หลังจากที่ Clinique ออกกลุ่มผลิตภัณฑ์ Fresh Pressed™ ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตัวบูสเตอร์ไม่ว่าจะเป็น Vitamin C และ Retinol ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีเลิศทั้งในแง่ของส่วนผสม ผลที่ได้ และการใช้งานที่แสนสะดวก คราวนี้ก็มีการออกผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาเติมเต็มการบำรุงให้ครบขั้นตอนมากขึ้นกับ Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD ซึ่งเป็นมอย์เจอไรเซอร์ที่เน้นในเรื่องของปัญหาความร่วงโรยแห่งวัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยปูเป้ได้รับผลิตภัณฑ์ตัวนี้มาทดลองตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และได้ไปงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่นิวยอร์คมาด้วย

การไปเยือนนิวยอร์กครั้งนี้ก็ได้เจอกับบุคคลที่มีความสำคัญต่อแบรนด์ Clinique หลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น Jane Lauder นายใหญ่ของแบรนด์ และยังได้เจอกับ Dr.David อีกครั้งหลังจากเจอครั้งแรกที่ฮ่องกงเมื่อ 6 ปีก่อนตอนเปิดตัว DDML+ และคราวนี้ได้เจอกับ Dr.Catherine ด้วย ทั้งสองคือลูกชายและลูกสาวของ Dr.Norman Orentreich แพทย์ผิวหนังผู้คิดค้นการดูผิวแบบ 3-Steps และผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Clinique นั่นเอง ทริปนี้ได้ไปเจอกับชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่น่าประทับใจหลายอย่าง รวมถึงได้ไปที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในเมือง Melville อีกด้วย ซึ่งรายละเอียดตรงนี้มีเยอะมาก เดี๋ยวจะขอยกไปทำเป็นคอนเทนต์แยกอีกอันมาให้อีกทีนะฮะ

กลับมาสู่ตัวผลิตภัณฑ์กันต่อ แน่นอนว่าสิ่งนี้ทำมาเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ Anti-Aging ซึ่งความร่วงโรยแห่งวัยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่มีใครที่หยุดเวลาได้ ทีนี้เมื่อเราพูดถึง First Sign of Aging หรือสัญญาณของความแก่ที่เริ่มเห็นได้ หลายคนอาจจะตอบว่าต้องเป็นริ้วรอย” (Wrinkles / Finelines) ที่มักจะแสดงแถวรอบดวงตาเป็นจุดแรก ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงสำหรับคนบางกลุ่ม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

ผิวของเราทุกคนล้วนแตกต่าง และสิ่งที่หลายคนไม่ตระหนักคือผิวเราก็ Aging หรือเสื่อมถอยและแสดงสัญญาณแห่งวัยแรกเร่ิมในรูปแบบที่ต่างกัน

คือในขณะที่หลายคนมีร่องริ้วรอยเป็นสัญญาณแรกของวัยที่เพิ่ม แต่ส่วนตัวปูเป้และคนอีกจำนวนไม่น้อย ตอนที่อายุขึ้นเลข 3 ใหม่ ๆ นั้นยังไม่มีริ้วรอยเลย แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจนรู้สึกได้กลับเป็นเรื่องของความไม่กระชับและการที่ผิวคืนตัวช้ากว่าเดิม โครงหน้าที่ดูหย่อนไม่ได้รูปชัดเหมือนเดิม

ร่องริ้วรอย ความหย่อนไม่กระชับ และปัญหาผิวที่เพิ่มขึ้นตามเวลาที่มากขึ้นมาจากหลายสาเหตุหลากปัจจัย โดยปัจจัยสำคัญก็มีตั้งแต่ปัจจัยภายใน (Intrinsic) อย่างเชื้อชาติ พันธุกรรม เพศ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เราเลือกหรือไปแก้มันไม่ได้

แต่ถึงแม้ว่าคุณจะเกิดมาด้วยพันธุกรรมที่ดี แต่ปัจจัยภาย (Extrinsic) นอกนั้นส่งผลต่อการเสื่อมชราของผิวมากกว่าปัจจัยภายในมากซึ่งได้รับการพิสูจน์และยอมรับทางวิทยาศาสตร์แล้ว หนึ่งในการศึกษาที่มักถูกนำมาแสดงให้เห็นผลกระทบของปัจจัยภายนอกคือการเปรียบเทียฝาแฝดเหมือนที่มีพันธุกรรมเหมือนกันแทบทุกอย่างแต่แสดงสัญญาณแห่งวัยออกมาต่างกันเพราะเธอมีไลฟ์สไตล์และอาศัยสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน

สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การเผชิญมลภาวะ รังสี UV ไลฟ์สไต์การใช้ชีวิตซึ่งรวมไปถึงสกินแคร์ที่ใช้ พฤติกรรมการนอนเที่ยวกินดื่ม หรือการทำงานที่มีความเครียด กดดัน มาก-น้อย ล้วนส่งผลต่อผิวและการเกิดความเสื่อมชราที่แสดงออกมาในรูปแบบที่ต่างกันซึ่งก็ต้องการดูแลที่ปรับให้เหมาะกับสาเหตุนั้น ๆ

(Source : Factors contributing to the facial aging of identical twins.)

จากแนวคิดที่ว่าริ้วรอยแห่งวัยที่แต่ละคนเริ่มมีก็ต่างกัน มาจากสาเหตุที่ต่างกัน จึงต้องการการดูแลด้วยส่วนผสมที่ทำงานในกลไกและเป้าหมายที่แตกต่าง ทางแบรนด์จึงพัฒนา จึงพัฒนา Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer ทั้งหมด 2 สูตร โดยสูตร Revolumize เน้นไปที่ผิวที่ขาดความสดใสดูซูบตอบและต้องการเติมเต็มความอิ่มเอิบให้ผิวดูเต็มแน่น  ส่วนสูตร Resculpt จะเน้นไปที่ผิวที่มีปัญหาเริ่มหย่อนคล้อยไม่ยืดหยุ่นเพื่อช่วยเสริมให้ผิวมีความกระชับได้รูปมากขึ้น

แน่นอนว่าเมื่ออายุเราอัพไปถึงจุดหนึ่งเราจะเจอปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ทั้งหมดนั่นแหล่ะ ซึ่งทาง Clinique ก็มีแพคเกจแบบ Duo ที่ในบรรจุภัณฑ์จะมีผลิตภัณฑ์ทั้งสองสูตร Revolumize  และ Resculpt อยู่ในกระปุกเดียว จะได้ไม่ต้องซื้อสองกระปุกแยกให้เปลืองพื้นที่ ซึ่งทั้ง 3 กระปุกนี้มาในปริมาณ 50ml (ในกระปุก Duo จะมีเนื้อผลิตภัณฑ์ Revolumize  และ Resculpt มาอย่างละ 25ml รวมเป็น 50ml ) ราคาเดียวกันคือ 3,600 บาท ทางแบรนด์เคลมว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้ตั้งแต่ใช้ครั้งแรกและผลในระยะยาวเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย 

Product’s Formula

เมื่อได้ผลิตภัณฑ์มาถึงมือก็พบว่าในแง่ของส่วนประกอบนั้นทั้งสองสูตรมาในเนื้อสัมผัสที่ต่างกันคนละขั้วเลย แต่สารบำรุงจะมีทั้งส่วนที่เหมือนกัน และส่วนที่แตกต่างแยกเฉพาะสูตรไป ซึ่งจากการเช็คข้อมูลเราพบว่าสารแอคทีฟของ Fresh Pressed™ Repair Clinical MD นั้นเหมือนเป็นการหยิบส่วนผสมตัวหลัก ๆในกลุ่ม Repairwear กับ Sculptwear และ SMART มาใช้และก็มีส่วนผสมใหม่ ที่ไม่เคยถูกใช้ในแบรนด์ Clinique มาก่อนเพิ่มเข้ามาด้วย 

ในส่วนแรกนี้เรามาดูส่วนผสมที่มีอยู่ในทั้งสองสูตรก่อน โดยเริ่มจากส่วนผสมของเปปไทด์ที่เน้นในเรื่องของริ้วรอย ซึ่งใส่มาทั้ง Acetyl Hexapeptide-8 หรือ Argereline ซึ่งเป็นเปปไทด์ต่อต้านริ้วรอยที่เคลมว่าคล้าย Botox และมีอยู่มานานนับสิบปีแล้ว ส่วนผสมของเปปไทด์อีกตัวก็คือ Whey Protein\Lactis Protein\Protéine Du Petit-Lait หรือ MPC™-Milk Peptide Complex โดยบริษัท CLR Berlin ซึ่งเคลมว่าช่วยเสริม Collagen-I และไฮยาลูโรนิคแอซิดในผิว ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้กับผิว  ส่วนผสมสองตัวนี้พบในผลิตภัณฑ์ Clinique หลายชิ้นที่เคลมเรื่องริ้วรอย

