หลังจากที่เราถูกอกถูกใจ Garnier : Light Complete White Speed Super Essence เซรั่มไวท์เทนนิ่งราคาเบาแต่ใช้ดีมากของเขา คราวนี้ Garnier บอกว่าเนี่ยถ้าใช้เซรั่มคู่กับครีมของเขาจะเห็นผลในการลดเลือนจุดด่างดำภายใน 3 วัน เลยนะเธอ!!! ไม่พูดเปล่า ๆ เขาก็ส่ง Garnier : Light Complete Day Multi-Action Whitening Serum Cream SPF20 / PA+++ มาให้ลองใช้ถึงบ้านทันที

กล้าท้าเราก็ยินดีกล้าพิสูจน์ให้!!!

สำหรับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์นั้น เอสเซนส์ Garnier : Light Complete White Speed Super Essence  เราเคยได้ทำรีวิวโดยละเอียดเอาไว้แล้ว และเราให้มันเป็น PuPe’s Favorite Item of Year 2015 เอาไว้ด้วย ทุกคนสามารถไปอ่านความดีงามของมันได้ แต่หลัก ๆ แล้วเราจะสรุปให้ว่ามันเป็นไวท์เทนนิ่งราคาเบาหวิวที่มีส่วนผสมที่ครบมาก และผลที่ได้หลังการใช้ 4 สัปดาห์เราก็ประทับใจมาก เนื้อเอสเซนส์ก็ไม่หนักผิว แนะนำรัว ๆ กันไปหลายรอบแล้ว แต่ตัวที่เรายังไม่เคยรีวิวและพึ่งได้เอามาลองใช้คู่กับก็คือ Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++ ที่เราจะมาพูดถึงอย่างละเอียดในวันนี้ ส่วนตัวการทดลองใช้เราจะใช้ทั้งสองผลิตภัณฑ์คู่กันตามคำท้าจ้า

Product’s Formula



ในส่วนของ Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++ (18ml / 99 Baht – 50ml / 239 Baht) ผลิตภัณฑ์ตัวนี้เคลมว่าเนี่ยชั้นเป็น “เซรั่มครีม” เพื่อผิวกระจ่างใสพร้อมลดเลือนจุดด่างดำ เห็นผลไวขึ้น 3 เท่า และทางแบรนด์เคลมว่าเมื่อใช้คู่กับ Light Complete White Speed Super Essence แล้วจะเห็นผลใน 3 วัน จัดการรอย 3 รูปแบบได้แก่ รอยสิว จุดดำ และฝ้าแดด

ส่วนประกอบหลักของผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็นส่วนของสารกันแดด และสารบำรุง

Sunscreen Actives มี Ethylhexyl Methoxycinnamate เป็นตัวกรอง UVB ตัวนี้ไม่ค่อยเสถียรนัก ส่วน Titanium Dioxide ช่วยกรองและสะท้อน UVA-UVB ตัวนี้ไม่มีปัญหาเรื่องความเสถียร ตัวสุดท้ายคือ Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate ไว้กรอง UVA ตัวนี้มีความเสถียรดี โดยรวมสารกันแดดถือว่าพอใช้สำหรับชีวิตประจำวันที่ไม่ต้องเจอแดด แบบอยู่ในบ้านอะไรแบบนี้เพราะว่า ​SPF ไม่สูงแต่มีค่ากัน UVA ที่รับได้ สัดส่วนระหว่างค่าป้องกัน UVB : UVA ถือว่าผ่าน 3 : 1 แต่ถ้าออกไปข้างนอกเรายังแนะนำให้ทากันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่านี้และมี PA++++ จะชัวร์ที่สุด


  Ascorbyl Glucoside (AA2G) เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะมีความเสถียรที่ดีและเมื่อทาลงบนผิวจะถูกเอนไซม์ในผิวแตกตัวเป็นวิตามินซีก่อนนำไปใช้ การศึกษาพบว่า AA2G สามารถอยู่ในระบบและทำงานได้นานกว่าอนุพันธ์มาตรฐานอย่างรูปเกลือของวิตามินซี (ascorbic acid 2-phosphate) มีการศึกษาว่าการใช้ AA2G คู่กับ Niacinamide จะสามารถช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ (ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่มี Niacinamide แต่ว่าในเอสเซนส์มีผสมอยู่ ก็น่าจะไปกันได้) แต่ปริมาณของวิตามินซีที่ใช้ในครีมตัวนี้มีน้อยกว่าสารปรับค่า pH ซึ่งปกติก็จะใช้น้อยมาก ๆ อยู่แล้วในสูตรล่ะ

