วันนี้อยากจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะลูกรักในดวงในตัวใหม่ของปูเป้อย่าง Yves Rocher : Balance Scalp Serum ที่ตอบโจทย์คนที่มีปัญหากับหนังศีรษะ อย่างปูเป้เป็นคนที่หนังศีรษะเรื่องมาก คือถ้าสระผมทุกวันก็อาจทำให้หนังศีรษะแห้งเป็นรังแคขุยเล็ก ๆ ได้  แต่ถ้าไม่สระทุกวันก็เริ่มมันและคันจนเป็นตุ่มอักเสบจนเป็นสะเก็ดและเป็นรังแคแผ่นใหญ่ ๆ  ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของความมั่นใจเวลาใส่เสื้อผ้าสีเข้ม แต่มันมีผลกับคุณภาพชีวิตด้วยครับ 

ปูเป้เป็นคนที่ให้ความสำคัญและใช้กับผลิตภัณฑ์ Scalp Care  ดูแลหนังศีรษะมานานเป็นสิบปีแล้ว ก็มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่ถูกใจบางตัว แต่ก็มักหายไปเพราะว่าตลาดบ้านเราคนไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ยังคงเน้นอะไรที่เกี่ยวกับเส้นผมมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วสุขภาพหนังศีรษะดีจะส่งผลให้เส้นผมเราสวยสุขภาพดีไปด้วยครับ

ถ้าหนังศีรษะเราอ่อนแอ เกิดการคัน อักเสบ ไม่สมดุล รากผมจะอ่อนแอ เส้นผมจะไม่แข็งแรงและหลุดร่วงง่ายตามมาด้วย ยิ่งคนที่จัดแต่งทรง ทำเคมี ยิ่งต้องดูแลหนังศีรษะให้ดีเลยล่ะ  เพราะขนาดปูเป้ที่ไม่ค่อยมีปัญหากับเส้นผมและไม่เคยกังวลเรื่องผมบางมาก่อนในชีวิต แต่หลังจากทำเคมีกัดสีผมย้อมหัวเทา หัวชมพูอยู่ 1 ปีเต็ม คือรู้สึกได้เลยว่าหนังศีรษะอ่อนแอจนเริ่มเห็นผมบางลงที่กระหม่อด้านหลังจน ผู้จัดการ และช่างทำผมประจำทักแล้ว  ดังนั้นการดูแลหนังศีรษะให้ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ กับทุกคน

Product’s Formula

หัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ Yves Rocher : Balance Scalp Serum (ปริมาณ 50 มิลลิลิตร ราคา 890 บาท) นั้นคือส่วนผสมของน้ำตาลเชิงซ้อนที่เป็นพรีไบโอติก กับ สารสกัดจากพืชออร์แกนิคอีก 8 ชนิด และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของหนังศีรษะครับ

ส่วนผสมของน้ำตาลเชิงซ้อนที่เป็นพรีไบโอติก ในที่นี้คือ Fructooligosaccharides กับ Inulin ได้มาจาก Organic Agave ที่อุดมไปด้วยสาร Fructan ส่วนผสมนี้เป็นสิทธิบัตรของแบรนด์ Yves Rocher โดยได้อธิบายว่ามันช่วยเสริมการสร้างเซลล์เคราติโนไซด์และการพัฒนาตัวของหลอดเลือดฝอย จึงช่วยเสริมสุขภาพของหนังศีรษะและบำรุงรากผม  ส่วนผสมนี้ถูกใช้อยู่ในกลุ่ม Anti-Hairloss ของเขาด้วย

สารสกัดจากพืชออร์แกนิค 8 ชนิดที่อยู่ในเซรั่มขวดนี้ทางแบรนด์ก็ปลูกและสกัดเองในเมือง La Gacilly ของฝรั่งเศส ดดยใช้เทคนิคการสกัดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สารสกัดโดยรวมมีคุณสมบัติหลัก ๆ ในการต้านการอักเสบ ปลอบประโลม และมอบความสบายหนังศีรษะ โดยมีรายละเอียดดังนี้

Calendula Officinalis Flower Extract จากข้อมูลชี้ว่าเป็นสารสกัดที่มีการศึกษาค่อนข้างมาก มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมการเยียวยาของผิว

Centaurea Cyanus Flower Extract ตามข้อมูลพบว่าสารสกัดดอก Cornflower ประกอบไปด้วยสารสำคัญมากมายที่มีสรรพคุณทางยา ใช้ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และปลอบประโลม

Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower/Leaf/Stem Extract สารสกัดจาก German Chamomile มีข้อมูลว่าช่วยต้านการอักเสบ ต้านการระคายเคือง และยังช่วยลดปริมาณของซีบัมในผู้ที่มีผิวมันได้อีกด้วย

Lippia Citriodora Leaf Extract สารสกัดจาก Verbena มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และให้กลิ่นที่หอมสดชื่นเหมือนพืชตระกูลซิตรัส

Malva Sylvestris (Mallow) Flower/Leaf/Stem Extract มีสรรพคุณในการต้านการอักเสบ และเสริมการเยียวยา

Melissa Officinalis Extract สารสกัดจาก Lemon Balm / Balm Mint นอกจากให้ความรู้สึกเย็นสบายสดชื่นแล้ว ยังมีการศึกษาที่ชี้ว่าพืชชนิดนี้มีสรรพคุณอีกหลากหลาย ทั้งการต้านอนุมูลอิสระ เสริมคุณภาพผิว และต่อต้านริ้วรอย

Mentha Piperita (Peppermint) Leaf Extract การศึกษาพบว่าสารสกัดจากเปปเปอร์มินต์มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านจุลชีพอีกด้วย

Tropaeolum Majus Flower/Leaf/Stem Extract สารสกัดจาก Nasturtium มีข้อมูลระบุว่าอุดมไปด้วยสาร Anthocyanins ที่ช่วยต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระได้

ส่วนผสมของสารสำคัญอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็ได้แก่  Niacinamide หรือ Vitamin B3 ที่มีประโยชน์ครอบจักรวาล ซึ่งตัวนี้มาช่วยเสริมความแข็งแรงของหนังศีรษะก็ได้ ส่วน Panthenol หรือ Pro Vitamin B5 ก็ช่วยเสริมความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของผิวได้เป็นอย่างดี ในสูตรยังมีการใส่น้ำมันสกัดจากพืชที่อุดมไปด้วยไขมันดีอย่าง Macadamia Integrifolia Seed Oil กับ Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil มาด้วย

กลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์มาจากน้ำหอมซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจากของมินต์ ยูคาลิปตัส และองค์ประกอบที่ให้ความรู้สึกหอมเย็นเป็นหลักครับ ซึ่งน่าจะมาจากการที่ทาง EU มีการปรับกฏระเบียบในการระบุ Fragrance Component จากเดิม 26 ชนิด เป็น 82 ชนิด โดยส่วนใหญ่เป็นน้ำมันหอมระเหย และสารหอมตัวหลักในน้ำมันหอมระเหยเหล่านั้น

Ingredients : Aqua/Water/Eau, Glycerin, Mentha Piperita (Peppermint) Leaf Water, Propylene Glycol, Butylene Glycol, Pentylene Glycol, Niacinamide, Xanthan Gum, Fructooligosaccharides, Inulin, Panthenol, Macadamia Integrifolia Seed Oil, Calendula Officinalis Flower Extract, Centaurea Cyanus Flower Extract, Chamomilla Recutita (Matricaria) Flower/Leaf/Stem Extract, Lippia Citrodora Leaf Extract, Malva Sylvestris (Mallow) Flower/Leaf/Stem Extract, Melissa Officinalis Extract, Mentha Piperita (Peppermint) Leaf Extract, Tropaeolum Majus Flower/Leaf/Stem Extract, 1,2-Hexanediol, Caprylyl Glycol, Parfum/Fragrance, Lavandula Angustifolia (Lavender) Oil, Lavendula Oil Extract, C10-18 Triglycerides, Tocopheryl Acetate, Linalyl Acetate, Mentha Piperita (Peppermint) Oil, Linalool, Menthol, Citric Acid, Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Tocopherol, Eucalyptus Globulus Oil, Tetramethyl Acetyloctahydronaphthalenes, Beta-Caryophyllene, Camphor, Mentha Viridis (Spearmint) Leaf Oil, Carvone, Limonene, Pinene, Pogostemon Cablin Oil, Eugenia Caryophyllus Oil, Eugenol, Terpineol, Capsanthin/Capsorubin, Geraniol, Geranyl Acetate.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์ของ Yves Rocher : Balance Scalp Serum เป็นเหมือนเซรั่มเนื้อเจลที่เมื่อส่องดูข้างในเหมือนมีแคปซูลขนาดเล็ก อันนี้ทางแบรนด์ไม่ได้บอกว่ามีคุณสมบัติพิเศษอะไร แต่โดยส่วนตัวคิดว่าส่วนผสมของสารที่เป็นน้ำมันอาจถูกหุ้มอยู่ในเปลือกแคปซูลใสขนาดเล็กก็เป็นไปได้  เมื่อทาลงไปบนหนังศีรษะในส่วนที่เป็นน้ำและแอคทีฟที่ละลายในน้ำก็จะกระจายตัวและให้ความรู้สึกสดชื่นในทันที ในขณะที่แคปซูลที่หุ้มส่วนของน้ำมันไว้จะแตกออกเพื่อเป็นน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวในส่วนที่แห้งก็เป็นไปได้ครับ  ส่วนกลิ่นก็บอกเลยว่าตรงจริตสุด ๆ และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะชอบ มันเป็นกลิ่นหอมเย็นแนว Mint + Green + Herbal  เหมือนได้ทำสปา ถูกใจมากจริง ๆ