ส่วนผสมของเปปไทด์ใหม่ที่ไม่ใช้ในแบรนด์มาก่อนอีก 2 ชนิดนั่นคือ Acetyl Octapeptide-3 หรือ SNAP-8 เป็นเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ของ Argereline และเคลมว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า อัดมาเพิ่มไปอีก แม้ว่าผู้ผลิตเปปไทด์อย่าง Lipotec จะให้ข้อมูลว่าเปปไทด์ทั้งสองตัวนี้มีกลไกหลักในการทำงานจะพุ่งไปที่โปรตีน SNAP-25 ที่เกี่ยวข้องกับการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ (ถึงได้เคลมว่าเป็น Botox-Like) แต่ข้อมูลจากการศึกษาของจีนพบว่า Argereline ยังช่วยเสริมเรื่อง  Collagen-I ด้วย และเรามองว่าการใส่มาทั้งสองตัวก็ไม่เสียหายอะไรแหล่ะ  นอกจากนี้ยังมี Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate หรือเปปไทด์  Syn-Ake ที่ก็เคลมเรื่องการคลายร่องริ้วรอยเช่นกัน 

ส่วนผสมกลุ่มต่อไปจะเน้นในเรื่องของพลังงานของเซลล์ผิวและการต้านอนุมูลอิสระ ตัวที่น่าสนใจก็จะมี Creatine ซึ่งเป็นโมเลกุลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพลังงานของเซลล์ มีข้อมูลการศึกษาว่าส่วนผสมนี้ดูดซึมลงบนผิวได้ ช่วยเรื่องเมตาบอลิซึมและช่วยเสริมเรื่องการลดเลือนริ้วรอยได้ Ergothioneine หรือ Thiotaine นี้มาจากบริษัท AGI Dermatics (ซึ่งเจ้าของก็คือเครือ Estee Lauder ที่เป็นเจ้าของ Clinique นั่นแหล่ะ) เขาเคลมว่าตัวนี้ทำงานคล้าย Carnitine ในการเสริมพลังของผิว และปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระด้วย และก็ยังมีทั้ง Caffeine กับ Adenosine Phosphate และ Acetyl Carnitine HCL ที่มักเจอในผลิตภัณฑ์ที่เคลมเรื่องการ Energizing ผิวอีกเช่นกัน

(Source : The anti-wrinkle efficacy of Argireline., Dermal penetration of creatine from a face-care formulation containing creatine, guarana and glycerol is linked to effective antiwrinkle and antisagging efficacy in male subjects., Topical application of creatine is multibeneficial for human skin, Methods and compositions for the protection of mitochondria)

ส่วนผสมของแอคทีฟตัวอื่นก็ยังมี Sigesbeckia Orientalis (St. Paul’S Wort) Extract หรือ Siegesbeckia™ PH จาก Sederma เคลมเรื่องการต้านการอักเสบ ส่วน Glycine Soja (Soybean) Protein อาจจะเป็น Vegeseryl™ HGP LS 9874 จากบริษัท BASF ที่อุดมไปด้วย Globulins และ Albumin เคลมในเรื่องทำให้ผิวนุ่มและยืดหยุ่น และสารสกัดจากยีสต์ Yeast Extract น่าจะช่วยเรื่องการต้านการระคายเคืองได้ ส่วน Acetyl Glucosamine ก็เป็นส่วนผสมทางเครือได้จดสิทธิบัตรว่าช่วยเสริมการผลัดเซล์ผิว

จากส่วนผสมหลักที่มีอยู่ในทั้งสองสูตรจะเน้นไปที่การต่อต้านริ้วรอย การเพิ่มพลังงานและการผลัดเซลล์ให้กับผิวเพื่อเพิ่มความสดใสให้ผิว และการต้านการอักเสบเปนหลัก

