สกินแคร์ของ SUQQU มีแนวคิดการเรียงผลิตภัณฑ์ที่อาจจะต่างจากสกินแคร์ญี่ปุ่นทั่วไปสักหน่อยด้วยคอนเซปต์ Serum-First หรือการลงผลิตภัณฑ์ประเภทเซรั่มเป็นอันดับแรก ก่อนตามด้วยโลชั่น และจบท้ายด้วยครีมหรืออิมัลชั่น แต่โดยรวมคือยังเน้นการมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เรียบง่าย เพียง 3 ขั้นตอน ซึ่งสอดคล้องไปกับแนวคิดและภาพลักษณ์ะที่สะท้อนออกมาผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบมินิมอล ที่ดูไม่หวือหวาแต่หรูหราด้วยการเก็บรายละเอียดและวัสดุที่ใช้
โดย VIALUME เป็นสกินแคร์ขั้นสูงที่สุดของแบรนด์ที่เน้นกลุ่มคนที่ต้องการดูแลปัญหาเรื่องผิวที่ดูขาดความกระชับ ไม่อิ่มฟู และผิวพรรณที่ดูไม่กระจ่างใส และมีแนวโน้มสูญเสียความชุ่มชื้นจนมีความหยาบกร้านได้ง่ายจากวัยที่เพิ่ม
ในทุกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้จะมีสารประกอบเชิงซ้อนที่ตั้งชื่อเก๋ ๆ ว่า VIALUME Complex อันประกอบไปด้วยส่วนผสม 6 ชนิด โดยสารประกอบเชิงซ้อนนี้มุ่งเน้นไปที่คุณภาพผิว 5 ประการอย่าง ความชุ่มชื้น (Moisture) / ความกระชับ (Firmness) / ความเรียบเนียน (Smoothness) / ความกระจ่าง (Brightness) / ความใสของเนื้อผิว (Translucency) ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ของผิวที่เปล่งปลั่งจากการที่แสงที่ตกกระทบผิวสามารถแทรกผ่านและกระเจิงและสะท้อนออกมาให้ผิวดูเปล่งประกาย ประกอบไปด้วย
– Methylserine หรือ N-Methyl-L-Serine นั้นมีการตีพิมพ์การศึกษาว่าช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิด และยังมีสิทธิบัตรที่ระบุว่าช่วยสร้างคอลลาเจนได้
– Acetyl Glucosamine ซึ่งสิทธิบัตรของทางเครือคาเนโบระบุว่าช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิด อีกเช่นกัน ไฮยาลูโรนิคแอซิด เป็นโมเลกุลที่ช่วยอุ้มน้ำ ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และเป็นเสมือน Cushion เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ทำให้ผิวมีความเด้งนุ่ม และด้วยโครงสร้างเจลของมันก็ช่วยเรื่องการแทรกผ่านและการกระเจิงแสงให้ผิวดูมีความเปล่งปลั่งอีกด้วย
– Eugenia Caryophyllus Flower Extract อ้างอิงจากสิทธิบัตรของเครือคาเนโบ ส่วนผสมนี้มีสองฟังก์ชั่น อย่างแรกคือ ต้านการสลายตัวของไฮยาลูโรนิคแอซิด ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของส่วนผสมด้านบน และอีกสิทธิบัตรระบุว่าใช้เป็น CML Inhibitor ซึ่งทำให้เกิดความเหลืองคล้ำของโปรตีนผิวชั้นนอก การลดการเกิดความเหลืองของโปรตีนนี้จะช่วยให้โทนผิวดูกระจ่าง
– Nasturtium Officinale Extract เป็นสารสกัดจาก watercress ซึ่งจากการสืบค้นสิทธิบัตรพบว่าเครือนี้น่าจะเลือกใช้ส่วนผสมที่มีชื่อว่า ODRALINE จากบริษัท Silab ซึ่งเป็นการสกัดเอาสาร Uronic acids มาเพื่อเสริมการพัฒนาตัวของสาร Natural Moisturizing Factor ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติข้างในชั้นผิว ในระยะยาวจึงเป็นการทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นจากข้างในตามธรรมชาติ
