หลังจากที่เคยได้ล่าความเป็นมาของแบรนด์ KANEBO กันแล้วว่ามีที่มาและมีคอนเซปต์แนวคิดอย่างไร วันนี้ปูเป้จะพูดถึงครีมตัวใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายมาไม่นานและเป็นกลุ่มที่เหมาะกับวัย 35 ใกล้จะขึ้น 36 ของเราแล้ว นั่นก็คือ KANEBO : Skin-Tightening Cream 

KANEBO เป็นแบรนด์ที่มีความ Minimal อยู่กลาย ๆ รูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ ใช้เส้นสายที่เรียบง่ายแต่ดูแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีการแบ่งชนิดและกลุ่มของผลิตภัณฑ์โดยรูปทรง ผิวสัมผัส และโทนสี ที่ทำให้เราสามารถเรียงลำดับหรือเลือกหยิบผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใช้ได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องอ่านชื่อเลยถ้าเราใช้อย่างคุ้นเคยแล้ว ถือว่าเป็นการออกแบบในรายละเอียดเล็กน้อยอย่างใส่ใจ การสื่อสารและภาพที่ออกมาจะดูสะอาด สบายตา เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เยอะ ยุ่งยาก ซึ่งดูสวยทีเดียวล่ะ

Product’s Formula

KANEBO : Skin-Tightening Cream (40g / 6,500 Baht) เป็นครีมบำรุงผิวในยามค่ำคืนสำหรับเคลือบปิดผิวช่วยมอบความชุ่มชื่นและลดเลือนริ้วรอยและคืนความยืดหยุ่นกระชับด้วยส่วนผสมของพืชธรรมชาติ และ Night Botanical Complex อันประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่าง ได้แก่ Sweet Tea Extract กับ Licorice Derivative และ Bitter Orange Peel Extract 

Sweet Tea Extract หรือ Rubus Suavissimus (Raspberry) Leaf Extract เป็นพืชที่พบเยอะในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนโดยใบถูกนำมาใช้ทำเป็นชาสมุนไพรเพราะมีความหวานตามธรรมชาติ พืชนี้มีสารประกอบของฟลาโวนอยด์อยู่มาก มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และเริ่มถูกนำไปศึกษาถึงสรรพคุณทางยามากขึ้น การศึกษาเกี่ยวกับการนำมาใช้เจาะในเครื่องสำอางที่มีการตีพิมพ์นั้นยังมีอยู่น้อย แต่สารประกอบสำคัญในพืชชนิดนี้อย่างเช่นพวก Ellegic Acid หรือ Gallic Acid ก็มีประโยชน์และถูกใช้ในสกินแคร์มานานแล้ว

ทางด้าน Licorice Derivative ก็คือ Ammonium Glycyrrhizate เป็นรูปเกลือแอมโมเนียมของ Glycyrrhetinic Acid ที่สกัดได้มากจากรากชะเอมเทศมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและลดการระคายเคือง

อันสุดท้าย Citrus Aurantium Amara (Bitter Orange) Peel Extract ยากจะคาดเดาได้เพราะชื่อ INCI Name อันนี้เป็นได้ทั้งน้ำหอมและสารบำรุง ในเปลือกของ Bitter Orange มีฟลาโวนอยด์เยอะมาก ตัวที่รู้จักกันมากก็จำพวก Hesperidin ที่มักถูกนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนใต้ผิว ผู้ผลิตส่วนผสมเคลมว่าช่วยเป็นไวท์เทนนิ่งหรือต่อต้านริ้วรอยได้ด้วย แต่เนื่องจากเรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เราคิดว่าอย่างน้อยก็เป็นแอนติออกซิแดนท์ได้

(Source : Quantitative and fingerprint analyses of Chinese sweet tea plant (Rubus Suavissimus S. Lee)[Anti-inflammatory activity of glycyrrhizic acid derivatives].Anti-inflammatory activity of novel ammonium glycyrrhizinate/niosomes delivery system: human and murine models.Characterization of Bioactive Compounds in Tunisian Bitter Orange (Citrus aurantium L.) Peel and Juice and Determination of Their Antioxidant Activities)