(Source : In vitro and in vivo prolonged biological activities of novel vitamin C derivative, 2-O-alpha-D-glucopyranosyl-L-ascorbic acid (AA-2G), in cosmetic fields.Ultrasound enhanced skin-lightening effect of vitamin C and niacinamide.)

Phenylethyl Resorcinol สารไวท์เทนนิ่งหลักตัวเดียวกับที่มีในเอสเซนส์ อันนี้ไปกดอ่านรีวิวของตัวเอสเซนส์ได้เลยจ้า

Capryloyl Salicylic Acid หรือ LHA เป็นอนุพันธ์ของ BHA ที่ทางเครือ L’Oreal พัฒนาขึ้น ใช้เป็น Micro-Exfoliation ในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกสุดแบบเซลล์ต่อเซลล์ทำให้ผิวไม่มีอาการลอกหรือระคายเคือง


ส่วนที่เหลืออื่น ๆ เป็นสารสกัดจากผลไม้ น้ำลูกกีวี สารสกัดเกรปฟรุต มะนาว ซึ่งเรามองว่าใส่มาเพื่อสร้างจุดขายและสร้างความเป็น Natural ให้กับผลิตภัณฑ์ อาจจะมีประโยชน์เป็นแอนติออกซิแดนท์ได้แต่เรามองว่าไม่ใช่ตัวหลักที่เราจะคาดหวังผลจากตรงนี้

Ingredients : Aqua/Water, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Glycerin, Alcohol, Cyclohexaxiloxane, Ammonium Polyacryldimethyltauramide / Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Titanium Dioxide, Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate, PEG-100 Stearate, CI 77891 / Titanium Dixoide, Glyceryl Stearate, Pentaerythrityl Tetraethylhexanoate, Synthetic Wax, Actinidia Chinensis (Kiwi) Fruit Water, Aluminium Hydroxide, Ascorbyl Glucoside, Benzyl Alcohol, Benzyl Salicylate, Biosaccharide Gum-1, Capryloyl Salicylic Acid, Caprylyl Glycol, Cetyl Alcohol, Citric Acid, Citrus Grandis (Grapefruit) Extract, Citrus Limon (Lemon) Fruit Extract, Dimethicone, Dimethiconol, Ethylparaben, Geraniol, Limonene, Linalool, Methylparaben, Perlite, Phenoxyethanol, Phenylethyl Resorcinol, Potassium Cetyl Phosphate, Propylene Glycol, Silica, Stearic Acid, Tetrasodium EDTA, Parfum / Fragrance. (F.I.L B163332/1)

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นครีมข้นสีขาวทึบ ส่วนของสีขาวที่ทึบขนาดนี้มาจากการใช้ Titanium Dioxide เป็นหนึ่งส่วนผสมหลัก ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าในครีมตัวนี้มี Titanium Dioxide อยู่สองตัวในสูตร ตัวแรกที่เป็น Titanium Dioxide เฉย ๆ ตัวนี้เป็นเกรดของ Sunscreen ซึ่งมักจะมีอานุภาคขนาดเล็กเพื่อไม่ให้มันทึบหรือขาวเกินไป ส่วนอีกตัวนึงจะระบุว่า CI 77891 / Titanium Dixoide อันนี้เป็น Pigment Grade เพื่อทำให้เกิดความทึบ เกิด Coverage หรือการปกปิด และสะท้อนแสงเป็นสีขาว ดังนั้นครีมตัวนี้จึงทำมาเพื่อให้ผลเชิงคอสเมติคแบบทาแล้วเคลือบผิวให้ดูขาวขึ้นในทันที

