ในปีนี้แบรนด์ Elemis จากเกาะอังกฤษมาเปิดเคาน์เตอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งวันนี้ปูเป้อยากจะพามารู้จักกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์กันสักหน่อย

Elemis ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1989 และปัจจุบันหนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Noella Gabriel ก็ยังคงคุมบังเหียนของแบรนด์อยู่ ซึ่งเธอเป็นนักสุคนธบำบัดที่เชี่ยวชาญในการบำบัดด้วยน้ำมันหอมระเหย และมีความปรารถนาในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อสัมผัสสุดพิเศษ มอบประสบการณ์ในการใช้ที่รู้สึกดี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีสารบำรุงที่ให้ผที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ด้วย โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดถูกคิดค้นและผลิตขึ้นในอังกฤษซึ่งเขามีศูนย์พัฒนาอยู่ที่ลอนดอนจ้า


เนื่องจากเมื่อในปี 2019 ทางแบรนด์ Elemis ได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท L’Occitane และได้เตรียมการในการรุกตลาดเอเชียอย่างจริงจัง โดยมีการทำกล่อง รวมถึงมีการปรับสูตรบางอย่างเพื่อให้รับกับกฏหมายเครื้องสำอางของเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทยอีกด้วย

โดยส่วนตัวปูเป้เคยรู้จัก Elemis ในฐานะสปาที่หรูหราและคอร์สการนวดที่ผ่อนคลายสบายผิวมาก เคยไปใช้บริการอยู่สองสามครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสที่จะลองผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของเขาอย่างจริงจัง จึงเป็นโอกาสดีมากๆ ที่ทาง Elemis ประเทศไทยได้ชวนไปงานเปิดตัวแบรนด์และได้มอบผลิตภัณฑ์ที่ขายดี 4 ตัวหลักมาให้ลองปาด ๆ ดู  อย่างกลุ่ม Pro-Collagen ที่เป็นตัวที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากที่สุด และกลุ่ม Dynamic Resurfacing ซึ่งมีการจดสิทธิบัตรในการใช้เอนไซม์ 3 ชนิดในการผลัดเซลล์ผิว และกลุ่ม Super Food ที่ดูสดใสกว่าใครเพื่อน

ส่วนตัวปูเป้สนใจตัวเอนไซม์มากที่สุดเพราะว่าดูมีเทคโนโลยีให้ค้นหา และหลังจากที่ได้ผลิตภัณฑ์มาทดลองใช้ ปูเป้ไปตรวจสภาพผิวและพบว่าค่าการทำงานของผิวในแง่ของการผลัดเปลี่ยนเซลล์อยู่ในเกณฑ์ดีมาก  ก็คิดว่าเออตัวนี้เวิคร์และอยากเอามาทำรีวิวให้อ่านกัน

Product’s Formula

Elemis : Dynamic Resurfacing Facial Pads (60 Pads / 2,000 BAHT) เป็นแผ่นเช็ดเพื่อเผยผิวใหม่ที่เคลมว่าทำงาน 2 รูปแบบโดยอย่างแรกคือการใช้เทคโนโลยี Tri-Enzyme ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน แตกต่างจากการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีอื่น แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ ในขณะที่สารสกัดจากโปรไบโอติกซ์จะช่วยเสริมกลไกสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในแง่ของส่วนประกอบนั้น จุดแข็งของการใช้เอนไซม์ในการผลัดเซลล์ผิวคือตัวสูตรไม่จำเป็นต้องมีค่า pH เป็นกรดเพื่อที่จะมีประสิทธิภาพเหมือนกับสารกลุ่ม AHAs / BHA / PHAs  และสารสกัดเอนไซม์บางตัวก็อาจมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระด้วย แต่จุดอ่อนหลัก ๆ ก็คือมันมีการศึกษาในแง่ของกลไกในการทำงานและประสิทธิภาพอยู่น้อย และเอนไซม์เองก็มีปัญหาในการทำสูตรเพื่อให้มีความเสถียร

ทาง Elemis จดสิทธิบัตรในการใช้เอนไซม์ 3 ชนิดโดยเคลมว่ามันเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน โดยใช้เอนไซม์ Papain ที่ได้จากมะละกอ กับเอนไซม์ Protease ที่มาจากเชื้อ Aspergillus melleus และเอนไซม์ Subtilisin ซึ่งเอนไซม์สองตัวหลังมาจากบริษัท BASF ในชื่อทางการค้าว่า Prozymex™ HBT LS 9142 ซึ่งถูกเสริมความเสถียรมาแล้ว  เขาเคลมว่าการที่เอนไซม์ทั้ง 3 รูปแบบนี้ถูกผสมมาด้วยกันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้เอนไซม์ในปริมาณเยอะและลดโอกาสที่จะระคายเคืองผิวลงไปได้อีก เพราะก็มีข้อมูลว่าเอนไซม์บางตัวอย่าง Papain ก็มีโอกาสระคายเคืองผิวได้

(Source : Skin care composition comprising a trienzyme activity, Application of Protease Technology in Dermatology, Papain Degrades Tight Junction Proteins of Human Keratinocytes In Vitro and Sensitizes C57BL/6 Mice via the Skin Independent of its Enzymatic Activity or TLR4 Activation)

