ช่วงที่ผ่านมามี Skincare จากฝั่งญี่ปุ่นมาเปิดตัวในประเทศไทยมากมายเหลือเกิน เอาจริงๆ ปูเป้ไม่ค่อยได้ใช้เครื่องสำอางเอเชียเท่าไหร่นะครับ ทว่าตั้งแต่ได้อ่านหนังสือ The Japanese Skincare Revolution แล้วก็รู้สึกสนใจเครื่องสำอางญี่ปุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะการ “นวด” และ “กดจุด” อันเป็นจุดเด่นของเอเชียอยู่แล้ว พอคุณนุ่น PR ของ Kanebo มาเชิญไปงานเปิดตัว Skincare ใหม่ล่าสุด (และดีที่สุดของ Kanebo) ก็รีบตกลงไปร่วมงานทันทีเลยล่ะ

งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Impress Grandmula จัดขึ้นอย่างหรูหราที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเตล (อาหารว่างอร่อยมั่ก ๆ) ปกติแล้วปูเป้จะอ่านข้อมูลที่แจกก่อนงานจะเริ่มนะครับ แต่วันนี้เจอคุณ ชิน แห่งเวป Cosmenet เลยยืนคุยเพลิน ๆ กันจนเริ่มงานเลยทีเดียว ทำให้คราวนี้ปูเป้เข้าชมงานเปิดตัวแบบไม่รู้อะไรเลยว่าสินค้าใหม่นี้เป็นยังไง ราคาเท่าไหร่บ้าง (เห็นแต่ขวดและกระปุกหรูหราบน display นี่แหล่ะ)

งานเริ่มขึ้นโดยมี Mr.Tomio Onishi กรรมการผู้อำนวจการใหญ่ บรัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับผู้มาร่วมงานทุกท่าน (พูดภาษาไทยด้วยนะ) หลังจากนั้นคุณ ศรีจันทร์ นิลกำแหง Education & Training Manager ของ Kanebo ก็มาให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์กันอย่างละเอียด

คำว่า “Grandmula” เป็นการรวมคำกันระหว่างคำว่า ‘Grand’ + ‘Formula’ นั่นเอง (ภาษาชาวบ้านก็คงประมาณ “สูตรผสมที่เลิศหรูอลังการงานสร้างที่สุด” ล่ะนะ) ซึ่งสรรสร้างขึ้นมาโดยใช้แนวคิดของ “Exquisite Aura” หรือ ผิวที่มีความยืดหยุ่น กระจ่างใส ละเอียด เรียบเนียนสมบูรณ์แบบจนเปล่งประกายออร่าได้ราวกับเพรช ซึ่งทาง Kanebo ได้ขุดเอาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดทุกอย่างของเขามาใส่ในผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้อย่างไม่มีกั๊ก เพราะมีสาร Active เพื่อบำรุงผิวรวมกันถึง 19 ชนิด (เขาว่าแบบนั้นะ)

อีกอย่างหนึ่งที่ทาง Kanebo ภูมิใจนำเสนอคือเรื่องของ “กลิ่น” เพื่อผ่อนคลายเพราะผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ใช้กลิ่นหอมของ Bouquet de Grandmula ที่ให้กลิ่นที่ซับซ้อน โดยสัมผัสแรกจะให้ความรู้สึก “สดชื่น” ของ ดอกแมกโนเลีย เกรพฟรุต เลมอน และมิ้นต์ หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีก็จะให้ความรู้สึก “ผ่อนคลาย” ของ ดอกแซฟฟรอน กุหลาบ ไอริช มะลิ กระดังงา และกลิ่นฐานที่ให้ความรู้สึก “สงบ” ของ มัสก์ ซีดาร์วู๊ด และหญ้ามอส

 

(จากดอกตูมถึงบานเต็มที่ ใช้เวลา 25 นาทีจ้า)
เขาเล่าว่ากลิ่น Saffron นั้นเป็นกลิ่นที่ทาง Kanebo ทุ่มทุนมากที่สุด เพราะว่าดอก Saffron นั้นบานเร็วมาก (แค่ 25 นาทีก็บานเต็มที่แล้ว) และกลิ่นที่ดีที่สุดของดอก Saffron ก็คือช่วงหลังบานเต็มที่ใหม่ ๆ เท่านั้น จึงมีการมอนิเตอร์เฝ้าดอก Saffron กันทั้งวันทั้งคืนเพื่อที่เมื่อดอกบานเมื่อไหร่ ทางทีมงานก็จะเข้าไปเก็บเพื่อมาสกัดได้ทันที (ลงทุนจังเลยแฮะ)

เหตุผลที่ต้องทุ่มทุนเฝ้าดอกไม้บานกันขนาดนี้เพราะทาง Kanebo วิจัยแล้วว่าคุณค่าการผ่อนคลายที่ดีที่สุดนั้นจะต้องสกัดมาจากดอก Saffron ที่บานใหม่ ๆ ในวันแรกเท่านั้น หลังจากนั้นอัตราความสามารถในการผ่อนคลายจะน้อยลงเรื่อย ๆจนไร้ค่าเมื่อวานผ่านไปถึงวันที่ 3 นั่นเอง

 