เอฟเอฟของเนื้อครีมที่ทาแล้วทำให้ผิวดูขาวในทันทีนี้จะเริ่มเซ็ทตัวและดรอปความขาวให้กลืนเข้ากับผิวได้ดีขึ้นหลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง (แต่ก็ยังดูขาวอยู่ดี) ผู้หญิงบางส่วนอาจจะชอบเอฟเฟคแบบนี้ แต่บางส่วนอาจจะไม่ต้องการ โดยส่วนตัวเราจะไม่ค่อยชอบใช้อะไรที่ทาแล้วผิวขาวขึ้นเท่าไหร่ล่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์เมื่อทาเดี่ยว ๆ จะเซ็ทตัวแบบไม่ดูมันหรือเหนอะหนะเท่าไหร่ แต่เมื่อใช้คู่กับเอสเซนส์ในไลน์เดียวกันจะเริ่มมีความมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยซึ่งส่วนตัวยอมรับตรงนี้ได้นะ


ทว่าสิ่งที่พบในระหว่างการทดลองใช้คือครีมตัวนี้เมื่อหลังจากเซ็ทตัวแห้งไปหลายชั่วโมง หากมือเราเผลอไปลูบผิวหรือสัมผัสแรงหน่อย หรือตรงแนวขอบแว่นตาที่ดั้งจมูก มันจะลอกเป็นขุยสีขาวออกมาได้  เราลองตัดสกินแคร์ที่เราใช้ทั้งหมดเหลือแค่เพียงเซรั่มรกหมูที่บางที่สุดที่เราใช้เพียงตัวเดียว ตามด้วยเอสเซนส์และครีมของ Garnier อาการลอกเป็นขุยนั้นน้อยลง แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี เรามองว่าครีมตัวนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายขั้นตอนหรือมีการแต่งหน้าเพิ่มเพราะว่าเนื้อผลิตภัณฑ์เข้ากับตัวอื่นลำบาก

นอกจากนี้ตัวครีมยังมีกลิ่นของน้ำหอมที่ค่อนข้างแน่นเหมือนกัน  ปกติเราจะเป็นคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมหรือมีมาก็ขอให้กลิ่นบาง ๆ หรือกลิ่นไม่ติดทนนัก เรายอมรับกลิ่นของ Garnier : Light Complete White Speed Super Essence ได้นะ แต่พอใช้คู่กับ Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++ ไปพร้อมกันเรารู้สึกว่ากลิ่นมันแน่นมาก อบอวล และติดทนเป็นชั่วโมง เรามองว่านี่คือสิ่งที่ต้องปรับปรุงให้มันลดลงล่ะ หรือออกสูตรที่ปราศจากน้ำหอมมาเพิ่มก็น่าจะดี เพราะว่าการคาดหวังประสิทธิภาพของการกันแดดในผลิตภัณฑ์เราจะต้องทามันในปริมาณที่เยอะหน่อย ซึ่งถ้ากลิ่นน้ำหอมหนักไปเราทาเยอะก็จะมึนกลิ่นเอาได้

สำหรับผลในการทดลองใช้ Garnier : Light Complete White Speed Super Essence คู่กับ Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++ เป็นระยะเวลา 3 วันก็ตามรูปด้านบนนี้  โดยรูปถ่ายทั้งหมดนำมาจาก  RAW File ที่ไม่ผ่านการตกแต่งและทำการตั้งค่ากล้องแบบ Manual เพื่อให้ภาพออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

จะเห็นได้ว่าเรื่องของการลดเลือนรอยแดงจากการกดสิวหมาด ๆ ดูจางลงไปนิดหน่อย ซึ่งส่วนตัวก็คาดเอาไว้แล้วว่าผลมันจะออกมาแบบนี้เพราะเรารู้ว่าของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ยิ่งอายุเยอะยิ่งใช้เวลานานขึ้นกว่ามันจะจางลง รีวิวตัวเอสเซนส์เราชอบมากยังใช้เวลาลองถึง 1 เดือนแล้วมาเทียบกันเราถึงเห็นผลที่แตกต่างจนเห็นได้ชัดเจนนะ

