เชื่อว่าตอนนี้หลายคนน่าจะทราบข่าวและดีใจกันอย่างมากที่แบรนด์สกินแคร์ที่ดังมากในญี่ปุ่นอย่าง Elixir (อิลิคเซอร์) เข้ามาขายในไทย (อีกครั้ง) อย่างเป็นทางการแล้ว และรอบนี้จะมีเคาน์เตอร์ของตัวเองอีกด้วย

Elixir เป็นแบรนด์ภายใต้เครือ Shiseido ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1983 (หลังปูเป้เกิดแค่ปีเดียว) และเป็นที่นิยมของกลุ่มแม่บ้านชาวญี่ปุ่นและวัยเริ่มทำงานอย่างล้นหลามจนครองยอดขายอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น 15 ปีซ้อน ด้วยความที่ถูกรับรู้ว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง ทั้งภาพลักษ์รูปลักษณ์ที่สวยงาม ดูหรูหรา แต่ราคายังอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเคาน์เตอร์แบรนด์ทั่วไป ส่วนเหตุผลที่บอกว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งนั่นก็เพราะว่าเมื่อนานมาก ๆ ๆ มาแล้ว Elixir เคยถูกนำมาจำหน่ายในเคาน์เตอร์ Shiseido ที่ประเทศไทยก่อนที่จะหายไปนั่นเอง

หัวใจสำคัญของแบรนด์คือการสร้างผิวแบบ TSUYADAMA Skin หรือ PEARLglow Skin จากการที่ผิวมีความชุ่มชื้น เรียบเนียน กระจ่างใส จนดูโกลว์เปล่งปลั่งแบบที่หลายคนใฝ่หา ซึ่งเป็นแนวคิดที่เข้าใจไม่ยาก

จากที่ลองหาข้อมูลดูจากเวปไซต์ภาษาญี่ปุ่นของแบรนด์นี้ก็พบว่า Elixir เป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่อง Anti-Aging เพื่อคงผิวสวยอ่อนเยาว์โดยมีการแบ่งเป็น 3 ช่วง โดยเร่ิมจาก

First Aging Care ที่แพคเกจจะดูเรียบ น่ารัก และเน้นที่ไปที่การป้องกันและการปรับสมดุลลดความหยาบกร้านของผิว

Anti-Aging & Brightening Care คือกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทองและสีชมพูที่เน้นเรื่องการมอบความแน่นกระชับและความกระจ่างใสของผิว

Advanced Anti-Aging Care เป็นกลุ่มที่เน้นการลดเลือนร้ิวรอย คืนความหยืดหยุ่น และความใสให้กับผิว  (สินค้าในกลุ่มนี้บางตัวยังไม่เข้าไทยในตอนนี้)

โดยส่วนตัวปูเป้มองว่า positioning ของสกินแคร์ระดับแบรนด์ Elixir เป็นตัวเลือกที่ทำให้เราได้สินค้าที่มีเทคโนโลยีที่ดี มีส่วนผสมที่น่าสนใจ ปูเป้เองก็ค่อนข้างประทับใจเทคโนโลยีในเครือชิเซโด้หลายตัว มีภาพลักษณ์ที่ดูดี แพคเกจจิ้งที่สวยงามในราคาที่ปูเป้มองว่าจ่ายเงินไปแล้วรู้สึกว่าคุ้มค่า

สิ่งที่โดนใจมากอย่างนึงคือผลิตภัณฑ์พื้นฐานของแบรนด์นี้ไม่ว่าจะเป็นโลชั่น อิมัลชั่น และครีม จะมีรูปแบบของ Refill ชนิดเติมด้วย ซึ่งสอดคล้องไปกับแนวคิดเรื่องการลดการสร้างขยะพลาสติกที่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ปูเป้ให้ความสำคัญอีกด้วย  ที่สำคัญคือเข้ามาในไทยรอบนี้ทำราคามาค่อนข้างดี และโปรโมชั่นที่เห็นจากช่วงเปิดตัวคือดีมาก ๆ จนคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องไปหอบมาจากญี่ปุ่นอีกแล้ว นี่จึงเป็นแบรนด์ที่ตัวเองค่อนข้างตื่นเต้นที่จะได้ใช้มาก ๆ เลยล่ะ

ปูเป้ได้รับผลิตภัณฑ์ Elixir มาหลายตัวจากทาง PR และบางตัวก็สั่งซื้อมาด้วยตัวเองเพราะมีความสนใจในแบรนด์นี้อยู่แล้วด้วย  แต่ช่วงนี้ปูเป้ไม่สามารถเปลี่ยนสกินแคร์หลัก ๆ ที่ใช้อยู่ได้เนื่องจากติดเงื่อนไขในการทดลองผลิตภัณฑ์เพื่อทำรีวิวที่กำลังใกล้จะคลอด  ดังนั้นในโพสนี้จะไม่ได้มารีวิวหรือให้รายละเอียดส่วนผสมในเชิงลึก แต่จะมาพรีวิวให้อ่านกันว่าในเบื้องต้น มีตัวไหนที่ปูเป้รู้สึกสนใจและอยากลองใช้เป็นพิเศษบ้าง