ส่วนผสมที่ถูกพูดไว้อีกสองอย่างได้แก่ Methylserine หรือ N-Methyl-L-Serine ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เครือคาเนโบ ใช้มาอย่างยาวนาน ด้วยโครงสร้างของกรดอะมิโนเองก็ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นของผิวชั้นนอกอยู่แล้ว การศึกษาของคาเนโบ ที่ตีพิมพ์เอาไว้ยังบ่งชี้ว่ามันช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิดได้ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวเพื่อให้ริ้วรอยดูลดลง

Moon Peach Leaf Extract หรือ Alpinia Speciosa Leaf Extract พืชในตระกูลนี้มีข้อมูลว่าถูกนำไปศึกษาเพื่อการบำบัดรักษาโรคกันพอสมควร สารสกัดจากใบก็มีสารกลุ่มโพลีฟีนอลและฟลาโวนอยด์หลากหลาย ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินซี เป็นไวท์เทนนิ่งแบบอ่อน ๆ ได้แต่ไม่เด่นนัก แต่มีคุณสมบัติในการต้านผลกระทบจากรังสี UV ได้อย่างน่าสนใจ ส่วนผสมตัวนี้มีการใช้ในผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นในเครือคาเนโบเช่นเดียวกันและเคลมถึงคุณสมบัติในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

(Source : N-Methyl-L-Serine Stimulates Hyaluronan Production in Human Skin FibroblastsAlpinia: the gold mine of future therapeuticsAssessment of different biological capacities of Alpinia speciosa (Pers.) B.L. Burtt and R.M. Sm)

 

สิ่งที่แบรนด์ไม่ได้พูดถึงแต่เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือตัวเนื้อครีมนี่แหล่ะ จากข้อมูลของผู้ผลิตส่วนผสมเราค่อนข้างมั่นใจว่าเนื้อครีมนี้มีโครงสร้างแบบ Liquid Crystal ที่คล้ายกับที่แทรกอยู่ในชั้นปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติ ตรงนี้ได้มาจากส่วนผสมของ Phytosteryl Macadamiate ที่ทำหน้าที่คล้าย Cholesterol และก่อการฟอร์มตัวของอีมัลชั่นเป็น Liquid Crystal รวมไปถึงสาร emulsifier ที่เขาใช้ก็สนับสนุนการเกิดอีมัลชั่นที่มีโครงสร้างแบบ Liquid Crystal ด้วย เมื่อรวมเข้ากับ Phytosteryl/Isostearyl/Cetyl/Stearyl/Behenyl Dimer Dilinoleate ที่เป็น Ester ของ Linolenic Acid และกรดไขมันต่าง ๆ ในสูตร เนื้อครีมตัวนี้จึงน่าจะทำมาเพื่อช่วยในเรื่องการเสริม skin barrier ให้แข็งแรงขึ้นเก็บกักความชุ่มชื้นได้มากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับการใช้เป็นครีมบำรุงตอนกลางคืนที่ผิวจะมีการระเหยออกของความชุ่มชื้นมากที่สุด  

(Source : Formulation effects of topical emulsions on transdermal and dermal delivery.)

Ingredients : Water (Aqua), Hydrogebated Polydecene, Triethylhexanoin, Butylene Glycol, Behenyl Alcohol, Manitol, Dimethicone, Glycerin, Phytosteryl/Isostearyl/Cetyl/Stearyl/Behenyl Dimer Dilinoleate, Sorbeth-6 Beeswax, Glyceryl Stearate SE, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Petrolatum, Polysorbate 65, Stearic Acid, Beeswax (Cera Alba), Cetyl Palmitate, Dipentaerythrityl Tri-Polyhydroxystearate, Phytosteryl Macadamiate, Sodium Stearoyl Glutamate, Glyceryl Stearate, Methylserine, Polysorbate 80, Ammonium Glycyrrhizate, Xanthan Gum, Fragrance (Parfume), Disodium EDTA, Tocopherol, Rubus Suavissimus (Raspberry) Leaf Extract, Citrus Aurantium Amara (Bitter Orange) Peel Extract, Alpinia Speciosa Leaf Extract, BHT, Phenoxyethanol, Chlophenesin, Benzyl Salicylate, Limonene, Linalool, CI 47005, Red 4 (CI 14700).