ส่วนผสมที่มีเฉพาะใน Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer – Revolumize นั้นทางแบรนด์เน้นว่า Sodium Hyaluronate ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นมีถึง 3 ขนาดโมเลกุลด้วยกันทั้งเล็กกลางใหญ่ ซึ่งจะช่วยเติมความชุ่มชื้นอิ่มเอิบในชั้นของผิวที่ต่างกัน

Soy Amino Acids น่าจะเป็น Amino Soy NPNF™ ส่วน Hydrolyzed Soy Protein ก็น่าจะเป็น Soy Tein NPNF™ ของบริษัท TRI-K Industries ทั้งคู่ เคลมว่าช่วยทำหน้าที่ช่วยอุ้มความชุ่มชื้นให้กับผิว และตัวนี้ก็ยังมี Hydroxyethyl Urea ซึ่งก็เป็นตัวให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ดี 

Micrococcus Lysate หรือ  Ultrasomes® ซึ่งผลิตโดยบริษัท AGI Dermatics อีกเช่นกัน ผู้ผลิตส่วนผสมเคลมว่าส่วนผสมนี้ช่วยฟื้นฟูผิวหลังจากถูกทำร้ายจากแสงแดด Ursolic Acid เป็นสารสำคัญที่ได้มาจาก Salvia officinalis มีฤิทธ์ช่วยต้านการอักเสบ และเหมือนว่าแบรนด์  Clinique เริ่มใช้ส่วนผสมตัวนี้ครั้งแรกในผลิตภัณฑ์นี้

นอกเหนือจากนั้นสารแอททีฟก็จะเป็นสารสกัดจากพืชที่เราไม่แน่ใจว่ามาจากผู้ผลิตไหนและเคลมอะไร เราจะตีกลม ๆ เป็นสารแอนติออกซิแดนท์ กับกรดอะมิโน Leucine ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น โดยรวมคือเน้นเรื่องการ  Plumping คืนความอิ่มเอิบโดยการใช้ส่วนผสมของไฮยาลูรอน กับบรรดาโปรตีนและกรดอะมิโนจากถั่วเหลืองที่ช่วยโอบอุ้มและเติมความอิ่มฟูให้กับผิวนั่นเอง

Ingredients : Water\Aqua\Eau, Butylene Glycol, Butyrospermum Parkii (Shea Butter), Cetearyl Alcohol, Hydrogenated Polyisobutene, Phenyl Trimethicone, Sucrose, Glycerin , PEG-100 Stearate, Cetyl Esters, Isostearyl Neopentanoate, Polyglyceryl-3 Beeswax, HDI/Trimethylol Hexyllactone Crosspolymer, Cetearyl Glucoside, Acetyl Glucosamine, Whey Protein\Lactis Protein\Protéine Du Petit-Lait, Camellia Sinensis Leaf Extract, Saccharomyces Ferment Filtrate, Caffeine, Pyrus Malus (Apple) Fruit Extract, Micrococcus Lysate, Centaurium Erythraea (Centaury) Extract, Hydrolyzed Soy Protein, Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate, Acetyl Hexapeptide-8, Biotin, Acetyl Octapeptide-3, Ursolic Acid, Ergothioneine, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul’S Wort) Extract, Linoleic Acid, Sodium Hyaluronate, Tocopheryl Acetate, Isoleucine, Creatine, Lecithin, Glycine Soja (Soybean) Protein, Menthanediol, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, Adenosine Phosphate, Dimethicone, Acetyl Carnitine HCL, Hydroxyethyl Urea, Polybutene, Soy Amino Acids, Methyl Glucose Sesquistearate, Leucine, Polysilicone-11, Yeast Extract\Faex\Extrait De Levure, Carbomer, Stearic Acid, Caprylyl Glycol, 1,2-Hexanediol, Citric Acid, Aminomethyl Propanol, Calcium Chloride, Hydroxyethylcellulose, Polymethyl Methacrylate, Silica, Sodium Citrate, Disodium EDTA, BHT, Sodium Dehydroacetate, Sodium Benzoate, Potassium Sorbate, Phenoxyethanol, Ext. Violet 2 (CI 60730), Red 33 (CI 17200). [ILN46473]