Elixir : Enriched Wrinkle Cream (15g / 2,700 BAHT) และ Elixir : Enriched Wrinkle White Cream (15g / 2,700 BAHT)  เป็นหนึ่งในตัวที่ปูเป้มองว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะยืนพื้นด้วยเทคโนโลยี Retinol บริสุทธิ์ ในความเข้มข้นที่ใช้ง่าย แต่ผสานเข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อให้ผลในการเพิ่มความยืดหยุ่นและลดเลือนริ้วรอย

เทคโนโลยีส่วนผสมและบรรจุภัณฑ์แบบพิเศษที่ป้องกันอากาศเข้าไปในหลอดแม้แต่ตอนที่เจาะเปิดแล้วนี้เป็นแบบเดียวกับที่ถูกใช้ในเคาน์เตอร์แบรนด์รุ่นพี่ แต่ในเวอร์ชั่นของ Elixir นั้นมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า

ปูเป้เคยใช้เทคโนโลยีเรตินอลที่คล้ายกันนี้ของแบรนด์ในเครืออย่าง IPSA : Targeted Effects Advanced G ต้องบอกว่า มันเป็น retinol ที่ใช้ง่ายมากจริง ๆ อ่อนโยนทาได้ทั้งเช้าและก่อนนอน แต่ทว่าเห็นผลในเรื่องของการคืนตัวของผิวที่ดีขึ้นจนเห็นถึงความแตกต่างระหว่างหน้าข้างที่ใช้กับไม่ได้ใช้เลยครับ ดังนั้นตัวนี้คือถ้าเจอมีโปรเลิศ ๆ จะเป็นตัวเลือกที่อยากให้ลองกัน

[Elixir : Enriched Wrinkle Cream] Ingredients : Water, Pentaerythrityl Tetraethylhexanoate, Butylene Glycol, Dipropylene Glycol, Alcohol, Limnanthes Alba Seed Oil, Glycerin, PEG-20, Dimethicone, PPG-17, Sodium Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Isohexadecane, Phenoxyethanol, Tocophery Acetate, Triisostearin, Behenyl Alcohol, Hydroxyethylcellulose, Polyvinyl Alcohol, Polysorbate 80, Fragrance, Stearyl Alcohol, Sorbitan Oleate, BHT, Retinol, Trisodlum EDTA, Polysorbate 20, Sodium Metabisulfite, Sodium Acetylated Hyaluronate, Tocopherol, Soluble Collagen, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Hydrolyzed Elastin, Sophoria Angustifolia Root Extract, Butylphenyl Methylpropional, Citronellol, Hexyl Cinnamal, Limonene, CI 73130.

[Elixir : Enriched Wrinkle White Cream] Ingredients : Water, Pentaerythrityl Tetraethylhexanoate, Butylene Glycol, Hydrogenated Polydecene, Alcohol, Glycerin, Squalane, Tranexamic Acid, Phenoxyethanol, Carbomer, Potassium Hydroxide, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Fragrance, Retinol, Trisodium EDTA, Xanthan Gum, Polysorbate 20, Inositol, BHT, Sapindus Mukorossi Peel Extract, Rosmarinus Officinalis Leaf Oil, Sodium Metabisulfite, Uncaria Gambir Extract, Soluble Collagen, Thymus  Serpyllum Extract, Sodium Acetylated Hyaluronate, Tocopherol, Curcuma Longa Rhizome Extract, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Sophoria
Angustfolia Root Extract, Hydrolyzed Elastin, Butylphenyl Methylpropional, Citronellol, Hexyl Cinnamal,
Limonene, CI 75130.