– Equisetum Arvense Extract หรือ Horsetail เป็นส่วนผสมตัวหลักในผลิตภัณฑ์ SUQQU หลายชิ้น มีข้อมูลที่ระบุว่าพืชชนิดนี้มีปริมาณของซิลิกอนสูงมากและมีอยู่ในหลายรูปแบบ ซึ่งรวมไปถึงรูปแบบที่ละลายในน้ำได้อย่าง Silicic Acid ด้วย ซิลิกอนเป็นหนึ่งใน trace element ที่มีอยู่มากสุดในร่างกายของมนุษย์และเป็นส่วนสำคัญในเนื้อเยื่อพวกคอลลาเจน มีการศึกษาเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งว่าการทา Silicic Acid เมื่อทาลงไปบนผิวสามารถเพิ่มความหนาของผิวได้ โดยการวัดพบว่าผลที่ได้เกิดกับผิวชั้นในมากกว่าผิวชั้นนอก คุณสมบัติในการเสริมคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างผิวนี้นี้จึงทำให้ผิวมีความเรียบเนียนและรู้สึกกระชับ
– Zostera Marina Extract อันนี้น่าจะมาจากซัพพลายเออร์ญี่ปุ่นอย่าง Technoble ซึ่งเคลมว่าสารสกัดจากหญ้าทะเลชนิดอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิว ซึ่งพืชทะเลมักมีแคลเซียมที่สำคัญต่อการพัฒนาตัวของปราการปกป้องผิวอยู่แล้ว และมีข้อมูลเล็กน้อยว่าอาจช่วยต้านริ้วรอยด้วยการลดเอนไซม์ MMP-1 ที่ทำลายคอลลาเจน
ซึ่งจะเห็นว่าเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันสำหรับคนที่ใช้สกินแคร์ของเครือคาเนโบกันพอสมควรทีเดียวล่ะ
หลังจากที่ปูเป้ทดลองผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม VIALUME มาครบ 4 สัปดาห์ ตัวที่ปูเป้มองว่าเป็นหัวใจหลักและเป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่ทุกคนมีอยู่ได้ง่าย คือ SUQQU : VIALUME The Serum (50ml / 8,000 BAHT) นอกจากส่วนผสมของ VIALUEM Complex แล้วในผลิตภัณฑ์นี้ก็ยังประกอบไปด้วย Malva Sylvestris Flower Extract มีข้อมูลเล็กน้อยว่าอาจใช้เป็น Anti-Aging ได้ และพบคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและเร่งการสมานแผล Camellia Sinensis Leaf Extract หรือสารสกัดจากใบชาเป็นแอนติออกซิแดนท์ และ Dipotassium Glycyrrhizate ที่ได้จากชะเอมเทศเป็นตัวที่ลดการระคายเคืองครับ
โครงสร้างของสูตรเป็นอิมัลชั่นที่มี Hydrogenated Lecithin กับ Cholesterol และ Phytosteryl Macadamiate ซึ่งชดเชยพวกลิพิดตามธรรมชาติของปราการปกป้องผิวได้ด้วย แต่จะไม่ได้อยู่ในปริมาณที่เยอะมากเท่ากับกลุ่มครีมกระปุก เพราะเซรั่มทำมาเพื่อให้เข้าได้กับทุกสภาพผิว
โดยรวมตัวผลิตภัณฑ์จะเน้นไปที่กลไกของการต่อต้านริ้วรอยผ่านการลดการทำลายคอลลาเจน และเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ ใช้ส่วนผสมที่เน้นการสร้างไฮยาลูโรนิคแอซิดควบคู่ไปกับตัวที่ลดการเสื่อมสภาพ เพื่อให้ผิวมีความอิ่มเอิบ ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น รวมไปถึงส่วนผสมที่ลดการคล้ำเหลืองของโปรตีนผิว และส่วนผสมที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวชั้นนอกและเก็บกักความชุ่มชื้นได้ไว้นั่นเอง
Ingredients : Aqua, Dipropylene Glycol, Hydrogenated Polydecene, PEG-75, Maltitol, Butylene Glycol, Glycerin, Polyglyceryl-10 Diisostearate, Phenoxyethanol, Hydrogenated Lecithin, Isostearic Acid, Methylserine, Cholesterol, Polyacrylamide, Chlorphenesin, Phytosteryl Macadamiate, Xanthan Gum, C13-14 Isoparaffin, Glyceryl Stearate, Palmitic Acid, Carbomer, Parfum, Acetyl Glucosamine, Laureth-7, Potassium Hydroxide, Alcohol, Disodium EDTA, Dipotassium Glycyrrhizate, Citronellol, Alpha-Isomethyl Ionone, Benzyl Benzoate, Nasturtium Officinale Extract, Limonene, Malva Sylvestris Flower Extract, Hexyl Cinnamal, Zostera Marina Extract, Eugenia Caryophyllus Flower Extract, Camellia Sinensis Leaf Extract, Equisetum Arvense Extract, Tocopherol.