สำหรับวิธีการใช้นั้น Yves Rocher : Balance Scalp Serum ใช้เป็นขั้นตอนก่อนการสระผม โดยบีบผลิตภัณฑ์ทีละครึ่งดรอปเปอร์ไปตามแนวแสกของหนังศีรษะไปจนทั่ว ก่อนจะนวดด้วยปลายนิ้วเพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ให้ทั่วหนังศีรษะและเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนรวมไปถึงช่วยผ่อนคลาย  ทางแบรนด์แนะนำให้ใช้ประมาณ 5 – 6 ดรอปเปอร์ต่อครั้ง )แต่ส่วนตัวปูเป้ใช้ประมาณ 4 ดรอปเปอร์ก็รู้สึกว่ามันชุ่มทั่วหนังศีรษะแล้ว อาจเป็นเพราะผมปูเป้สั้นครับ)

คำแนะนำข้างกล่องคือให้ทิ้งเอาไว้ข้ามคืนก่อนตื่นขึ้นมาสระผม  อันนี้ได้ทราบมาว่าพฤติกรรมของผู้ใช้ในยุโรปเป็นแบบนี้ครับ คือเขาจะมาสระผมตอนเช้า   แต่ในบ้านเราอากาศร้อนชื้นเหงื่อไหลไคลย้อยมาทั้งวัน เราไม่อยากหมกหัวที่ผจญทั้งเหงื่อ ฝุ่น มลพิษมาทั้งวันไปตลอดคืน 

ปูเป้เลยปรับมาใช้ Yves Rocher : Balance Scalp Serum ลงบนหนังศีรษะทันทีที่กลับถึงบ้าน หรือหลังจากออกกำลังกายที่ยิมตอนเย็น ๆ เสร็จก็ทาลงบนหนังศีรษะเลย  ทิ้งเอาไว้หลายชั่วโมงก่อนที่จะกลับมาบ้านแล้วไปสระผม  หรือในวันหยุดที่ไม่ได้ออกไปไหน ก็ทาทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนตื่น  ตอนเย็นหรือตอนกลางคืนก่อนจะนอนก็อาบน้ำสระผมตามปกติครับ

สำหรับการใช้แบบเร่งด่วน เราสามารถทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีก่อนไปสระผมก็ได้ครับ  เพราะยังไงคุณสมบัติในการลดการคันของผลิตภัณฑ์คือเห็นผลทันทีหลังใช้เลย  แต่ถ้าอยากให้บำรุงล้ำลึกการทิ้งไว้นาน หน่อยก็จะยิ่งเห็นผลดีขึ้น  อันนี้เลือกปรับเอาได้ตามสะดวก

ในแง่ประสิทธิภาพคือสามารถช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะที่รู้สึกคันให้ทุเลาลงได้ทันทีที่ใช้  และเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องหนังศีรษะก็สุขภาพดีขึ้นจริง ไม่มันไป ไม่แห้งเกิน ปูเป้ใช้มา 2 เดือนแล้ว รู้สึกว่าช่วงที่ใช้เป็นประจำนั้นหนังศีรษะมีความสมดุลขึ้นจริง ๆ ครับ  มีช่วงช่วงที่เดินทางไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้หยิบไปใช้ด้วยนั้นรู้สึกเลยว่าหนังศีรษะเรามันไม่โอเคเท่าไหร่

