วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553 เวลาเย็น ๆ มี เซอร์ (Sir) กับมาดาม ชาวยุโรปเดินเข้ามาที่ร้าน Kiehl’s ซึ่งปูเป้ก็เข้าไปต้อนรับตามปกติแต่ดูเหมือนว่ามาดามจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เลยต้องคุยผ่านทางคุณผู้ชายแทน
ในตอนแรกทั้งคู่ดูนิ่ง ๆ เงียบ ๆ และมาดามก็หน้าหงิกใช้ได้ (คิดในใจว่างานเข้าแล้วตรู) แต่ปูเป้ก็ยังคงยิ้มแย้มและให้บริการเต็มที่เหมือนที่เคยทำมา
หลังจากเดินวนรอบร้านแล้วมาดามก็ถามว่า “ชั้นอยากได้ตัวที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ตัวไหนของแบรนด์นี้ที่เธอว่าดีที่สุดแล้ว เอาแบบเลิศ ๆ กว่าแบรนด์ Di…, Cha… หรือ La …”
กระผมก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์วิตามินซี 10.5% ว่ามันทำงานอย่างไร และจะให้ผลลัพธ์แบบใดบ้าง พร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆแต่กระผมก็บอกกับมาดามไปตามตรงว่า “ผิวของมาดามตอนนี้มีอาการ Burn จากแสงแดดมาก” (ดำเมี่ยมเลย) “ผิวของมาดามในตอนนี้จะระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการระคายเคืองผิวก่อน แล้วจึงค่อยใช้ทรีตเมนท์เข้มข้นตัวที่แนะนำ”
เซอร์และมาดามคุยกันเป็นภาษาที่เราฟังไม่ออก หน้าตาดูเหมือนกำลังใช้ความคิดกันอยู่ ปูเป้ก็ขอแทรกด้วยการบอกว่า “ไม่เป็นไรนะ ผมจะให้ Sample ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของมาดามในตอนนี้ พร้อมกับ Sample ของเซรั่มที่แนะนำด้วย ถ้ามาดามชอยและพึงพอใจกับผลที่ได้ มาดามค่อยกลับมาซื้อก็ได้ หรือถ้าลองแล้วไม่ชอบจะกลับมารับ Sample ชิ้นอื่นไปลองก็ได้นะ มาดามจะได้ซื้อของที่ชอบจริง ๆ ไป ไม่ต้องเปลืองเงิน”
มาดามทำตาโตแล้วบอกว่า “Oh! Thank you!!!”
เราก็เลยเดินไปหยิบ Sample ที่เหมาะกับผิวของมาดาม พร้อมหยิบแคตาลอคผลิตภัณฑ์ที่เป็นภาษาอังกฤษ แถมไฮไลท์ด้วยปากกาเน้นข้อความว่า Sample ที่แจกให้ไปเป็นชิ้นใดบ้าง เอาไปให้มาดามพร้อมกับอธิบายโดยละเอียดว่าชิ้นไหน ใช้ยังไง เมื่อไหร่ ถ้าสงสัยอะไรก็มีเบอรืโทรข้างหลังนะ โทรกลับมาสอบถามได้เลย
หน้าหงิก ๆ ของมาดาม เปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งจนแก้มปริทันที (โอ้วววว!!! ตอนมาดามยิ้มน่ารักมากเลยนะ)
ด้วยความที่เราไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะซื้ออะไร แค่กลับไปพร้อมกับความพึงพอใจก็ดีแล้ว กำลังจะกล่าว “Have a good day” แล้วเชียว จู่ ๆ เซอร์ก็บอกให้ช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ให้เขาบ้างสิ
ปูเป้ก็สอบถามข้อมูลสภาพผิว ความต้องการ พร้อมกับวิเคราห์สภาพผิวตรงหน้าไปด้วย พบว่าผิวมีอาการ Burn หนักกว่ามาดามอีก คือเป็นอาการไหม้ที่เป็นแผลตกสะเก็ดเลยทีเดียว
ปูเป้เลยแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการระคายเคืองหลายตัว โดยพยายามให้เขาได้ทดสอบว่าเนื้อผลิตภัณฑ์เป็นอย่างไร? รู้สึกดีไหม? ชอบรึเปล่า? สุดท้ายก็ซื้อไปหลายพันอยู่นะ
ทั้งเซอร์และมาดามดู Happy มาก เราก็ดีใจ… พอดีวันนั้นมีกิจกรรมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกโดยช่างมืออาชีพอยู่พอดี เลยชวนให้เซอร์และมาดามไปถ่ายรูปคู่กันเป็นที่ระลึกวันวาเลนไทน์
แต่ทั้งคู่บอกว่าอยากให้ปูเป้มาถ่ายรูปด้วย
ไอ้เราก็… เอ… จะดีหรอ… เราเป็นแค่พนักงานขายนะ… เกรงใจอ่ะ…
แต่มาดามยืนยันหนักแน่นว่าอยากให้มาถ่ายรูปด้วยกัน ตอนนั้นดีใจและถือว่าเป็นเกียรติมาก

ปูเป้ให้ช่างภาพอัดรูปให้ 3 ชุด ชุดแรกให้เซอร์กับมาดาม ชุดที่สองให้ทั้งคู่เซ็นแล้วแปะไว้ที่บอร์ดของร้าน ชุดที่สามปูเป้จะขอเก็บไว้ตั้งที่ข้างหัวเตียง…
ก่อนจากไป มาดามขอหอมแก้มก่อนจะกอดปูเป้แน่น ๆ เซอร์ก็ขอจับมือพร้อมกับขอให้เราเซ็นที่หลังรูปด้วย
รู้สึกจริง ๆ ว่า “ความสุขของการทำงานบริการ คือสิ่งนี้นี่เอง”
เป็นวันที่มีความสุขมาก กลับไปบ้านเอารูปให้ปะป๊า มะม๊าดู แล้วก็เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังแล้วก็นอนหลับฝันดี…
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ตอนค่ำ ๆ เซอร์และมาดามกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มาดาม List ของที่อยากได้จากแคตาลอคที่ให้ไปอีกเพียบเลย ก็ทำการซื้อขายตามขั้นตอนเสร็จสรรพ


รู้สึกดีใจที่เราสามารถทำหน้าที่ของเราในฐานะผู้ให้บริการได้อย่างสมบูรณ์จนอีกฝ่ายมีความสุข และดีใจที่เขาเอ็นดูเราขนาดนี้
ถึงปูเป้จะมีประสบการณ์ทำงานเป็นพนักงานหน้าร้านมาได้แค่ 3 เดือน แต่ก็สามารถบอกได้ว่า
เพราะสิ่งดี ๆ ที่ได้รับกลับมามันมีค่ายิ่งกว่าเงินทองมากมายนัก
ในตอนนี้ปูเป้ก็ไม่ได้ทำงานที่หน้าร้าน Kiehl’s แล้ว เพราะทางแบรนด์หาพนักงานประจำได้ครบ ปูเป้ก็หมดหน้าที่ลงแล้ว แต่ประสบการณ์ดี ๆ ที่ได้รับมาก็ทำให้กระผมคิดว่าหากเป็นไปได้ก็อยากจะเข้าไปรับหน้าที่ในจุดนี้อีก และก็หวังว่าถ้าแบรนด์อื่น ๆ จะใจดียินยอมให้ปูเป้เข้าไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์บ้าง ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว 😀
ขอตบท้ายด้วยรูปสบาย ๆ ที่ถ่ายกับพี่ ๆ ในร้านและกับเพื่อนที่แวะมาหาในช่วงกิจกรรมถ่ายรูปพอดี