เนื้อของเซรั่มเป็นอิมัลชั่นสีขาวสะอาด มีความบางเบา รู้สึกสดชื่นเมื่อใช้ และในขณะเดียวกันก็เคลือบผิวได้กำลังดี ไม่หนักหรือมันเยิ้ม
ขั้นตอนในการใช้ที่ทาง SUQQU แนะนำคือใช้เป็นขั้นตอนแรกบนผิวหน้าที่สะอาด โดยใช้ปริมาณ 2 – 3 ปั้มสำหรับลูบทั่วใบหน้าและลำคอ หลังจากนั้นก็ตามด้วย SUQQU : VIALUME The Lotion มีเป็นโลชั่นเนื้อที่เข้มข้นแต่ชุ่มฉ่ำ คนผิวธรรมดา ผิวผสม สามารถจบที่ขั้นตอนนี้ได้เลยในตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนสามารถเติมด้วย SUQQU : VIALUME The Cream เพื่อช่วยเก็บล็อคความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ
เหตุผลที่ SUQQU สามารถให้ลง The Serum ก่อน The Lotion เพราะ The Lotion ค่อนข้างมีความเข้มข้นมากกว่าโลชั่นน้ำที่เรามักเห็นกันในสกินแคร์ญี่ปุ่นโดยทั่วไปครับ
และแม้ว่าจะบอกให้ใช้เซรั่มเป็นขั้นตอนแรกของสกินแคร์ แต่ทางแบรนด์ก็มีโทนเนอร์หรือผลิตภัณฑ์แบบน้ำที่ให้เช็ดหลังการนวดหน้าหรือหลังการทำความสะอาดแล้วค่อยลงขั้นตอนบำรุงได้ ดังนั้นถ้าคุณจะใช้ SUQQU : VIALUME The Serum ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่คุณมีอยู่ ก็สามารถใช้เป็นขั้นตอนของเซรั่มปกติ หลังการใช้โทนเนอร์ โลขั่นน้ำ หรือเอสเซนส์น้ำที่เนื้อบางหรือเบากว่าได้ครับ
สำหรับโทนกลิ่นของผลิตภัณฑ์เป็นกลิ่นแนววู้ดดี้ อะโรมาติก ของแซนดัลวู้ด ซีดาร์วู้ด ที่ค่อนข้างชัดออกมา ซึ่งเป็นกลิ่นที่มักเจอในน้ำหอมทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่มีความลุ่มลึกหรือมีความ mature เป็นผู้ใหญ่หน่อย ส่วนตัวปูเป้รู้สึกว่ามันเหมือนน้ำหอมผู้ชายเลยครับ และกลิ่นก็ค่อนข้างชัด อยู่ได้นานเป็นชั่วโมง แต่โชคดีที่ปูเป้รู้สึกเฉย ๆกับกลิ่นแนววู้ดดี้ คือไม่ได้ชอบที่สุด แต่ก็ไม่ได้เกลียด ยอมรับว่าใช้วันแรก ๆ ก็รู้สึกว่ากลิ่นมันแน่นไป แต่พอใช้จนชิน จมูกปรับได้ ก็หลับสบาย ๆ ครับ
จริง ๆ เรื่องโทนกลิ่นที่ค่อนข้างชัด เป็นเหตุผลที่ปูเป้ไม่ค่อยได้ใช้สกินแคร์ของแบรนด์นี้จริงจังเท่าไหร่ เพราะว่ากลุ่มที่มีมาก่อนหน้ามักเป็นกลิ่นโทนฟลอรัลจัด ๆ ที่ปูเป้ไม่ค่อยชอบนัก มาเจอกลิ่นของ VIALUME นี่ก็แปลกใจ แต่ก็ดีใจที่เราสามารถใช้ได้ จึงได้มีโอกาสลองใช้อะไรของเขาแบบจริงจังสักที
ปูเป้ทดลองใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ VIALUME มาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยตัวที่ใช้ไม่ขาดเลยคือ SUQQU : VIALUME The Serum คู่กับ SUQQU : VIALUME The Lotion ส่วนตัวครีมมีใช้ SUQQU : VAILUME The Cream สลับกับมอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อครีมอื่น ๆ อย่าง KANEBO : Cream IN Night เพื่อทดลองหาการใช้งานที่ลงตัว และในระหว่างที่ทดลองใช้ปูเป้มีการนวดหน้าด้วย GANKIN Massage ร่วมกับผลิตภัณฑ์ SUQQU : Designing Massage Cream ไปด้วยสัปดาห์ละ 1 – 3 ครั้งแล้วแต่ความขยัน
