จะดีแค่ไหนถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลปัญหาผมหลุดร่วมได้เทียบเท่ากับทรีตเมนต์ที่นับเป็นมาตรฐานในปัจจุบันโดยไม่มีผลข้างเคียง ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้ แต่นั่นคือสิ่งที่ VENCARE แบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากอิตาลีบอกกับปูเป้

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาปูเป้ได้ไปพบกับคุณ Fabio Bonaventura และคุณ Chiara Bonaventura สองผู้บริหารของบริษัท IVT Trading (Italian Venture for Care) ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ VENCARE ที่มาแนะนำผลิตภัณฑ์และแง่มุมที่มาที่ไปของการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาผมหลุดร่วงเป็นกลุ่มแรกของแบรนด์

คุณ Fabio Bonaventura เล่าว่าเขาทำงานในแวดวงของบริษัทยาและเวชภัณฑ์มากว่า 20 ปี และได้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม และปัญหาผมหลุดร่วงจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgenic Alopecia) ก็เป็นสาเหตุผลักของปัญหาผมร่วงและศรีษะล้านที่พบได้มากที่สุด และทรีตเมนต์ที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบันนั้นอาจให้ผลเพียงชั่วคราวหรือยังอาจมีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์อีกด้วย การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกมาตอบโจทย์ของปัญหาโดยก้าวข้ามขีดจำกัดของสิ่งที่มีในปัจจุบันจึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเริ่มต้นแบรนด์อย่างแข็งแรง

DHT-in-hair-loss

ผลิตภัณฑ์ VENCARE ในปัจจุบันมีเพียงกลุ่ม Fortification ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลปัญหาผมหลุดร่วงจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgenic Alopecia) ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยตัวการมาจากการที่เอนไซม์ 5α-Reductase ไปเปลี่ยนฮอร์โมน Testosterone ให้กลายเป็น Dihydrotestosterone (DHT) ซึ่งในรายที่อาจจะไวกับสารตัวนี้เป็นพิเศษก็จะไปทำให้ระยะการทำงานของรากผมสั้นลง ขนาดของรากผมหดสั้นและเล็กลง จนทำให้เกิดการหลุดร่วงและขึ้นที่น้อยลงของเส้นผมจนกลายเป็นปัญหาหนังศีรษะล้านตามมาได้

ปัจจุบันก็มีหลายวิธีที่จะพยายามเข้ามาแก้ปัญหานี้อย่างเช่นกันการยับยั้งเอนไซม์ 5α-Reductase ไม่ให้ไปทำปฏิกิริยากับ Testosterone ก็ทำให้มี DHT น้อยลง รากผมถูกทำร้ายน้อยลงก็เลยแข็งแรงขึ้นจะทำให้เส้นผมกลับมาขึ้นใหม่ได้ตามปกติ สารกลุ่ม 5α-Reductase ที่ใช้กันก็จะมียา Finasteride กับ Dutasteride แต่ก็อาจจะได้ข่าวกันมาบ้างว่าใช้แล้วอาจจะมีปัญหาเรื่องนกเขาไม่ขันกันบ้างนะ (ซึ่งก็ฟังดูแย่ป่ะผมก็ร่วงแถมยังเสื่อมสมรรถภาพทางเพศอีก) แต่เคสที่รายงานก็มีไม่มากและการพยายามศึกษาถึงผลกระทบของยาตัวนี้ยังไม่พบความแตกต่างเชิงสถิติเมื่อเทียบกับยาหลอก (Placebo) อีกด้วย แต่เขาก็แนะนำให้มีการแจ้งถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้แม้จะน้อยมากก็ตามทีนี้แก่คนที่จะรับการรักษาด้วยยาเหล่านี้  นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติ สารสกัดอื่น ๆ ที่พยายามเคลมว่าทำงานโดยการยับยั้ง 5α-Reductase ได้ แต่เราก็ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้เท่าไหร่

