พ่อแม่พี่น้องโปรดทราบ d program โลชั่นและอิมัลชั่นสูตรใหม่ที่พวกเรารอคอยมาถึงแล้วจ้า!!! เพราะหลังจากที่เห็นข่าวทางญี่ปุ่นเปิดตัวสูตรใหม่ไปเมื่อกลางปี 2020 ที่ผ่านมา พี่รู้มั้ย…ชั้นออกไปรอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ 🤣🤣🤣
คือที่เราตื่นเต้นเพราะว่าสกินแคร์พื้นฐานสองขั้นตอนของ d program สูตรใหม่ล่าสุดนี้ได้มีการพูดถึงเรื่องของ Microbiome หรือการศึกษาเกี่ยวกับจีโนมหรือข้อมูลรหัสพันธุกรรมทั้งหมดของ Microbiota (ประชากรจุลิทรีย์หรือจุลชีพที่ตั้งรกรากในร่างกายมนุษย์) และความสัมพันธ์ของมันที่มีต่อจีโนมของมนุษย์เอง ซึ่งในวงการความงาม (Beauty) ได้มีการพูดถึงเรื่อง Microbiome กันมาเป็นสิบปีแล้ว และทางเครือชิเซโด้มีการศึกษาเรื่องสมดุลของแบคทีเรียในการดูแลผิวมาเกือบยี่สิบปีแล้ว เพราะสิทธิบัตรและงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ตีพิมพ์ออกมาย้อนไปได้ถึงช่วงปี 2005 เลยทีเดียว
กระแสของ Probiotic Skincare และ Prebiotic Skincare พึ่งถูกสื่อสารและได้รับความสนใจอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งปูเป้จะบอกตามตรงให้เข้าใจตรงกันว่าในโลกนี้ ปัจจุบันไม่มี Probiotics Skincare ที่แท้จริง เพราะจากข้อจำกัดของนิยามและหลักการผลิตเครื่องสำอางที่ไม่อาจมีสิ่งมีชีวิตในผลิตภัณฑ์ได้ จะมีแต่ Prebiotics Skincare ซึ่งโดยหลักการแล้วเป็นส่วนผสมที่ช่วยเอื้อหรือส่งเสริมจุลชีพที่ดีกับผิวนั่นเอง รายละเอียดแบบเยอะ ๆ จัดเต็ม สามารถแวะไปอ่านข้อมูลได้ในหัวข้อ ‘Microbiome’ The Future of Skincare ที่ปูเป้เคยทำเอาไว้ได้เลยจ้า
มีข้อมูลจากเครือชิเซโด้ (เจ้าของแบรนด์ d program) ที่ออกมาในปี 2020 ที่ผ่านมา บอกว่าการศึกษาของเขาพบว่าในผิวที่แข็งแรงและผิวที่อ่อนแอนั้นมีความหลากหลายของสายพันธุ์ของแบคทีเรียประจำถิ่นของผิวที่ต่างกันไป โดยระบุว่า ในผิวที่บอบบาง อ่อนแอ ระคายเคืองง่าย หรือมีการอักเสบนั้น จะมีปริมาณของแบคทีเรีย Staphylococcus aureus (S. aureus) ในสัดส่วนที่สูงกว่า Staphylococcus epidermidis (S. epidermidis) นอกจากนี้ยังพบว่าผิวที่มีสัดส่วนของ S. epidermidis ที่สูงจะมีความชุ่มชื้นที่มากกว่ากลุ่มที่มีแบคทีเรียตัวในสัดส่วนที่น้อยกว่าด้วย
ข้อมูลจากชิเซโด้นั้นสอดคล้องไปกับการศึกษาอื่น ที่มีมาก่อนหน้าซึ่งระบุตรงกันว่า S. epidermidis นั้นช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้นด้วยการไฮโดรไซซิสสารกลุ่มไขมันมันให้กลายเป็น Glycerol (Glycerin) ซึ่งให้ความชุ่มชื้นกับผิว โดยที่ไม่ได้สร้างผลกระทบกับผิวในแง่ของการกระตุ้นการอักเสบเหมือนกับ S. aureus นอกจากนี้ S. epidermidis ยังจะช่วยลดการขยายตัวที่มากไปของ Cutibacterium acnes (C. acnes) ซึ่งเป็นแบคทีเรียตัวสำคัญของการอักเสบของสิว (ชื่อเดิมคือ Propionibacterium acnes หรือ P. acnes) ดังนั้นสมดุลของแบคทีเรียบนผิว ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้นมากขึ้น และมีปัญหาผิวจากการอักเสบน้อยลง เขาจึงเรียก Staphylococcus epidermidis (S. epidermidis) ว่า Beauty Microbiome นั่นเอง และส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ d program ใหม่นี้จะพุ่งไปที่เจ้าตัวนี้แหล่ะ
อย่างไรก็ดี การศึกษาโดย USCD ชี้ว่าในกลุ่มของผู้ที่มีความผิดปกติของผิวหนังจากพันธุกรรมอย่าง Netherton Syndrome นั้นแม้แต่แบคทีเรีย S. epidermidis ที่ถูกมองว่ามีประโยชน์กับผิว ก็มีส่วนในการก่อปัญหาผิวกับได้เหมือนกันเมื่อมีอยู่ในปริมาณที่มากจนเกินไป แสดงให้เห็นว่าสมดุลและการอยู่ร่วมกันของแบคทีเรียนี้มีความซับซ้อนและอาจมีบทบาทที่ต่างกันไปในแต่ละบริบทเงื่อนไข เรายังต้องศึกษากันอีกมากเพื่อทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนของระบบนิเวศน์ขนาดจิ๋วอันซับซ้อนนี้