Elixir : Design Time Serum (40ml / 2,300 BAHT) นี้เมื่อกรองดูจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ปูเป้ได้มาอยู่ในมือ ส่วนผสมที่น่าจะเป็นเทคโนโลยีหลักในนี้คือสารสกัดจากรากของต้นไอริส หรือ Iris Florentina Root Extract ซึ่งถูกจดสิทธิบัตรเอาไว้ว่ามันช่วยเซลล์ที่สำคัญต่อชั้นโครงสร้างผิว มีรูปทรงของ Dendrite ของแขนของเซลล์ในแบบที่ควรจะเป็น มากกว่าจะเป็นก้อนเซลล์ที่ค่อนข้างเรียบแบบเซลล์ที่ชราแล้ว  ข้อมูลจากทางเครือชิเซโด้เคยมีแถลงข่าวว่าการศึกษาที่เกี่ยวข้องนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน IFSCC Congress เมื่อปี 2018 ซึ่งเหมือนเป็นงานโอลิมปิคของวงวิชาการด้านผิวหนังและเครื่องสำอาง

แม้เราจะหาส่วนผสมนี้ได้จากเคาน์เตอร์แบรนด์อื่นในเครือเดียวกัน แต่ต้องบอกว่าเซรั่มตัวนี้มาในรูปแบบที่เนื้อบางกลิ่นเบา น่าจะใช้งานง่ายทีเดียว จึงเป็นอีกตัวที่ปูเป้สนใจครับ

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Dipropylene Glycol, Alcohol, Glycerin, Dimethicone, Pantaerythrityl Tetraethylhexanoate, PEG-32, PEG-6, Beheneth-20, Copernicia Carffera Wax, Phenoxyethanol, Diisostearyl Malate, PEG-20 Glyceryl Isostearate, PEG-400, Carbomer, PEG-10 Dimethicone, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Xanthan Gum, Sodium Polyacrylate, Potassium Hydroxide, Acrylates/C 10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Disodium EDTA, Inositol, Fragrance, Centaurea Cyanus Flower Extract, Iris Florentina Root Extract, Rosmarinus Officinalis Leaf Oil, Tocopherol, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Nasturtium Officinale Leaf/Stem Extract, Soluble Collagen, Limonene.

Elixir : Daily UV Protector SPF50+ PA++++  (35ml / 1,300 BAHT) และ Elixir : Daily Brightening UV Protector SPF50+ PA++++  (35ml / 1,300 BAHT)

อันนี้เป็นตัวที่ปูเป้ได้ลองกับหน้าแล้ว และรู้สึกว่าเป็นกันแดดแบบไฮบริดที่ทำเนื้อมาได้ดีมาก ๆ หรือถ้าใครเคยใช้  IPSA : Daytime Shield EX SPF50 PA++++ ก็ต้องบอกว่าเนื้อมันคล้ายกันเลยครับ

ถ้าจะให้เห็นภาพน่าจะเทียบกับแบรนด์กันแดดในเครือที่มีชื่อเสียงอย่าง Anessa น่าจะเห็นภาพง่ายขึ้นว่า เนื้อกันแดดตัวนี้จะเป็นอะไรที่อยู่ระหว่างกลางของกันแดดขวดทองเนื้อน้ำนมเขย่า ๆ กับกันแดดเนื้อเจลหลอดทองของ Anessa  คือกันแดดตัวนี้ของ Elixir ทาง่ายเกลี่ยง่ายเหมือนกันแดดเนื้อน้ำนม แต่เซ็ทตัวไม่แห้งหรือแมท และในขณะเดียวกันถึงจะดูมีความโกลว์แต่ไม่หนักหรือดูมันเมือก

หลังจากทาไปแล้วผิวจะดูสว่างขึ้นนิดหน่อยเพราะว่ามันมี Zinc Oxide ด้วยนะครับ ถ้าคนที่โทนผิวเข้มถ้าทาเยอะ ๆ ก็อาจจะรู้สึกว่าขาวไปหน่อยได้ จากที่ลองใช้ดู รู้สึกว่าทั้งสองสูตรเนื้อไม่ต่างกันครับ ดังนั้นสิ่งที่ต่างกันจะเป็นแค่ส่วนผสมของสารบำรุงที่ใส่มาเป็นจุดขายต่างกันนิดนึง

[Elixir : Daily UV Protector SPF50+ PA++++] Ingredients : Water, Dimethicone, Zinc Oxide, Butylene Glycol, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Alcohol, Glycerin, Hydrated Silica, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Tranxamic Acid, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Ethylhexyl Triazone, PPG-17, Isostearic Acid, Phenoxyethanol, Dimethylacrylamide/Sodium Acryloyldimethyltaurate, Sorbitan Sesquiisostearate, PEG-100 Hydrogenated Castor Oil, Succinoglycan, Fragrance, Distearyldimonium Chloride, PEG/PPG-17/4 Dimethyl Ether, Citric Acid, BHT, Disodium EDTA, Sodium Metaphosphate, Hydroxypropyl Methylcellulose Stearoxy Ether, Inositol, Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Isopropyl Alcohol, Sodium Citrate, Rosmarinus Officinalis Leaf Oil, Sodium Metabisulfite, Prunus Speciosa Leaf Extract, Camellia Sinensis Leaf Extract, Sodium Acetylated Hyaluronate, Potentilla Erecta Root Extract, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Arginine HCI, Nasturtium Offcinale Leaf/Stem Extract, Polyquaternium-51, Soluble Collagen, Tocopherol, Rosa Roxburghii Fruit Extract, CI 77492