 หลังจากสระผมด้วยแชมพูที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะหรือเส้นผมแล้ว  ปูเป้อยากแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะแบบไม่ต้องล้างออกตามที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ อย่างปูเป้มีปัญหาเรื่องรังแคก็จะชอบตัว Yves Rocher : Anti-Dandruff Scalp Treatment Lotion ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นบางเบา และมีส่วนผสมต้านเชื้อราที่คอยกินไขมันบนหนังศีรษะและกระตุ้นการอักเสบคันจนเป็นรังแคตามมาด้วยครับ จึงช่วยลดทั้งความคัน และลดรังแคจากทั้งความมันและความแห้งไปในทีเดียว   หรือใครที่ต้องการให้สุขภาพหนังศีรษะแข็งแรงและลดการหลุดร่วงของเส้นผม ก็ใช้เป็นสูตร Anti-Hairloss ก็ได้ครับ

ท้ายที่สุดคือเป่าผมให้แห้งสนิท อย่าปล่อยให้ผมแห้งเอง เพราะการทำให้หนังศีรษะเปียกชื้นนาน จะทำให้เชื้อราเติบโตได้ง่าย หนังหัวเราจะมีปัญหา  แต่การเป่าแป้งก็อย่าใช้ความร้อนสูงเกินไป หนังศีรษะจะแห้งระคายเคืองได้  ถ้าไดร์เป่าผมไม่มีโหมดความร้อนต่ำสำหรับเป่าแห้งหนังศีรษะ ก็ใช้เป็นลมเย็นก็ได้ครับ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Yves Rocher : Balance Scalp Serum คือมาตอบโจทย์สิ่งที่ปูเป้ต้องการในผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะในทุกมิติเลยครับ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพทั้งระยะสั้นที่ช่วยปลอบประโลมลดอาการคันได้ทันที และในระยะยาวที่รู้สึกเลยว่าหนังศีรษะสุขภาพดี มีสมดุลขึ้น ไม่มันเยิ้ม ไม่แห้งเกิน และเกิดปัญหาน้อยลง  แถมยังมอบประสบการณ์ในการใช้ที่ดีมาก กลิ่นหอมสดชื่นถูกจริต เป็นผลิตภัณฑ์ที่รู้สึกอยากใช้ต่อไปอีกเรื่อย และอยากแนะนำให้ได้ลองครับ ปูเป้ชอบสิ่งนี้มากจริง

โดยเซรั่มขวดนี้สามารถใช้คู่กับแชมพู หรือทรีตเมนต์ที่ไม่ต้องล้างออกที่เรามีอยู่ได้ ซึ่งถ้าสนใจแชมพูที่ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยนกับหนังศีรษะ แชมพูของ Yves Rocher คือตอบโจทย์ครับ ส่วนตัวปูเป้มีใช้แชมพูไลน์ Anti-Dandruff สลับกับ Detox บ้าง กลิ่นเขาหอมสดชื่นจริง ส่วนทรีตเมนต์แบบไม่ต้องล้างออกจะใช้ของไลน์ Anti-Dandruff สลับกับไลน์ Anti-Hairloss ครับ

สำหรับผู้ที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ Yves Rocher : Balance Scalp Serum มีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศในเดือนเมษายนนี้ โดยในช่วงเปิดตัวจะมีแคมเปญลงทะเบียนทาง https://bit.ly/41UU0NS เพื่อรับคูปองส่วนลด 250 บาทเมื่อซื้อ Balance Scalp Serum จากราคาปกติ 890 เหลือ 640 บาท ที่ร้านอีฟ โรเชทุกสาขาโดยคูปองสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 นี้

แต่ถ้าใครสะดวกทางออนไลน์ก็มีช่องทางการจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์เองทั้งใน Lazada กับ Shopee และทาง Tiktok ซึ่งสามารถใช้ส่วนลดหรือโปรโมชั่นของแพลตฟอร์มได้ครับ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้ไหม? เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Yves Rocher : Balance Scalp Serum
Price :  50ml / 890 BAHT
Skin Type : All Hair Type
Outstanding : Shooting, Anti-Itch, Balancing, Sensory

Yves Rocher : Balance Scalp Serum
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ช่วยปลอบประโลมลดอาการคันลงได้ในทันที และช่วยให้หนังศีรษะสมดุลขึ้นจริงหลังใช้อย่างต่อเนื่อง
  • สัมผัสในการใช้ดีมาก กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนทำสปา
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
4.3Overall Score

Related Posts