ข้อมูลจากทางเครือชิเซโด้พบว่า สารกลุ่ม Prebiotics ซึ่งรวมไปถึงสารสกัดจากยีสต์ Saccharomyces นั้นช่วยเพิ่มสัดส่วนของ S. epidermidis ที่ดีกับผิว โดยที่ไม่เพิ่ม S. aureus ที่ก่อการอักเสบให้กับผิว จึงช่วยให้ผิวมีสมดุลของ Microbiota ที่ดี ซึ่งเป็นที่มาของส่วนผสมใหม่อย่าง Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate ซึ่งถูกนำมารวมกับ Glycerin และใช้ชื่อว่า Yeast Extract Complex โดยสารสกัดยีสต์ตัวนี้เคยถูกใช้ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆในเครือชิเซโด้เพื่อช่วยเสริมความยืดหยุ่นของผิว ซึ่งมีข้อมูลชี้ว่าผ่านกลไก integrin-α5 ที่ช่วยให้โครงข่ายเส้นเลือดฝอยใต้ผิวมีความแน่น และเสริมการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย
ส่วนผสมที่เสริมความแข็งแรงผิวของรุ่นเก่าในชื่อ H-Stabilizing A ก็ถูกพัฒนามาเป็น DP Complex ที่ยังคงมี Erythritol กับ Glycerin ที่ช่วยเสริม Skin Barrier ผ่านกลไกเสริมการพัฒนาตัวของ CE หรือ Cornified Envelopes แต่มีการอัพเกรดเพิ่ม Xylitol ซึ่งเป็นสารกลุ่มน้ำตาลที่ให้ความชุ่มชื้นและเป็นสารกลุ่ม prebiotics อีกด้วย การศึกษาของชิเซโด้ที่ตีพิมพ์ในปี 2005 ชี้ว่าส่วนผสมของ Xylitol ยังช่วยยับยั้งการสร้างสาร glycocalyx ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของไบโอฟิลม์ที่ S. aureus ผลิตออกมาเพื่อยึดเกาะและอาศัยบนพื้นผิวหนัง เพื่อปรับสมดุลของ Microbiota และยังมี Trehalose ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิวได้เป็นอย่างดี
ส่วนผสมอื่นที่ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมก็คือ Tranexamic Acid ที่ช่วยลดความหยาบกร้านของผิวและมีคุณสมบัติในการลดความหมองคล้ำผ่านกลไกต้านการอักเสบ และกดการทำงานของ Endothelin-1 (ET-1) ที่ไปกระตุ้น กระบวนการผลิตเม็ดสีเมลานิน และมี Dipotassium Glycyrrhizate ช่วยต้านการระคายเคือง สูตรทั้งหมดไม่มีแอลกออฮอล์ชนิดระเหยไว ปราศจากส่วนผสมของสี น้ำหอม อ่อนโยนต่อผิวอย่างมากเช่นเคย
นี่คือส่วนผสมหลักที่จะมีอยู่ในโลชั่นน้ำ และอิมัลชั่น สูตรใหม่ทั้งหมด โดยในแต่ละสูตรและละสีจะมีส่วนผสมปลีกย่อยที่เพิ่มขึ้นมาตอบสนองกับสภาพผิวนั้น ๆ ไป
สำหรับผลิตภัณฑ์ d program : Acne Care Lotion MB (125ml / 1,090 BAHT) ซึ่งเน้นในเรื่องของผิวเป็นสิวง่าย ในสูตรใหม่นี้ได้มีการเปลี่ยนส่วนผสมที่ดูแลเรื่องสิว มาเป็น Bergenia Ciliata Root Extract ซึ่งมีข้อมูลว่าทางเครือชิเซโด้เคยยื่นขอจดสิทธิบัตรว่าสารสกัดจากพืชชนิดนี้ทำหน้าที่เป็น Lipase Inhibitor ซึ่งไปขัดขวางการไฮโดรไลซิสไขมันของเชื้อ C. acnes ซึ่งลดการกระตุ้นการอักเสบและลดปริมาณของเชื้อแบคทีเรียสิวตัวนี้ แนวคิดเรื่องสารสกัดที่มีคุณสมบัติเป็น Lipase Inhibitor ในการลดสิวนี้ก็ถูกศึกษาในพืชอีกหลายชนิด ยังมีข้อมูลที่ชี้ว่าสารสกัดจาก Bergenia Ciliata มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบได้ด้วย
ในสูตรยังคงมี Lamium Album Flower/Leaf/Stem Extract เหมือนสูตรเก่า ซึ่งทางเครือเคยยื่นจดสิทธิบัตรในการเป็นสารไวท์เทนนิ่งเอาไว้ โดยส่วนผสมตัวนี้มีเฉพาะในสูตร Acne สีส้มและ Whitning Clear สีขาวเท่านั้นเท่านั้น เพื่อเน้นเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว
Ingredients : Water, Dipropylene Gycol, Butylene Glycol, Glycerin, Erythritol, Tranexamic Acid, Trehalose, Xylitol, Phenoxyethanol, PPG-13 Decyltetradeceth-24, Sodium Citrate, Dipotassium Glycyrrhizate, Sodium Metaphosphate, Citric Acid, Sodium Metabisulfite, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Bergenia Ciliata Root Extract, Lamium Album Flower/Leaf/Stem Extract, Tocopherol.