ในส่วนของสภาพผิวโดยรวมสองวันแรกจะเห็นว่าผิวมีขึ้นขุยเล็กน้อยเพราะว่าเราต้องตัดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพวกเน้นความชุ่มชื่นเกือบทั้งหมดที่เราใช้อยู่ประจำเพื่อเช็คว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นก่อให้เกิดการลอกเป็นขุยได้มากขึ้นรึเปล่าจึงทำให้โดยรวมแล้วผิวเราชุ่มชื่นไม่พอล่ะ วันที่สามผิวเราดีขึ้นมาหน่อยเพราะว่าเรามาส์กให้ความชุ่มชื่นหลังล้างหน้าก่อนมาถ่ายรูปอัพเดท ผิวก็ค่อยดูชุ่มชื่นไม่แห้งเท่าไหร่และทำให้โทนผิวของเราดูดีขึ้น (ความชุ่มชื่นทำให้โทนผิวเราดูดีขึ้นจริง ๆ นะ)

 

Conclusion



โดยสรุปแล้ว Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++ เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ทำมาเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมาก คือคนที่หวังผลในระยะเวลาอันสั้น ทาแล้วผิวดูขาวขึ้นในทันทีด้วยเอฟเฟคของพิกเมต์กระจายแสง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันแดดที่กัน UVA และ UVB เป็นประจำทุกวันนั้นจะช่วยทำให้เราเห็นผลจากไวท์เทนนิ่งที่เราใช้ได้ดีขึ้นและปกป้องผิวจากจุดด่างดำที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ แต่กลิ่นน้ำหอมที่ค่อนข้างแน่น และเอฟเฟคการกระจายแสงที่ทาแล้วขาวขึ้นในทันทีอาจทำให้ผู้ใช้ทาครีมในปริมาณที่น้อยเพื่อไม่ให้ผิวดูขาวลอยเกินไปหรือเพื่อไม่ให้กลิ่นน้ำหอมแน่นจนเกินไป ซึ่งผิวก็จะได้รับการปกป้องจากแสงแดดน้อยลงตามไปกับปริมาณการทาที่น้อยลงด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวเรามองว่า Garnier : Light Complete White Speed Super Essence ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมากเมื่อเทียบกับราคาที่เราจ่ายไป ส่วนการเอามาใช้คู่กับ Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++  แล้วเคลมว่าจะเห็นผลใน 3 วันนั้นเราว่ารอยดำมันไม่ได้จางลงไวขนาดนั้นล่ะ ปูเป้คงเลือกที่จะใช้ Super Essence  คู่กับ Garnier UV Complete SPF50+ PA++++ ที่ปราศจากน้ำหอมและมีค่าการปกป้องผิวที่สูงกว่ามากเป็นประจำทุกวันมากกว่า

คอมเมนต์เพิ่มเติมคือผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่บอกว่าเป็น “เซรั่มครีม” เพราะมีส่วนผสมของ ‘White Speed Serum’ ที่โน๊ตดอกจันเอาไว้ตัวเล็ก ๆ ว่าคือส่วนผสมของ Glycerin + Ascorbyl Glucoside ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเรื่องของการตลาดที่ค่อนข้างนิยมใช้ในตอนนี้ เนื่องจาก Glycerin เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเกือบทั้งหมดที่วางจำหน่ายกันจะใส่มาอยู่แล้ว และวิตามินซีปริมาณที่ไม่ได้เยอะมากก็ถูกใช้กันทั่วไป แบบนี้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็สามารถบอกว่าเราเป็นเซรั่มครีม เซรั่มโลชั่น เซรัมนู่นนี่นั่นได้หมดสิ ซึ่งเราว่ามันไม่ควรเป็นแบบนั้นเพราะสำหรับเราผลิตภัณฑ์ที่จะเป็น “เซรั่ม” ควรหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงในปริมาณที่ “เข้มข้น”

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

– Garnier Light Complete White Speed Super Essence

– Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++

[คะแนนเรทติ้งด้านลงเป็นของ Garnier : Light Complete Serum Cream SPF20 / PA+++]

Garnier Light Complete White Speed 3 Days Program [Serum Cream + Super Essence]
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เป็นเดย์ครีมที่มีสารกันแดดที่กันรังสีได้ทั้ง UVA-UVB
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่ากลิ่นแน่น เยอะ และติดทนนานไป
  • เนื้อสัมผัสเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นได้ยาก ลอกเป็นขุยง่าย
1.9Overall Score