ต้องบอกว่าสิ่งที่สังเกตได้เลยคือคุณภาพผิวโดยรวมดีมาก ผิวอิ่มเอิบ มีความใส เปล่งปลั่ง คือผิวไม่ได้ดูขาวขึ้นแต่โทนผิวดูดีขึ้น ดูโกลว์ขึ้นจริง ๆ แม้ว่าตอนตี 3 ตี 4 จะยังเห็นปูเป้แอคทีฟในโซเชียลมีเดียเพราะยังไม่หลับไม่นอนก็ตาม ยังคิดเลยว่าถ้าเราดูแลเรื่องการพักผ่อนให้ดีกว่านี้มันจะได้ผลเลิศขนาดไหน
ปูเป้ลองถ่ายรูปดูความเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า หลังทำความสะอาด โดยยังไม่ทาผลิตภัณฑ์อะไร ในตอนกลางคืน ปูเป้รู้สึกว่ารูปกรอบหน้าโดยรวมมีความชัด ดูไม่บวม ๆ และโทนผิวก็สดใส น่าจะเป็นอานิสงของการใช้ VIALUME ไปคู่กับการนวดหน้าของเขาเป็นประจำครับ และตอนนี้ก็เสพติดการนวดมาก
โดยรวมปูเป้แฮปปี้กับสกินแคร์กลุ่ม SUQQU : VIALUME นี้มากครับ คือค่อนข้างเกินจากที่คาดเอาไว้ คือดูจากส่วนผสมมันก็ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ใช้แล้วผิวออกมาดูดีมาก ใส และเนื้อผิวละเอียด ถ่ายวีดีโอ ทำ facebook live จากกล้องไอโฟนที่ว่าทำร้ายคนมานักต่อนัก มีแต่คนชมว่าผิวสวย ส่วนเรื่องริ้วรอยที่เป็นร่องปูเป้ยังไม่เห็นผลตรงนี้ชัดเจนเท่าไหร่ครับ
สกินแคร์ตัวหลักที่คิดว่าเอาไปลองใช้กับขั้นตอนการบำรุงผิวได้ง่ายคือ SUQQU : VIALUME The Serum และเป็นเหตุผลที่ปูเป้นำมาทำรีวิวในวันนี้ครับ แต่ถ้ามีงบเหลือ อยากแนะนำให้ใช้คู่กับ SUQQU : The Lotion เพราะว่ามันพอดีมาก ผิวนุ่มชุ่มฉ่ำไม่แห้งแต่ไม่เหนอะ ปั้มลงสำลีแล้วลูบให้ทั่ว จะโอ้โห!!! ปูเป้จะรักกว่านี้มากถ้ากลิ่นเขาเบากว่านี้หน่อย หรือเป็นโทนกลิ่นสดชื่น ซิตรัสแบบที่ตัวเองชอบ คือจะไม่เหลืออะไรให้ติเลยครับ เพราะปูเป้แฮปปี้กับผิวตัวเองในตอนนี้มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ทางแบรนด์ไม่ได้บอกปูเป้มาว่าช่วงวัยที่เหมาะสมกับกลุ่มนี้คืออายุประมาณเท่าไหร่ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของปูเป้เองพบว่าแม้ว่าจะเป็นพื้นเดิมจะเป็นที่มีผิวผสม-มัน แต่พออายุถึงช่วงวัย 30+ โดยเฉพาะตอน 35+ ผิวจะมีปัญหาเรื่องเสียความชุ่มชื้นและอ่อนไหวต่อปัจจัยลบ การนอนพักผ่อนน้อย ความเครียด จนผิวแห้งและหยาบกร้านง่ายมาก และผิวตอบรับกับสกินแคร์ที่เนื้อครีมหรือเนื้อที๋ชุ่มฉ่ำและเคลือบผิวมากกว่าตอนที่อายุน้อยกว่านั้น ดังนั้นปูเป้จึงมองว่า VIALUME จึงใช้ได้กับคนที่มีผิวแห้งหยาบกร้านแม้ว่าคุณจะยังอยู่ในวัย 25+ แต่สำหรับคนผิวธรรมดา ผิวผสม ที่เริ่มรู้สึกว่าผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ขาดความอิ่มเอิบ ตั้งแต่ช่วง 30+ เป็นต้นไปก็สามารถมองเป็นอีกทางเลือกได้ครับ
สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง
***Sponsored Item***
SUQQU : VIALUME The Serum
Price : 50ml / 8,000 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding : Skin Clarity, Hydration, Skin Smoothness
- เนื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีมาก Sensory เลิศ ถ้าไม่ติดเรื่องกลิ่นน้ำหอมที่แน่นไปจะให้เต็ม
- ส่วนผสมโดยรวมดูไม่หวือหวา แต่ผลที่ได้หลังการใช้คือประทับใจเลย
- คุณภาพผิวในแง่ของความอิ่มเอิบ ความใส โทนผิว เนื้อผิว ความชุ่มชื้น ออกมาดีกว่าที่คาดไว้
- มีส่วนผสมของน้ำหอม และกลิ่นติดค่อนข้างทน