ส่วนผสมของ Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer – Resculpt นั้นมีเนื้อสัมผัสที่เป็นเจลครีมเนื่องจากคุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์ต้องการเคลมในเรื่องของการทำให้ผิวดูกระชับขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้หยิบยืมส่วนผสมหลักในกลุ่ม Sculptwear อย่าง LIFTONIN®-XPRESS โดยบริษัท Rahn ซึ่งเป็นโพลิเมอร์เบลนด์จากส่วนผสมสามชนิด Pullulan กับ Porphyridium Cruentum Extract และ Hydroxypropyl Methylcellulose ที่สร้างชั้นฟิลม์บนผิวที่ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและรู้สึกกระชับขึ้นในทันที กับส่วนผสมของ Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Extract หรือ POLYLIFT โดยบริษัท Silab ที่ก็เป็นไบโอโพลีเมอร์ซึ่งสร้างฟิลม์ที่กระชับผิวเช่นกัน ส่วนผสมนี้เหล่านี้ให้ผลเชิงคอสเมติคในระยะสั้น

ส่วนผลในระยะยาวนั้นตัวนี้มีส่วนผสมของเปปไทด์เสริมเข้ามาอีกคู่หนึ่งนั่นคือ Palmitoyl Tripeptide-1 และ Palmitoyl Tetrapeptide-7 หรือ Matrixyl 3000 ซึ่งช่วยกระตุ้นโปรตีนสำคัญที่เป็นโครงสร้างของชั้นผิวได้ สารสกัดจากบัวบก Centella Asiatica (Hydrocotyl) Extract ก็อาจเป็นได้ทั้งตัวต้านการอักเสบ และอาจรวมไปถึงการเสริมเรื่องคอลลาเจนด้วย ส่วน Polygonum Cuspidatum Root Extract ที่เป็นพืชสมุนไพรจีนนั้นก็นั้นก็อุดมไปด้วยสาร Resveratrol ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังทีเดียว

สารสกัดจากถั่วเหลือง Glycine Soja (Soybean) Seed Extract ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าใช้ของบริษัทไหนเพราะมีซัพพลายเออร์หลายเจ้า แต่จากข้อมูลที่ได้รับจาก Dr.Tom หัวหน้านักวิจัย ท่านได้บอกว่าสารสกัดถั่วเหลืองที่ใช้นั้นอุดมไปด้วยสาร LPA หรือ Lysophosphatidic Acid ที่ทำงานคล้ายกับ Growth Factor จะช่วยให้ผิวมีความกระชับขึ้น ซึ่งดอกเตอร์ได้ให้ตัวอย่างว่าสารจากถั่วเหลืองนี้เมื่อใส่ลงไปในผิวหนังที่เพาะเลี้ยงไว้จะทำให้เกิดการหดกระชับของโครงสร้าง ทีนี้ผลจากผิวหนังจำลองกับการเอามาทาบนผิวอาจจะเหมือนหรือได้ผลต่างกันก็ได้ แต่อย่างไรก็ดี สารสกัดจากถั่วเหลือก็มีข้อมูลว่าช่วยเป็นทั้งไวท์เทนนิ่งและช่วยเรื่องของริ้วรอยได้

โดยรวมแอคทีฟตรงนี้ก็จะเน้นเรื่องกาใฟ้เอฟเฟคในการกระชับผิวในทันทีและการเสริมโปรตีนสำคัญที่เป็นโครงสร้างของชั้นผิวในระยะยาว