(ทั้งชุดนี้จ่ายเงินมา 70,000 ทอน 2,000 บาทนะฮะ)
หลังจากนั้นพนักงานของ Kanebo ก็ให้ผู้ร่วมงานได้ทดสอบกับเนื้อสัมผัสและกลิ่นของผลิตภัณฑ์กัน ส่วนตัวรู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นหอมแบบไม่เหมือนใคร ใช้ได้เลยทีเดียวนะ ก็แอบบ่นอยู่เลยว่าทำไมถึงตักครีมให้ลองน้อยจัง แต่พอได้รู้ราคาก็พอเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไม (Lotion เช็ดผิวขวดละ 8,000 บาท Emulsion บำรุงผิวขวดละ 12,000 บาท ถ้านั่นยังไม่ทำให้ตกใจ ตัว Cream กระปุก 40 กรัม ราคา 48,000 บาท… ได้ยินแล้วลมแทบจับ)

หลังจากมึนกับราคาจนจบงานก็ออกมาถ่ายรูปรวมกับบรรดา Beauty Blogger ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่าง พี่ฟลุ๊ค (alwaysfluke) พี่เก๋ (oHLa) พี่โอ๋ (ชฎาแหลม) พี่มด (CinnamonGal) ส่วนหน่มหล่อคนริมขวาสุดคือคุณชิน เจ้าของเวป Cosmenet จ้า

หลังจากงานเปิดตัวประมาณสองสัปดาห์ ทาง Kanebo ก็ให้ Beauty Blogger กับ Makeup Artist รวมถึงบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำ มาสัมผัส Impress Grandmula ผ่านการปรณนิบัติจากผู้เชี่ยวชาญความงามของ Kanebo ในงาน “Impress GRANDMULA the Balancing Massage” ซึ่งจัดขึ้นที่ Oriental Spa สุดหรูหรา

การนวดหน้าครั้งนี้ถือว่าเป็นอะไรที่พิเศษมาก ๆ เพราะว่ามีการใช้ Grandmula Massage Cream ที่ไม่ได้มีวางจำหน่าย มานวดหน้าให้ด้วยล่ะ นวดเสร็จปุ๊ปหน้าเด้งและนุ่มมาก ๆ แถมเทคนิคการนวดเขาก็แพรวหราวใช้ได้เลยนะ สบายมาก ๆ ๆ ๆ (จนรู้สึกทรมานที่หลับไม่ได้ ไม่งั้นจะไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับหน้าเราบ้าง ต้องตื่นตลอดเพื่อจะได้จับรายละเอียดและขั้นตอนของเขาได้)

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหาร “ศาลาริมน้ำ” ได้นั่งคุยกับคุณไก่ (บก. ของนิตยสาร Harper’s BAZZAR) กันหลายๆ เรื่อง ก้ได้ข้อคิดและบทเรียนจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าในหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว ทำให้มีกำลังใจในการทำงานเยอะขึ้นมากเลยครับ ก่อนจะแยกย้ายกันจึงขอถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึกซะหน่อย

ทาง Kanebo ใจดี มอบชุดทดลองของ Impress Grandmula ให้ลองใช้ถึงสองชุดเลยทีเดียว (แต่ละชุดก็ประกอบไปด้วย Lotion 40 ml + Emulsion 25 ml + Cream 5 g มูลค่ารวมๆ ก็หมื่นกว่าบาทต่อชุดแน่ะ) ชุดนึงใช้ได้ประมาณ 1 เดือนครับ โดยตัว Lotion ไม่ขอใช้สำลีนะเพราะกลัวจะเปลือง (ของมันแพง) ช่วยเรื่องริ้วรอยได้ไหมคงบอกไม่ได้ (เพราะไม่มี) บอกได้แค่ว่าผิวนิ่มมาก แถมดูกระจ่างขึ้นด้วย…

ก็ไม่รู้ว่าเขาใส่อะไรมาบ้างเพราะว่าส่วนผสมบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลย… ใครที่มีความสามารถในการอ่านภาษาญี่ปุ่นก็รบกวนช่วยเหลือกันหน่อยนะครับ หรือถ้ามีโอกาสได้ไปเก็บส่วนผสมที่เป็นภาษาอังกฤษได้เมื่อไหร่ก็จะรีบเอามาอัพเดทกันอีกทีนะ

ถามว่า “คุ้มค่าที่จะลองหรือไม่” ปูเป้คงตัองบอกจากความรู้สึกส่วนตัวอย่างเดียวว่า (เพราะไม่รู้ว่าส่วนผสมเป็นอย่างไร) หากคุณสามารถจ่าเงินครึ่งแสนเพื่อครีมหนึ่งกระปุกได้โดยไม่เดือดร้อนเงินคงคลังก็สามารถทำได้ ถ้างบน้อยลงมาหน่อย จะลองตัว Emulsion ก่อนก็พอไหว แต่ถ้าเงินไม่ถึงจริง ๆ ก็ไม่แนะนำใช้จ่ายเกินตัวนะครับ ลองหาตัวเลือกอื่นที่เหมาะกับรายได้จะดีกว่า (หาเอาใน Blog นี่แหล่ะ มีให้เลือกเยอะแยะ) ส่วนตัวแล้วปูเป้ก็อยากใช้นะครับ…แต่ตอนนี้รายได้ไม่ถึงขั้น ไว้รายได้เดือนละแสนเมื่อไหร่ก็จะพิจารณาเลือกซื้อสักชุดเพื่อที่จะได้รับสิทธินวดหน้ากับ Impress Grandmula เป็นรางวัลชีวิตก็คงยังไม่สายไป (มั้ง)

สุดท้ายนี้ปูเป้ก็ต้องขอขอบคุณ Kanebo มาก ๆ ที่เปิดโอกาสให้ปูเป้ได้ทดลองใช้ครีมบำรุงผิวที่แพงที่สุดที่เคยใช้มาในชีวิตนี้ เป็นบุญผิวมาก ๆ ครับ…