คุยไปคุยมาก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณจิ๊บได้ติดตาม Blog ของปูเป้ตั้งแต่ตอนอยู่ที่อเมริกาแล้วครับ พอมาทำงานที่ La Mer จึงอยากเชิญปูเป้มาทำความรู้จักกันด้วย…
แน่นอนว่าการมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ยังไม่ได้เปลี่ยนความคิดให้ผมมาเชื่อเจ้า Miracle Broth™ ได้ (แต่หากเจ้าน้ำหมักนาซ่าตัวนี้แสดงปาฎิหาร์ยให้ผมได้เจอกับตัวเองเมื่อไหร่ผมก็คงมาขอเป็นสาวกเมื่อนั้นแหล่ะครับ…ก็คงเหมือนกับที่ผมเป็นสาวกน้ำป้าเจี๊ยบล่ะมั้ง… หลักฐานอ้างอิงอะไรก็ไม่มี… แต่ผมใช้แล้วดีเป็นการส่วนตัวก็เลยใช้มาเรื่อย ๆ ครับ)
เขาระมัดระวังและใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ จนรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็น Super VIP ยังไงอย่างงั้น… การนวดที่ลงน้ำหนักได้อย่างพอดี ความอุ่นจากสัมผัสที่ได้รับทำให้รู้สึกสบายและเคลิบเคลิ้ม
เรื่องความมหัศจรรย์ของ The Miracle Broth™ จะเป็นจริงหรือไม่ ผมว่าผู้ที่เชื่อก็คงศรัทธาอย่างสุดใจ… คนที่ไม่เชื่อหรือยังไม่ประสบด้วยตัวเองอย่างปูเป้…ก็คงยังมีข้อสงสัยต่อไป แต่ที่ผมบอกได้อย่างเต็มปากคือวิธีการนวดหน้าของ La Mer นั้นเลิศมาก!!! (ออกมาหน้าเด้งสุด ๆ จากคำบอกเล่าของคนอื่น ๆ ที่มาร่วมนวดหน้าด้วยกัน) ปูเป้คงไม่บอกว่า La Mer นวดได้ดีเลิศที่สุดแล้ว เพราะผมเองก็นวดหน้ามาไม่เยอะมากคงจะเปรียบเทียบไม่ได้ แต่บอกได้แค่ว่าผมอยากมานวดอีกบ่อย ๆ ฮะ (แต่เงินไม่ถึง… กระซิก ๆ)
แต่เจ้า The Applicator หรือที่ผมเรียกว่า “ตุ้มมหัศจรรย์” นี่แหล่ะครับที่เลิศ ตรงปลายเขาทำมาจากเงินแท้ วิธีใช้ก็แค่จุ่มปลายของ The Applicator ลงไปบนครีม (ซึ่งจะได้ปริมาณที่พอเหมาะต่อการใช้ 1 ครั้งพอดี) แต้มเนื้อครีมเริ่มจากโหนกแก้ม ไล่มาใต้ดวงตาไปทางจมูก จากนั้นเกลี่ยไล่อีกทีกลับไปทางโหนกแก้ม ถ้าอยากได้อารมณ์แบบทำสปาก็มากดจุดกันหน่อยโดยใช้ The Applicator กดที่หัวตา กดและค่อย ๆ เคลื่อนออกไปทางโหนกแก้ม 7 ครั้ง จากนั้นใช้กดขึ้นไปทางคิ้วมาจรดที่หัวตา 7 ครั้ง ปิดท้ายด้วยการกดไล่จากหัวตาลงมาที่จมูก 7 ครั้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ถ้ามีอัพเดทเกี่ยวกับส่วนผสมของอายครีมตัวนี้ก็จะเอามาเล่าให้ฟังกันอีกทีนะฮะ สุดท้ายนี้ปูเป้ก็ต้องขอบคุณ คุณจิ๊บและทีมงาน La Mer ที่นวดหน้าให้ปูเป้ด้วยนะครับ 😀
PS. ตอนนี้อยากได้ The Applicator มาเพิ่มอีกอันครับ จะได้ทาและกดจุดทีเดียวสองข้างไปเลยคงจะเพลินน่าดู ถ้าทาง la Mer คิดจะเอามาขายแยกปูเป้ยินดีซื้อครับ 😀
***Update***
ได้ส่วนผสมมาแล้วนะฮะ นอกจาก Eucalyptus Leaf Oil แล้วอายครีมตัวนี้ก็เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้นที่มีส่วนผสมดีตามสไตล์ผลิตภัณฑ์กลุ่มมอยซ์เจอไรเซอร์ / ซีรั่ม ในเครือ ELCA ทั่วไป ถ้าไม่พิศวาสน้ำสาหร่ายหมักขนาดนั้น ตัวเลือกจาก Clinique หรือ Estee Lauder ก็ให้ส่วนผสมระดับนี้ได้ในราคาที่ประหยัดกว่ามากครับ
Ingredients : Water, Seaweed (Algae) Extract, Shea Butter, Butylene Glycol, Polyethylene, Hydrogenated Polyisobutene, Dimethicone, Cetyl Esters, Cetearyl Alcohol, Malachite, Polybutene, Isostearyl Neopentanoate, Silica, Trisiloxane, Yeast Extract, Caffeine, Cholesterol, Ascophyllum Nodosum Extract, Asparagopsis Armata Extract, Gelidium Cartilagineum Extract, Saccharomyces Lysate Extract, Sesame Seed Oil, Eucalyptus Leaf Oil, Sesame Seed, Alfalfa Seed Powder, Sunflower Seedcake, Sweet Almond Seed Meal, Sodium Gluconate, Potassium Gluconate, Copper Gluconate, Calcium Gluconate, Magnesium Gluconate, Zinc Gluconate, Tocopheryl Succinate, Niacin, St. Paul’s Wort Extract, Whey Protein, Sucrose, Palm Oil, Methyl Glucose Sesquistearate, Cetearyl Glucoside, Glycerin, Aminomethyl Propanol, Glyceryl Distearate, Tetraacetylphytosphingosine, Linoleic Acid, Sorbitol, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Steareth-10, Magnesium Ascorbyl Phosphate, Vinyl Dimethicone/Methicone Silsesquioxane Crosspolymer, Sodium Hyaluronate, Tocotrienols, Hexylene Glycol, Phytosphingosine, Isododecane, Tocopherol, Squalane, Propylene Glycol Dioctanoate, Phytosterols, Trimethylsiloxysilicate, Caprylyl Glycol, Acetyl Hexapeptide-8, Carbomer, Fragrance, Tourmaline, Disodium EDTA, Sodium Dehydroacetate, Phenoxyethanol, Linalool, Limonene, Benzyl Salicylate, Blue 1, Yellow 5, Titanium Dioxide, Green 5.