Ingredients : Water\Aqua\Eau, Glycerin, Caprylyl Methicone, Butylene Glycol, Alcohol Denat., Dimethicone, Isododecane, PEG-10 Dimethicone, Dipropylene Glycol, Prunus Amygdalus Dulcis (Sweet Almond) Seed Extract, Polygonum Cuspidatum Root Extract, Dipeptide Diaminobutyroyl Benzylamide Diacetate, Porphyridium Cruentum Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Cholesterol, Glycine Soja (Soybean) Protein, Palmitoyl Tripeptide-1, Acetyl Octapeptide-3, Persea Gratissima (Avocado) Oil, Cucumis Melo (Melon) Fruit Extract, Palmitoyl Tetrapeptide-7, Acetyl Carnitine HCL, Decarboxy Carnosine HCL, Acetyl Hexapeptide-8, Caffeine, Creatine, Adenosine Phosphate,  Acetyl Glucosamine, Pullulan, Linoleic Acid, Tocopheryl Acetate, Centella Asiatica (Hydrocotyl) Extract, Menthanediol, Glycine Soja (Soybean) Seed Extract, Sodium Hyaluronate, Propylene Glycol Dicaprylate, PEG-150, Ergothioneine, Lauryl PEG-9 Polydimethylsiloxyethyl Dimethicone, Yeast Extract\Faex\Extrait De Levure, Jojoba Esters, Tetrahexyldecyl Ascorbate, Whey Protein\Lactis Protein\Protéine Du Petit-Lait, Sea Whip Extract, Caprylyl Glycol, Lactic Acid, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul’S Wort) Extract, Phytantriol, Propylene Carbonate, Hydroxypropyl Methylcellulose, Disteardimonium Hectorite, Polyquaternium-51, Polysorbate 20, Sodium Hydroxide, Citric Acid, Carbomer, Calcium Chloride, Potassium Sulfate, Sodium Hexametaphosphate, Sodium Citrate, Potassium Sorbate, Sodium Benzoate, Phenoxyethanol. [ILN46474]

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์ของทั้งสองสูตรนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าซื้อกระปุกแบบ Duo มาต่อให้ตาบอดก็ใช้ถูกว่าหลุมไหนเป็นสูตรอะไร เพราะเนื้อของสูตร Revolumize นั้นจะเป็นเนื้อครีมที่เข้มข้นเนื่องจากมีส่วนผสมของ Shea Butter อยู่ด้วย เนื้อผลิตภัณฑ์ยังมีการแต่งสีออกเป็นสีม่วงอ่อน ๆ ที่ทำให้เห็นความแตกต่างจากอีกสูตรมากขึ้นไปอีก

เนื้อครีมที่เข้มข้นแต่เซ็ทตัวแบบไม่ลื่นหรือหนึบเหนียวในขณะเดียวกันก็เคลือบผิวเก็บความชุ่มชื้นได้จริงจัง ส่วนตัวปูเป้ชอบเนื้อครีมของ Revolumize มากโดยเฉพาะในเวลากลางคืน เพราะหลังจากตื่นมาเข้าห้องน้ำมองกระจกในตอนเช้า (จริง ๆ ต้องบอกว่าสาย ๆ ถึงจะถูก) รู้สึกว่าผิวอิ่มเต็มและดูสดใสดี ในช่วงแรกที่ลองใช้โดยยังไม่เห็นส่วนประกอบอะไรเลยนั้นสัมผัสได้ว่าหลังจากทาลงไปบนผิวสักพัก ผิวจะรู้สึกเย็นเล็กน้อยราวกับเหมือนความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในผิว แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ พอได้ส่วนผสมก็พบว่ามีส่วนผสมของอนุพันธ์เมนทอล Menthanediol อยู่ตามที่คาดเอาไว้ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเขาใช้ในปริมาณที่น้อยและให้ความรู้สึกเย็นเพียงบาง ๆ และอยู่เพียงชั่วแว่บเดียวเท่านั้นก็หายไป น่าจะเพราะด้วยข้อจำกัดของสูตรผลิตภัณฑ์แบบเนื้อครีมที่เข้มข้นมันจะไม่ค่อยรู้สึกฉ่ำเวลาทาเหมือนพวกเจลครีม จึงใส่ส่วนผสมตัวนี้มาเพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกว่ามันมีความเฟรช สดชื่น มาแทน

ส่วนสูตร Resculpt นั้นจะมีลักษณะเป็นเจลครีมที่เข้มข้นและอยู่ตัวมีสีขาวนวลและรู้สึกฉ่ำผิวเมื่อสัมผัส ส่วนตัวใช้สูตรนี้น้อยกว่าอีกสูตรหนึ่งเพราะว่าความกังวลหลักของสภาพผิวและโครงหน้าตัวเองตอนนี้จะเป็นเรื่องหลังจากที่จัดฟันเสร็จ หน้าเล็กลง และแก้มที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็หายไปเยอะจนกลัวว่ามันจะดูซูบไป และช่วงนี้รูปกรอบหน้าเราก็ค่อนข้างที่จะเข้ารูปดีเนื่องจากมีการนวดเดรนของเสียใต้ผิวออกทุกวัน และเมื่อใช้ทาทั้งหน้าในตอนกลางคืนรู้สึกว่าเราแฮปปี้กับความชุ่มชื้นอิ่มฟูที่อีกสูตรให้ได้มากกว่า 

