวนี้น่าจะมาแพ็คคู่กับ Bakuchiol เพื่อตอบโจทย์เรื่อง Maskne ปัญหาผิวอักเสบ สิวจากการใส่หน้ากากอนามัยในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนั้นก็จะเป็นส่วนผสมที่เราค่อนข้างคุ้นชื่อกันดีอย่าง Palmitoyl Tripeptide-1 กับ Palmitoyl Tetrapeptide-7 หรือ Matrixyl 3000 ซึ่งเป็นเปปไทด์ที่สายสกินแคร์ต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะมีใช้มานับสิบปีในผลิตภัณฑ์มากมาย ส่วนผสมตัวนี้มีข้อมูลที่ระบุว่าเน้นไปที่การเสริม Extracellular Matrix (ECM) เช่นพวกคอลลาเจนที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น
Centella Asiatica Extract หรือ Cica สารสกัดจากบัวบกมีข้อมูลประโยชน์มากมายในสกินแคร์ โดยในที่นี้ทางแบรนด์แจ้งว่าเป็นสารสกัดใบบัวบกที่เน้น Madecassoside การศึกษาชี้ว่ามีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยสมานแผล และมีข้อมูลที่ทดสอบในโมเดลผิวหนังจำลองพบว่าช่วยลดการเกิดจุดด่างดำหลังจากการอักเสบที่กระตุ้นโดยรังสี UVB ได้
ส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นในมีไฮยาลูโรนิคแอซิด 4 รูปแบบด้วยกัน โดยตัวพื้นฐานคือ Sodium Hyaluronate และ Sodium Acetylated Hyaluronate จะเป็นตัวที่อุ้มความชุ่มชื้นได้มากกว่าอีกเท่าตัว มี Hydrolyzed Sodium Hyaluronate ที่มีขนาดเล็กลงเพื่อให้แทรกลงไปเสริมความชุ่มชื้นในผิวชั้นที่ลึกขึ้น และ Sodium Hyaluronate Crosspolymer ทำหน้าที่กางตัวเป็นตาข่ายคลุมผิวเพื่อช่วยลดการระเหยออกของความชุ่มชื้น
Allantoin เป็นสารที่สกัดมาได้จากรากของต้น Comfrey เพื่อช่วยต้านการระคายเคืองและยังช่วยเสริมความชุ่มชื้นอีกด้วย การศึกษาในสัตว์ทดลองยังพบว่ามันช่วยเสริมการเยียวยาบาดแผล แต่ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าสารสกัดรวม ๆ ของต้น Comfrey ให้ผลดีกว่าในแง่ของการกระตุ้นการแบ่งเซลล์ เสริมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง เพราะสารอื่น ๆ ในรากของ Comfrey ที่ทำงานร่วมกันกับสาร Allantoin เลยได้ผลที่ดีกว่าสาร Allantoin เดี่ยว ๆ ที่ถูกแยกออกมา แต่ในทางกลับกันการแยกสาร Allantoin ออกมาใช้ก็ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาจากการแพ้สารประกอบอื่น ๆ ในพืช Comfrey ได้
โดยรวมคือเน้นส่วนผสมเน้นชูที่สารใหม่ กำลังได้รับความนิยม หรือคนรับรู้และจดจำได้ง่ายเอาไว้เป็นจุดขาย ควบมากับด้วยส่วนผสมที่ถูกใช้มาอย่างยาวนานว่ามีความปลอดภัยและยังคงถูกใช้อย่างแพร่หลายมาจนปัจจุบัน ซึ่งน่าจะเป็นพื้นฐานความต้องการของคนส่วนใหญ่ในวัย 25+ ที่เป็นช่วงเริ่มเห็นสัญญาญของความเสื่อมถ่อยและร่วงโรยของร่างกาย ผิวพรรณ และต้องการหาผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยฟื้นบำรุงผิวและประคองสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์
Ingredients : Water, Propylene Glycol, Butylene Glycol, Caprylic/ Capric Triglyceride, Palmitoyl Tripeptide-1, Palmitoyl Tetrapeptide-7, Bakuchiol, Phytol, Isomalt, Cannabis Sativa Seed Oil, Pentylene Glycol, Sodium Acetylated Hyaluronate, Sodium Hyaluronate, Sodium Hyaluronate Crosspolymer, Hydrolyzed Sodium Hyaluronate, Glycerin, Polysorbate 20, Phenoxyethanol, Ethylhexylglycerin, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer, Allantoin, Cyclodextrin, Centella Asiatica Extract, Disodium EDTA, Perfume, Xanthan Gum, Carbomer.