อีกตัวเลือกหนึ่งที่เราเชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักก็คือยา Minoxidil เพราะมันแทบจะเป็น gold standard เป็นมาตรฐานอ้างอิงสำหรับผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นการเพิ่มของเส้นผมก็ว่าได้ แท้จริงแล้ว Minoxidil ไม่ได้ถูกพัฒนามาให้มาทำเรื่องนี้หรอก แรกเริ่มเดิมทียาตัวนี้ถูกใช้เป็นยาลดความดันเพราะมีฤิทธิ์ในการขยายหลอดเลือดจึงทำให้ความดันลดลง ทีนี้เขาก็ไปพบว่าผลข้างเคียงของคนที่กินยาตัวนี้เข้าไปเนี่ยมีเส้นขนงอกเพิ่มขึ้นล่ะ ไอเดียบรรเจิดจึงเกิดเป็นการพัฒนาเอาตัวยานี้มาทำเป็นยาทาเพื่อช่วยลดปัญหาผมร่วงหัวล้านกันนั่นเองและถูกใช้กันมายาวนานกว่า 30 ปีจนถึงปัจจุบัน แต่ข้อควรระวังของการใช้ยาตัวนี้คือการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดถ้าใช้มากไปหรือใช้บนผิวหนังที่มีแผลซึ่งจะทำให้การดูดซึมเข้าระบบภายในมีมากขึ้น และผลของการใช้ยา Minoxidil นั้นเป็นเพียงชั่วคราว เมื่อหยุดใช้เส้นผมที่ชูชันก็อาจจะหงอยหลุดร่วงไปในไม่กี่เดือนที่หยุดใช้

(Source : Minoxidil use in dermatology, side effects and recent patents.Adverse side effects of 5α-reductase inhibitors therapy: persistent diminished libido and erectile dysfunction and depression in a subset of patients.The efficacy and safety of 5α-reductase inhibitors in androgenetic alopecia: a network meta-analysis and benefit-risk assessment of finasteride and dutasteride.5α-Reductase inhibitors in androgenetic alopecia.)

Vencare Complex

ทาง VENCARE ได้ใช้ส่วนผสมหลัก 3 ชนิด ในการลด 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการหลุดร่วงของเส้นผม ได้แก่

1. Oleanoic Acid  เป็นกรดไขมันจากใบมะกอก เคลมว่าช่วยไปยับยั้ง 5α-Reductase จึงลดการผลิต DHT ที่เข้าไปโจมตีรากผมให้อ่อนแอ

2. Apigenin เป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่พบมาในพืชตระกูลซิตรัส ช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการไหลเวียนใต้ผิว จึงทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงรากผมมากขึ้น

3. Biotinoyl Tripeptide-1 (Biotinyl-GHK) เป็นเปปไทด์ที่เคลมว่าเสริมการทำงานของรากผมในการผลิตโปรตีนเคตินซึ่งเป้นโปรตีนสำคัญของเส้นผม

Procapil Test

ส่วนผสมเหล่านี้เป็น Complex จากผู้ผลิตส่วนผสมเครื่องสำอางชื่อดังอย่าง Sederma ภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Procapil ซึ่งเขามีการทดสอบภายในโดยเทียบส่วนผสม Biotinyl-GHK 2PPM กับ Minoxidil 2PPM พบว่าให้ผลที่ใกล้เคียงกัน และ Biotinyl-GHK ในความเข้มข้นที่ 5PPM ก็ให้ผลในการเพิ่มขึ้นของเส้นผมมากกว่าอีกกว่าเท่าตัว อย่างไรก็ดีนี่เปHนเพียงข้อมูลการศึกษาจากบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น ถ้ามีข้อมูลการทดสอบจากแหล่งอื่นมาสนับสนุนก็จะทำให้มันมีน้ำหนักในเรื่องประสิทธิภาพมากขึ้นล่ะ

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวของ VENCARE ในตอนนี้ประกอบไปด้วยแชมพู 1 ชนิด คือ VENCARE : Fortification Shampoo (200ml) และโลชั่นบำรุงหนังศีรษะแบบไม่ต้องล้างออกอีก 2 ชนิด ได้แก่ VENCARE : Fortification Intensive Lotion (100ml) ซึ่งมีส่วนผสมของ Biotinyl-GHK มากถึง 3 PPM และ VENCARE : Fortification Intensive Lotion Plus (100ml) ที่มีความเข้มข้นของสารบำรุงสูงที่สุดด้วย Biotinyl-GHK มากถึง 9PPM ด้วยกัน

ผลิตภัณฑ์ VENCARE Fortification Hair Care จะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2017 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเขาเล็งเห็นว่าตลาดของไทยนั้นยังเป็นตลาดที่ยังมีพื้นที่ให้เติบโต ผู้คนใส่ใจกับเรื่องความสวยความงาม ในอนาคตก็มีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อช่วยในเรื่องของการทำให้รากผมแข็งแรง เส้นผมสวยงาม และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลทั้งปัญหาผมร่วงและปัญหาหนังศีรษะอย่างรังแคไปพร้อมกันในหนึ่งเดียวด้วยนะ ยังไงต้องมาคอยติดตามกันว่าแบรนด์จากอิตาลีนี้จะมีอะไรน่าสนใจออกมาให้เราได้ชมกัน