Yves Saint Laurent Beauty หรือ YSL Beauty เปิดรับปี 2020 ด้วยก้าวใหม่ที่พลิกแนวคิดเดิมของตัวเองแบบสิ้นเชิง ด้วยการยุบกลุ่มสกินแคร์อย่าง Forver Youth และ Forever Light ที่มีผลิตภัณฑ์ครบถ้วนทุกเสต็ป มาเหลือเป็นเซรั่ม 4 ขวดในกลุ่ม Pure Shots ที่ใช้ง่าย แถมราคายังเบาลงเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
Pure Shots เป็นกลุ่มสกินแคร์ที่แบรนด์ทำมาเพื่อตอบโจทย์ชาวมิลเลเนียหรือใครก็ตามที่ต้องการอะไรที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ในเมืองยุคปัจจุบันที่ทั้งเร่งรีบและวุ่นวายแถมยังต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่กับผิว จึงต้องการอะไรที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มีส่วนผสมที่ทรงประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ทั้งในทันทีและในระยะยาว โดยเปิดตัวเป็นสกินแคร์ 3 ขั้นตอน จำนวน 6 ผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวยังคงดูอ่อนเยาว์สุขภาพดีแม้จะใช้ชีวิตอันเร่งรีบก็ตาม
เริ่มต้นเอสเซนส์น้ำ ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น เซรั่ม 4 สูตรที่ทุกสภาพผิวเลือกใช้ได้ตามความต้องการที่จะดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าเป็นเรื่อง ผิวมีริ้วรอย ผิวไม่กระชับ ผิวดูไม่สว่างกระจ่างใส และ ผิวที่หยาบกร้านไม่เรียบเนียน ก่อนจะปิดท้ายด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเก็บล็อคและเพิ่มความอิมฟูให้กับผิว
ทาง YSL ได้ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ปูเป้ได้ลองใช้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวไฮไลท์ของกลุ่มนี้คือเซรั่ม 4 สูตรที่ใช้ร่วมกันได้โดยส่วนผสมของเซรั่มมีทั้งการนำเทคโนโลยีของสกิลแคร์กลุ่ม Forver Youth กับ Forver Light หลัก ๆ ที่มีอยู่เดิมและเพิ่มเติมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไป ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งแฟน ๆ ของสกินแคร์ YSL เดิมก็น่าจะได้ประโยชน์จากรูปแบบใหม่ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นในราคาที่สบายกระเป๋าขึ้น และสำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้สกินแคร์ของ YSL มาก่อนเลย ช่วงราคา และรูปแบบที่เข้าใจ เข้าถึงง่ายนี้ ก็ดูจะน่าดึงดูดใจทีเดียว
นอกจากนี้แพคเกจจิ้งของเซรั่มทั้ง 4 สูตรยังเป็นแบบที่สามารถเปลี่ยนรีฟิลได้ด้วย ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ไม่ยาก โดยตัวรีฟิลจะมีราคา 2,800 บาทต่อชิ้น ซึ่งการซื้อขวดใหม่ซึ่งมีราคา 3,300 บาท นั่นหมายความว่าเราจะประหยัดเงินลงไปได้อย่างต่ำ 500 บาทต่อการซื้อรีฟิล 1 ชิ้น และยังลดปริมาณพลาสติกที่ใช้อีกด้วย
โดยส่วนตัวปูเป้ได้ทดลองใช้ YSL : Pure Shots Night Reboot Serum (30ml / 3,300 BAHT , Refill 2,800 BAHT) ก่อนเป็นตัวแรก เพราะว่านี่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเด่นของเขา และเป็นเซรั่มแบบ Bi-Phase ที่มีส่วนของน้ำ–น้ำมัน ที่ต้องเขย่าขวดก่อนใช้ ซึ่งเป็นรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองชื่นชอบ
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็น Exfoliator-in-Oil ก็คือใช้ส่วนผสมหลักในการเสริมการผลัดเซลล์ผิวเก่าไปพร้อมกับบำรุงผิวใหม่ให้อ่อนนุ่มชุ่มชื้นมีสุขภาพดี