Usage & Result

เนื้อครีมสีชมพูจาง ๆ เนื้อดูเข้มข้นอยู่ตัวคว่ำกระปุกเขย่ายังไม่กระดิกแต่เมื่อปาดลงบนผิวมันหลอมละลายไปกับอุณหภูมิของผิวเรา ไร้ซึ่งความเหนียวหนืด ให้สัมผัสของความชุ่มชื่นในแว่บแรก และกลายเป็นเหมือนบาล์มที่คลุมผิวเพื่อเก็บกักความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดีทีเดียว

กลิ่นหอมเป็นสิ่งที่แบรนด์ KANEBO ทำได้ถูกจริตเรามากจริง ๆ เป็นกลิ่นที่ใช้กลิ่นดอกชาเป็นฐานและปรุงเข้ากันกับกลิ่นอื่น ๆ จนได้กลิ่นที่ดูสะอาด แซมความสดชื่น อ่อนหวาน หรูหรา และสุภาพไปพร้อมกัน แต่ยังคงความรู้สึกว่ามันมีความอ่อนเยาว์ คือกลิ่นดีมากจริง ๆ เราอยากให้ทุกคนไปลองดมดูแล้วจะเข้าใจที่เราบอก

ปริมาณในการใช้แต่ละครั้งไม่ต้องเยอะมาก เพราะเนื้อเข้มข้นอยู่แล้ว ถ้าทาลงบนผิวที่ไม่ทาอะไรเลยเนื้อที่เข้มข้นของมันจะคลุมเคลือบผิวและเซ็ทตัวแบบดูไม่มันวาวเลยแต่รู้สึกได้ว่าเหมือนมีผิวชั้นที่สองเคลือบเอาไว้ แต่การใช้ของเราในแต่ละคืนจะมีการลง The First Serum ตามด้วยโลชั่นน้ำ และ เซรั่มบำรุงผิวที่เน้นเรื่องลดรอยแดงและเป็นไวท์เทนนิ่งอีกสองตัว ฟีลที่ได้ก็จะต่างไปกับการทาตัวเดียวเดี่ยว ๆ ตรงที่มันจะดูเงา ๆ และทิ้งความมันเอาไว้บนผิวมากกว่าซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องปกติ

ส่วนตัวเราจะใช้การวอร์มด้วยการกระจายบนปลายนิ้วและฝ่ามือก่อนที่จะประคบแนบผิวหลังจากลงเซรั่มเพื่อช่วยเก็บล็อคซีลความชุ่มชื้นและการบำรุงผิวเอาไว้ ตื่นเช้ามาผิวก็จะแอบดูมัน ๆ นิดหน่อยซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรสำหรับเราแต่รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นดี หลังจากล้างหน้าและซับให้แห้งจะรู้สึกว่าผิวเหมือนใส่ฟิลเตอร์ฟุ้ง ๆ เราชอบที่มันทำให้ผิวเราดูละมุนละไมให้สัมผัสที่นุ่มมือ

สำหรับผลในเรื่องของผิวที่กระชับและริ้วรอยลดลงนั้น ตอนนี้ผิวเรามีริ้วรอยน้อยลงและรู้สึกแน่นขึ้นและแฮปปี้กับผิวในตอนนี้มาก แต่ปูเป้ขอให้ข้อมูลตรงนี้เอาไว้เพื่อความโปร่งใส ความจริงใจและเพื่อคงมาตรฐานในการทำรีวิวนะครับ คือต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าปูเป้ได้ใช้ครีมตัวนี้ในช่วงก่อนและหลังจากช่วงพักฟื้นของการทำ eMatrix ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องรักษาหลุมสิวแล้ว ผลพลอยได้ของการทำทรีตเมนต์นี้คือการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งช่วยทำให้ริ้วรอยลดเลือนลงอยู่แล้ว ประกอบกับส่วนผสมในครีมตัวนี้ก็มีตัวที่เน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรใช้คู่กันไปหลังทำทรีตเมนต์เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวอยู่แล้ว คงจะดูไม่แฟร์นักหากจะบอกว่าผลที่ได้มาจากแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่โดยรวมคือเราใช้ครีมตัวนี้หลังพักฟื้นจากการทำทรีตเมนต์ที่ผิวจะค่อนข้างมีปัญหาได้ง่ายกว่าช่วงเวลาปกติได้อย่างไม่มีปัญหา