เนื้อเซรั่มอิมัลชั่นน้ำนมบาง ๆ การเซ็ทตัวจะเคลือบผิวแบบมีความวาวเล็กน้อย สามารถใช้ในขั้นตอนของเซรั่มปกติได้เลย ตัวผลิตภัณฑ์มีกลิ่นบางเบา และไม่ติดผิวเท่าไหร่ ส่วนผสมน้ำหอมที่ใส่มาเล็กน้อยน่าจะเพื่อกลบกลิ่นบางอย่าง (อาจจะเป็นกลิ่นของน้ำมันเมล็ดกัญชงที่มีเธอร์ปีนประกอบอยู่เล็กน้อยก็เป็นได้)
ส่วนตัวปูเป้ใช้ SKINWILL : Revitalized To Target ปริมาณ 1 ปั้มสำหรับใบหน้า และ 1 ปั้มสำหรับคอ บ่า ไหล่ และช่วงเนินอก ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ใช้ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน แต่ส่วนตัวจะใช้ในตอนกลางคืนก่อนนอนที่ผิวแห้งกร้านได้ง่ายกว่า และต้องการการเคลือบบำรุงผิวมากกว่าตอนกลางวันครับ
ใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่ปกติใช้ได้ง่าย ส่วนตัวไม่เจอการระคายเคืองหรือความผิดปกติของผิว ผิวที่รู้สึกว่ามีการแดงเล็กน้อยกลับดูแดงลดลงหลังทาเซรั่มด้วย น่าจะเพราะมีสารลเการระคายเคืองและต้านการอักเสบมาช่วยปลอบประโลมผิวครับ เพราะปูเป้ใช้ 1% Bakuchiol ได้อยู่แล้ว รู้สึกว่าผิวไม่ค่อยมีปัญหา ดูมีคุณภาพที่ดีในหลายมิติครับ แม้ว่า Bakuchiol จะมีโปรไฟล์เรื่องความอ่อนโยนที่ดีกว่าเรตินอล แต่ถ้าใครไม่เคยใช้ ไม่แน่ใจ อาจจะลองเริ่มจากน้อย ๆ วันละครั้ง หรือวันเว้นวันก่อนก็ได้ครับ
โดยสรุปแล้ว SKINWILL : Revitalized To Target เป็นอีกตัวเลือกของเซรั่มที่ใช้ได้กับทุกสภาพผิว สำหรับผิวที่มันมากหรือเป็นสิวง่ายก็อาจใช้แทนขั้นตอนของตัวเคลือบผิว / มอยซ์เจอไรเซอร์ไปได้เลยในตัว สารแอคทีฟหลักให้ประโยชน์กับผิวที่หลากหลาย
ไม่แน่ใจว่าปูเป้คิดไปเองไหม แต่ดูเหมือนว่าเขาเลือกที่จะทำให้เซรั่มตัวนี้ สามารถที่จะใช้กับผลิตภัณฑ์สกินแคร์อื่น ๆ ได้มากกว่าจะมาแทนกัน เพราะปัจจุบันนี้เรามีเซรั่ม เรตินอล วิตามินซี และ B3 ให้เลือกเยอะมาก และอาจเป็นตัวที่เราใช้และชอบอยู่แล้ว ซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เป็นอีกตัวเสริม มากกว่า จะอเป็นตัวแทนที่ ก็เป็นอีกแนวคิดที่สนใจ
แต่อย่างไรก็ดี ปูเป้ก็มีความเห็นของสิ่งที่คิดว่าน่าจะปรับปรุงได้มาเสนอกับทางแบรนด์ อย่างเช่น น้ำมันเมล็ดกัญชง ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ดีเช่นเดียวกับน้ำมันจากพืชที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และ 6 อีกหลายตัว แต่เนื่องจากส่วนผสมนี้ถูกควบคุมโดยกฏหมายของไทยว่าต้องมาจากวัตถุดิบที่เพาะปลูกภายในประเทศเท่านั้น การที่วัตถุดิบในระยะแรกยังมีน้อย ประกอบกับความ Hype ของพืชกัญชงในบ้านเราสูงมาก ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันเมล็ดกัญชงสูงมากกว่าในต่างประเทศนับสิบเท่า เรียกได้ว่าแพงกว่าแอคทีฟเสียอีก ในช่วงที่ผ่านมายังไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไทยนำมาใช้กันเท่าไหร่เพราะไม่คุ้มค่า แต่ในระยะหลังต้นทุนอาจจะเริ่มลดลงมาแล้ว แต่ส่วนตัวมองว่า ถ้ายังต้องจ่ายราคามหาโหดอยู่ ตัวเลือกของวัตถุดิบ Omega Oil ที่ผสาน CBD สกัดบริสุทธิ์สูง อาจจะคุ้มค่ากว่าในแง่ของราคาทุนที่ต้องจ่ายและประโยชน์ที่ผิวจะได้รับ
นอกจากนี้ยังมองว่าในเมื่อจะต้องมีเบสน้ำมันที่ผสานจนเป็นอิมัลชั่นเนื้อน้ำนมอย่างชัดเจนแล้ว การเพิ่มพวกสารประกอบเชิงซ้อนของเซราไมด์ที่สำคัญต่อผิวเข้าไป น่าจะช่วยเพิ่มความครบเครื่องในแง่ของการเติมเต็มสิ่งที่ปราการผิวขาดหายไปได้ในทันที
แพคเกจใหม่นั้นโดยมู้ดแอนด์โทนนั้นค่อนข้างถูกจริตปูเป้อยู่แล้ว รูปทรงที่เรียบง่าย พื้นผิวแบบด้าน และโทนสีที่นุ่มนวล แต่สกรีนตัวอักษรเล็กมากจนเกินไป ส่วนตัวปูเป้ในวัยนี้คือต้องใช้แว่นขยายส่องแล้วอ่ะ ตรงนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ไม่ยากในการผลิตล็อตต่อไปครับ
สำหรับใครที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ SKINWILL สามารถสั่งซื้อได้ทาง LINE Official : SKINWILL หรือติดตามความเคลื่อนไหว สอบถาม หรือฟีดแบคทางแบรนด์ได้โดยตรงที่เพจ Facebook : SKINWILL ครับ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
SKINWILL : Revitalized To Target
Price : 30 ml / 1,250 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Anti-Aging / Anti-Inflammation / Antioxidant /
- ส่วนผสมเข้าใจง่าย เน้นสารแอคทีฟที่น่าสนใจหลายตัว
- เนื้ออิมัลชั่นบางเบา ใช้ได้กับทุกสภาพผิว
- มีส่วนผสมของน้ำหอม
- ยังสามารถปรับปรุงส่วนผสมได้ตามที่แนะนำไป
- แพคเกจสกรีนตัวเล็กไป อ่านยาก