ในแง่ของการใช้งาน เนื้อสัมผัสยังคงมีความบางเบาเหมือนเดิม ไม่เหนอะหนะหรือทำให้ผิวรู้สึกหนึบเหนียว และมีค่า pH เป็นกรดอ่อนที่ดีกับผิว คือปูเป้ชอบสูตรเดิมมากอยู่แล้ว และก็รู้สึกว่าสูตรใหม่ใช้แล้วเราก็แฮปปี้ ผิวดี เนื้อบางเบา ผิวแข็งแรงและไม่ค่อยเป็นสิวเหมือนเดิม
วิธีการใช้นั้นทางแบรนด์แนะนำให้ใช้ปริมาณ 2 ปั้ม ใช้มือประคบให้ทั่วไปหน้าอย่างแผ่วเบา นี่เป้นวิธีการใช้งานสำหรับคนที่ผิวระคายเคืองหรือกำลังมีปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนผิว
แต่ส่วนตัวปูเป้ที่ผิวไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็สามารถจะใช้โลชั่นตัวนี้ ปั้มลงบนสำลี 3 ปั้ม และลูบบนผิวเหมือนการใช้ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ เพื่อช่วยกวาดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ หรือสิ่งที่อาจหลงเหลือติดค้างบนผิวหลังทำความสะอาด ให้ผิวสะอาดหมดจดโดยมีความชุ่มชื้น พร้อมขั้นตอนบำรุงต่อไปอย่างเต็มที่
หรือจะใช้ชุบสำลี หรือแผ่นมาส์ก ในจุดที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ เช่นจุดที่สิวมักขึ้นง่ายในบริเวณคาง แนวกราม ซึ่งเป็นจุดมักเกิดสิวได้ง่ายในวัยผู้ใหญ่ที่ผิวสะสมความเครียดและแห้งกร้านได้ง่าย
โดยสรุปแล้ว d program : Acne Care Lotion MB นั้นมีการอัพเกรดเพิ่มส่วนผสมจากเดิมที่ดีอยู่แล้ว ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการมี prebiotics ingredients ที่ช่วยเสริมสมดุลปริมาณแบคทีเรียที่ดีบนผิว เพิ่มส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นมาหลากหลายขึ้นโดยที่เนื้อยังคงบางเบาดุจน้ำ ใครที่รักสูตรเก่าต้องรักสูตรใหม่อย่างแน่นอน และที่ดีมากไปกว่านั้นคือสูตรใหม่นี้มาในราคา 1,090 บาท ซึ่งถูกลงกว่าสูตรเดิม 100 บาทอีกด้วยนะ!!!
คือไม่มีอะไรจะติอ่ะ เนื้อดีเหมือนเดิม ส่วนผสมของสารแอคทีฟก็อัพเกรดเพิ่มให้เลิศขึ้น ในราคาที่ถูกลง แถมแพคเกจใหม่ก็น่ารักมาก ฝาสีขาวขุ่นทำให้ขวดดูมีความเป็นสีพาสเทลมุ้งมิ้งกว่าเดิม เอามาตั้งเรียงกันทุกสีแล้วดีต่อใจมาก
สำหรับใครที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ d program ก็ยังคงวางขายแบบ Exclusive เฉพาะใน Watsons และ Watsons Online เท่านั้นเหมือนเดิมจ้า
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
d program : Acne Care Lotion MB
Price : 125ml / 1,090 Baht
Skin Type : All Skin Type / Acne-Prone Skin / Sensitive Skin
Outstanding : Light-weight Hydration, Whitening, Calming, Barrier Repair
- สูตรที่อ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวที่บอบบางระคายเคืองง่าย
- ส่วนผสมเสริมความแข็งแรงของผิวและความสมดุล ในเนื้อผลิตภัณฑ์ที่เบาสบายผิว
- จะใช้เป็นโลชั่นน้ำตบก็ได้ หรือชุบสำลีเช็ดแทนโทนเนอร์ปราศจากแอลกอฮอล์ก็ได้