Conclusion

โดยสรุปแล้ว KANEBO : Skin-Tightening Cream เป็นครีมบำรุงผิวยามค่ำคืนเนื้อเข้มข้นที่ให้ประสบการณ์ในการใช้ที่รื่นรมย์ เนื้อครีมเข้มข้นเนียนละเอียดนุ่มละมุนหลอมละลายคลุมปกป้องเสริมความแข็งแรงให้ผิวชั้นนอก ส่วนผสมของสารบำรุงเน้นไปที่การปกป้องและเสริมการสร้างคอลลาเจนและไฮยาลูโรนิคแอซิดเพื่อความอิ่มเอิบของผิว กลิ่นหอมที่อ่อนหวาน สุภาพ หรูหรา แต่คงภาพลักษณ์ของความอ่อนเยาว์ ไม่เหมือนใครเป็นสิ่งที่มอบความสุขทุกครั้งยามได้ใช้  นี่เป็นครีมบำรุงผิวตอนกลางคืนที่ค่อนข้างตอบโจทย์กับผิววัย 30+ ที่จำเป็นต้องมีการชดเชยลิพิดและที่หดหายไปตามวัย เหมาะกับผิวธรรมดา ผิวแห้ง ส่วนผิวผสมก็สามารถใช้ได้โดยให้เน้นตรงส่วน U Zone ที่มักแห้งกร้านเป็นหลักมากกว่า

จากที่เราสังเกตดูเราพบการทำสูตรผสมของ KANEBO จะย้อนกลับไปที่ความเรียบง่าย โดยเน้นเนื้อสัมผัสที่งดงาม กับการใช้ส่วนผสมของสาร Actives เฉพาะเท่าที่ต้องการหวังผล ซึ่งจะต่างกับแบรนด์ในเครือเดียวกันในระดับเคาน์เตอร์ที่เราเคยใช้ที่จะอัดส่วนผสมมาหลายมากกว่า เรามองว่าทั้งสองคอนเซปต์ในการสร้างสูตรนั้นมีข้อดีของตัวเอง แบบที่เรียบง่ายจะลดโอกาสที่จะแพ้ได้มากกว่าและถ้าได้ผลก็จะรู้ได้ง่ายว่ามีผลจากส่วนผสมตัวไหน แต่โดยส่วนตัวก็ยังอยากเห็นเขาใส่เทคโนโลยีและส่วนผสมที่มากกว่านี้เพราะเอาจริง ๆ เขามีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เยอะมาก ประกอบกับราคาค่าตัวของผลิตภัณฑ์ก็อยู่ในระดับที่น่าจะสามารถทำได้

นอกจากนี้ KANEBO เป็นแบรนด์ที่ให้ข้อมูลในเวปไซต์ค่อนข้างน้อยว่าส่วนผสมหลักที่ใช้เป็นจุดขายนั้นช่วยมอบคุณสมบัติในการบำรุงผิวด้านใดบ้าง อันนี้ไม่ค่อยมีผลอะไรกับผผู้บริโภคในระดับทั่วไป แต่สำหรับคนที่ชอบอ่านส่วนประกอบหรืออยากจะสืบค้นต่อก็หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ยากนิดนึง ส่วนคอมเมนต์สุดท้ายก็คิดว่าเขาน่าจะมีเป็นสูตร Light Cream / Gel Cream ที่เบาขึ้นเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้คุณสมบัติแบบนี้แต่อยู่ในเนื้อที่บางเบากว่านี้บ้างล่ะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

  • KANEBO : Skin-Tightening Cream
KANEBO : Skin-Tightening Cream
*คะแนนดาวเรทติ้งจะแสดงผลไม่ถูกต้องหากเปิดอ่านบทความนี้จาก Smart Phones / Tablets*
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เนื้อครีมเนียนนุ่มคลุมผิวปกป้องยาวนานทั้งคืน และยังช่วยเสริมแข็งแรงของผิวด้วย
  • กลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสให้ประสบการณ์ในการใช้ที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับผิวธรรมดา แห้ง และผิวผสม(ในส่วนที่แห้งกร้านได้ง่าย)
  • จากการทดลองใช้ รู้สึกว่าผิวมีความละมุนและยืดหยุ่นขึ้น
CONS
  • ส่วนผสมของสารสกัดจากพืชบางอย่างหาข้อมูลได้ยาก
  • เราคาดหวังสารบำรุงที่หลากหลายกว่านี้เมื่อเทียบกับค่าตัวที่ต้องจ่าย
3.4Overall Score

Related Posts