เราสามารถที่จะใช้ผลิตภัณฑ์สูตรหนึ่งทาทั้งใบหน้าก็ได้ หรือจะใช้ทั้งสองสูตรทาในแต่ละจุดที่มีความต้องการต่างกันก็ได้ ซึ่งส่วนตัวเลือกที่จะใช้สูตร Revolumizeในบริเวณช่วงกลางของใบหน้า โดยเฉพาะช่วงแก้มที่กำลังกังวลเรื่องวอลลุ่มที่หายไป และผิวช่วงใต้ตา หางตา ที่ต้องการความอิมฟูเพื่อให้ดูเรียบเนียนขึ้น  ส่วนสูตร นั้นเราจะใช้ช่วงแนวกราม ลำคอ ที่มักจะเจอปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยได้มากกว่าส่วนอื่น แต่ไม่แนะนำให้ทาทั้งสองสูตรทับกันจ้า

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer เรียกได้ว่าเป็นการรวบส่วนผสมและเทคโนโลยีตัวหลักที่เคยอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยทั้งสามกลุ่มที่เขาเคยมีมา พร้อมกับส่วนผสมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ  มาอยู่ในมอยซ์เจอไรเซอร์กระปุกเดียว (ถ้าซื้อแบบ Duo) ซึ่งส่วนตัวชอบแนวคิดของมอยซ์เจอไรเซอร์ Anti-Aging ที่มีสองเนื้อผลิตภัณฑ์ในกระปุกเดียว เพราะว่ามันเหมาะกับปัญหาผิวในจุดที่ต่างกัน แถมทำให้เราไม่ต้องมีสองกระปุกให้เกะกะโต๊ะเครื่องแป้งอีกด้วย (แต่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องใช้ยังไงให้มันหมดทั้งสองส่วนพร้อมกันแทน)

ปูเป้มองว่านี่เป็นส่วนเติมเต็มที่ดีในกลุ่มของ Fresh Pressed™ ที่มีบูสเตอร์เซรั่มที่ใช้ส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการยอมรับ ความเข้มข้นที่คาดหวังผลในเรื่องการของการฟื้นฟูและดูแลผิวเรื่องริ้วรอยรวมไปถึงความกระจ่างใสได้อย่างไม่ต้องสงสัย การเติมเต็มความชุ่มชื้น เพิ่มความอิ่มเอิบ และการให้เอฟเฟคผิวกระชับจึงเป็นสิ่งที่เสริมการดูแลที่ครบมิติมากขึ้น

แต่ว่าในตอนแรกที่ได้เห็นว่านี่คือผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Fresh Pressed™ เราก็แอบหวังว่ามอยซ์เจอไรเซอร์นี้น่าจะมีอะไรที่สอดคล้องกับชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ อย่างเช่นการกดผสมอะไรสักอย่างลงไปแบบตัวบูสเตอร์ หรือบรรจุภัณฑ์แบบกระปุกแบบ Hermetic Airless ที่ให้ความรู้สึกว่าช่วยเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดีและสดใหม่ทุกครั้งที่กดใช้ ซึ่งพอเห็นว่าเป็นกระปุกครีมแบบปกติก็บอกตามตรงว่ามีแอบผิดหวังตรงนี้นิดนึงล่ะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Duo
Price :  50ml / 3,600 BAHT
Skin Type : All Skin Type / Dehydrated Skin
Outstanding :  Hydration / Plumping / Anti-Aging

Clinique : Fresh Pressed™ Repair Clinical MD
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ได้ทุกส่วนผสมที่เป้นเทคโนโลยีต่อต้านริ้วรอยของ Clinique ในกระปุกเดียว
  • เนื้อครีม Revolumize ช่วยให้ผิวอิ่มฟูได้ดีมาก
  • เลือกใช้เนื้อผลิตภัณฑ์ได้ตามจุดที่ต้องการได้
CONS
  • มีส่วนผสมของอนุพันธ์เมนทอล
  • บรรจุภัณฑ์แบบกระปุก
4.0Overall Score