ส่วนของผสมเบสที่เป็นน้ำนั้นประกอบไปด้วยสารกลุ่ม AHAs ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่าง Glycolic Acid ซึ่งทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่ามีความเข้มข้น 3.4% กับ Citric Acid และ Lactic Acid ที่ไม่ได้ระบุความเข้มข้นมาอีกนิดหน่อย ตัวนี้ยังมี Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid หรือ HEPES ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรว่าเป็นตัวเสริมเอนไซม์ผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ในตัวเบสน้ำยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชอย่าง Cereus Grandiflorus (Cactus) Flower Extract ซึ่งอาจเป็นสารที่มีชื่อทางการค้าว่า Phytofleur™ Cactus ของบริษัท Croda ซึ่งช่วยเสริมเรื่องความชุ่มชื้น สารสกัดจากดอกคาเลนดูล่า Calendula Officinalis Flower Extract ช่วยต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิว ทางด้าน Hydrolyzed Linseed Extract เราพบว่ามีซัพพลายเออร์หลายเจ้าที่จำหน่ายสารสกัดอันนี้ซึ่งเคลมไว้ตั้งแต่ตัวต้านการระคายเคืองไปจนถึงตัวเสริมความเรียบเนียนของผิวเลยทีเดียว ส่วนที่เหลือก็เป็นวิตามินซีในรูป Ascorbyl Glucoside เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระ กับ Pahthenol หรือ Pro Vitamin B5 ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น กับ Adenosine เพื่อเสริมพลังงานของผิว
ในส่วนที่เป็นเบสน้ำมันนั้นจะประกอบไปด้วยน้ำมันสกัดจากอาร์แกน Argania Spinosa Kernel Oil และ Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil ปรับเนื้อสัมผัสด้วย Caprylic/Capric Trigyceride และ Isonoyl Isononanoate ใช้วิตามินอีในรูป Tocopherol เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระและกันหืนให้ตัวน้ำมัน ใช้สารสกัดจากสาหร่าย Hematococcus Pluvialis Extract ที่อุมดไปด้วยสาร Astaxantin ซึ่งให้สีส้มแดง ที่นอกจากจะช่วยแต่งสีให้เบสน้ำมันมีสีที่สวยขึ้นแล้วยังช่วยต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย เบสน้ำมันนี้มีกรดไขมันและลิพิดที่ช่วยชดเชยและเสริมบำรุงให้ผิวอ่อนนุ่ม และช่วยไม่ให้ผิวแห้งกร้านจากส่วนของการผลัดเซลล์ผิวได้
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม ตัวเบสน้ำแต่งสีด้วย Caramel ธรรมชาติ
Ingredients : Aqua/Water, Caprylic/Capric Trigyceride, Limnanthes Alba (Meadowfoam) Seed Oil, Isonoyl Isononanoate, Glycolic Acid, Propylene Glycol, Alcohol Denat., Glycerin, Sodium Hydroxide, Hydroxyethylpiperazine Ethane Sulfonic Acid, Argania Spinosa Kernel Oil, Glucose, Calendula Officinalis Flower Extract, Cereus Grandiflorus (Cactus) Flower Extract, Haematococcus Pluvialis Extract, Adenosine, Ascorbyl Glucoside, Hydrolyzed Linseed Extract, Citric Acid, Lactic Acid, Xanthan Gum, Pahthenol, Tocopherol, Potassium Sorbate, Sodium Benzoate, Salicylic Acid, Caramel, Limonene, Parfum/Fragrance. (F.I.L B223215/1)
ตัวเซรั่มเป็นแบบ Bi-Phase ที่แบ่งชั้นของน้ำและน้ำมัน ในสัดส่วน 2 ต่อ 1 และการใช้แต่ละครั้งจะต้องเขย่าขวดก่อนใช้เสมอเพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์ถูกปั้มออกมามีส่วนของน้ำและน้ำมันตามที่กำหนดเอาไว้
เนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างที่จะเหลว ส่วนตัวจะปั้มลงบนฝ่ามือในปริมาณเพียง 2-3 ปั้มต่อการใช้ 1 ครั้งก็ค่อนข้างเพียงพอแล้วสำหรับตัวเอง แต่ถ้าใครชอบ หรือผิวแห้งมาก หรืออยู่ในที่อากาศแห้งกว่านี้ ก็สามารถปรับปริมาณที่ใช้ได้ตามที่ตัวเองชอบ
ปริมาณ AHAs ที่มีค่อนข้างเบาและใช้ง่าย ค่า pH เป็นกรดอ่อน ส่วนตัวทาแล้วไม่รู้สึกยิบอะไรเลย เว้นแต่ตอนที่กดสิวหรือมีแผลเล้ก ๆ จะแสบบ้างเล็กน้อย แต่ถือว่าเบามากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ AHAs ที่เราใช้อยู่ก่อนหน้า ส่วนตัวรู้สึกว่าผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และตัวผลิตภึฑ์ก็ช่วยลดการสะสมของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพได้ โดยที่ไม่ระคายเคืองหรือทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ปูเป้ยังพกตัวนี้ไปใช้ตอนทริปโตเกียวช่วงคริสมาสและปีใหม่ที่ผ่านมาด้วย เพราะว่าส่วนของ AHAs ในสูตรนั้นเสริมกับเซรั่มวิตามินซีแบบ Ascorbic Acid ที่ต้องใช้ค่า pH เป็นกรดอ่อนในการทำงานทั้งคู่ ก็สามารถที่จะใช้ YSL : Pure Shots Night Reboot Serum ทุกคืนได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องแห้งลอกอะไรแม้สภาพอากาศจะอยู่ที่ 4-9 องศา
โทนกลิ่นน้ำหอมสำหรับเราค่อนข้างรู้สึกเฉย ๆ กับมัน ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้เกลียด กลิ่นถือว่าค่อนข้างบางมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ YSL อื่น ๆ จ้า
โดยสรุปแล้วปูเป้มองว่า YSL Pure Shots เป็นการปรับการนำเสนอสกินแคร์ที่เข้ากับยุคสมัยและตรงกับความต้องการของผู้ใช้ที่เริ่มเข้าสู่วัยทำงานที่ต้องการหาผลิตภัณฑ์ที่มอบให้ทั้งภาพลักษณ์และผลลัพธ์ของการดูแลผิว ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าที่เคย
ส่วนตัวผลิตภัณฑ์เอง YSL : Pure Shots Night Reboot Serum นั้นเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวในระดับที่ค่อนข้างอ่อนโยน และปลอดภัยที่จะใช้เป็นประจำทุกค่ำคืนได้โดยไม่เกิดการระคายเคืองผิว ไม่นับว่ายังมีส่วนของน้ำมันที่ช่วยชดเชยและบำรุงผิวให้รู้สึกนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย ถือเป็นอีกตัวเลือกสำหรับคนที่อยากหาตัวผลัดเซลล์ผิวและน้ำมันบำรุงผิวในขั้นตอนเดียวกันก่อนที่จะใช้คู่กับเซรั่มอื่น ๆ ในขั้นตอนต่อไปได้
ส่วนตัวดูส่วนประกอบเซรั่มสูตรอื่น ๆ กลุ่มนี้ก็คิดว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะตัวขวดสีม่วงที่ถ้าคุณชอบ YSL : Forever Youth Liberator แล้วล่ะก็ สิ่งนี้นำส่วนผสมเดิมที่มีอยู่มาเพิ่มส่วนผสมใหม่ ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมอีก
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
YSL : Pure Shots Night Reboot Serum
Price : 30 ml / 3,300 BAHT , Refill 2,800 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Gentle Exfoliation, Nourishing
- ส่วนผสมผลัดเซลล์ผิวอยู่ในระดับอ่อน ๆ ที่ใช้ได้ทุกคืน และกับทุกสภาพผิว
- Bi-Phase Serum ที่สัมผัสดี ไม่เหนอะเกินไป
- ผิวนุ่มและเรียบเนียนขึ้น ใช้คู่กับเซรั่มอื่น ๆ ได้
- มีส่วนผสมของน้ำหอม