[Elixir : Daily Brightening UV Protector SPF50+ PA++++] Ingredients : Water, Dimethicone, Zinc Oxide, Butylene Glycol, Ethylhexyl Methoxycinnamate, Alcohol, Glycerin, Hydrated Silica, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine, Tranxamic Acid, PEG-60 Hydrogenated Castor Oil, Ethylhexyl Triazone, PPG-17, Isostearic Acid, Phenoxyethanol, Dimethylacrylamide/Sodium Acryloyldimethyltaurate, Sorbitan Sesquiisostearate, PEG-100 Hydrogenated Castor Oil, Succinoglycan, Fragrance, Distearyldimonium Chloride, PEG/PPG-17/4 Dimethyl Ether, Citric Acid, BHT, Disodium EDTA, Sodium Metaphosphate, Hydroxypropyl Methylcellulose Stearoxy Ether, Tocopherol, 2-O-Ethyl Ascorbic Acid, Inositol, Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate, Isopropyl Alcohol, Sodium Citrate, Rosmarinus Officinalis Leaf Oil, Sodium Metabisulfite, Prunus Speciosa Leaf Extract, Olea Europaea Leaf Extract, Camellia Sinensis Leaf Extract, Sodium Acetylated Hyaluronate, Potentilla Erecta Root Extract, Saccharomyces Ferment Lysate Filtrate, Arginine HCI,Hydrolyzed Conchiolin Protein, Nasturtium Offcinale Leaf/Stem Extract, Artemisia Princeps Leaf Extract, Polyquaternium-51, Soluble Collagen, Coix Lacryma-Jobi Ma-Yuen Seed Extract, Rosa Roxburghii Fruit Extract, CI 77492

อีกตัวนึงที่ปูเป้สนใจและได้ลองกับหน้าตัวเองคือ  Elixir : Smoothing Gel Wash (105g / 990 BAHT) เป็นเจลทำความสะอาดผิวหน้าชนิดไม่มีฟอง ใช้หลักการในการจับกับเซลล์เคราตินเสื่อมสภาพและทำละลายซีบัมและไขมันบนผิว ตัวนี้มีกลิ่นหอมสดชื่นออกแนวซิตรัส รู้สึกกลิ่นยูซุโดดเด่นออกมาเลย ถูกใจมาก

เจลนี่ล้างออกไม่ยาก ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึงโดยไม่ทิ้งอะไรลื่น ๆ ไว้บนผิว ผิวจะดูสมูทขึ้นแบบบอกไม่ถูกครับ ต้องลองเอง เวลาลงโลชั่นน้ำต่อก็ซึมดี คิดว่าเหมาะกับเอาไว้ล้างหน้าตอนเช้า หรือผิวที่ไม่ได้ทาพวกเมคอัพแบบติดทนครับ

Ingredients : Water, Glycerin, Dipropylene Glycol, Isopentyldiol, PEG/PPG-14/7 Dimethyl Ether, Alcohol, Hydrolyzed Corn Starch, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer, Butylene Glycol, Phenoxyethanol, PPG-13 Decyltetradeceth-24, Dimethicone, Bis-PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Xanthan Gum, Microcrystalline Cellulose, Fragrance, Talc, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Aminopropyl Dimethicone, Sodium Citrate, Potassium Hydroxide, Ethylcellulose, Citric Acld, Disodium EDTA, Serine, Sodium Metabisulfite, Glutamic Acid, Sodium Methyl Cocoyl Taurate, Sodium Hyaluronate, BHT, Stearyl Glycyrrhetinate, Tocopherol, Soluble Collagen, Limonene, CI 79491, CI 77492.

แบรนด์นี้ยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายตัวที่น่าสนใจอีกหลายตัวเลยทีเดียว แต่ใครที่อยากจะลองจับ ๆ ดม ๆ ดูก่อนค่อยตัดสินใจอาจจะต้องรอการเปิดตัวของเคาน์เตอร์สาขาแรกก่อน แต่ใครที่สนใจ อยากลอง หรือเคยใช้อยู่แล้ว สำหรับช่องทางในการจำหน่าย ตอนนี้ก็มีในช่องออนไลน์อย่างเป็นทางการใน Central Online และใน Lazada : Elixir Flagship Store

ส่วนช่องทางจำหน่ายในอนาคตว่าจะสามารถไปเดินหยิบจับเลือกซื้อด้วยตัวเองได้ที่ไหนบ้าง ต้องไปติดตามอัพเดทข่าวสารกันที่ทาง Facebook : Elixir Thailand ได้เลยครับ