ส่วนสารแอคทีฟอื่น ๆที่น่าสนใจก็คือ Lactococcus Ferment Lysate หรือ ProRenew Complex CLR™ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่พึ่งออกใหม่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เคลมว่าว่าช่วยสนับสนุนการแบ่งตัวและคุณภาพของผิวชั้นนอก แถมยังไปเสริมกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติอีกด้วย จึงไปเสริมประสิทธิภาพกับเทคโนโลยีเอนไซม์ที่มีอยู่เดิม และเพิ่การบำรุงผิวให้มากขึ้น

ส่วนผสมอื่น ๆ ก็ได้แก่ Poria Cocos Extract เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่ถูกใช้เป็นยาสมุนไพรในจีนและญี่ปุ่น  อุดมไปด้วยสารโพลีแซคคาไรด์และช่วยต้านการอักเสบ Saponaria Officinalis Leaf/Root Extract ก็สามารถใช้เป็นตัวต้านการอักเสบได้  ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของ AHA ในรูปของ Lactic Acid แต่ว่าค่า pH ประมาณ 4.5 และในความเข้มข้นไม่มากนักของผลิตภัณฑ์จึงอาจไม่ใช่ตัวหลักในการผลัดเซลล์ผิว แต่ Lactic Acid เป็นหนึ่งใน Natural Moisturising Factor ที่เสริมเรื่องความชุ่มชื้นได้  ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม

Ingredients : Aqua/Water/Eau, Butylene Glycol, Lactococcus Ferment Lysate, Polysorbate 20, Methyl Gluceth-20, Lactic Acid, Phenoxyethanol, Betaine, Propylene Glycol, Disodium EDTA, Benzoic Acid, Sodium Hydroxide, Fragrance (Parfum), Dehydroacetic Acid, Tromethamine, Ethylhexylglycerin, Papain, Saponins, Sodium Benzoate, Sodium Chloride, Glycerin, Behenyl Alcohol, Butyrospermum Parkii (Shea) Butter, Hydrogenated Castor Oil, Stearyl Alcohol, Poria Cocos Extract, Protease, Saponaria Officinalis Leaf/Root Extract, Subtilisin, Tocopheryl Acetate.

Usage & Result

 

ตัวผลิตภัณฑ์มีลักษณะเหมือนแผ่นเช็ดผิวที่คุ้นหน้าคุ้นตา โดยแผ่นมีทั้งด้านเรียบและด้านที่มีพื้นผิว ทางแบรนด์แนะให้ใช้ด้านที่มีพื้นผิวลูบเบา เป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ถ้าคุณมีผิวที่ค่อนข้างไวหรือบอบบางเราแนะนำให้ใช้การกดซับเบา ลงบนผิวแทนทาเช็ดหรือถูวนบนใบหน้า ขั้นตอนในการใช้คือใช้หลังทำความสะอาดผิวและซับให้แห้งแล้ว สามารถใช้แทนขั้นตอนของโทนเนอร์เช็ดผิวได้เลย

ตัวแผ่นมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ชุบตัวเอนเซนส์มาให้พอดีเช็ดทั่วใบหน้าและลำคอได้โดยไม่เยิ้มเกินไป เนื้อผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแต่ก็ไม่หนึบไป มีกลิ่นน้ำหอมในระดับหนึ่งตามสไตล์แบรนด์ที่เน้นเรื่องกลิ่นหอม แต่ส่วนตัวถือว่าติดผิวไม่นานเท่าไหร่เมื่อเทียบกับมอยซ์เจอไรเซอร์ของเขาที่ได้ลองมาคู่กัน

จากการทดลองใช้ 7 วัน ปูเป้ได้มีการไปตรวจสภาพผิวกับแบรนด์หนึ่งพอดี การทดสอบผิวนี้จะมีการใช้แผ่นเทปปิดที่ผิวและดึงออกมาก่อนนำไปวัดด้วยเครื่องเพื่อดูว่าผิวมีการสะสมตัวของชั้นเซลล์เสื่อมสภาพอยู่มากแค่ไหน และพบว่าผลออกมาดูดีมากทีเดียว เกือบได้คะแนนเต็ม คือมีการผลัดเซลล์ผิวในระดับที่ดี

ทางแบรนด์แนะนำให้ใช้เป็นประจำทุกเช้าเย็น หลังจากทำความสะอาด แต่เราจะบอกตามตรงว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวนั้นขอให้ยึดตามสภาพผิวของเราเป็นหลัก ผิวของเราอาจจะไม่ได้เหมาะกับการใช้ทุกวันก็ได้ หรืออาจจะใช้แค่ตอนกลางคืนทุกวัน หรืออาจจะใช้แค่สัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง  เพราะการทำงานและการสะสมตัวของเซลล์ผิวเสื่อสภาพหรือชั้นขี้ไคลของแต่ละคนเริ่มต้นมาก็ไม่เท่ากัน อันนี้เราอยากแนะนำให้ลองหาปรับระดับการใช้ที่เหมาะกับตัวเอง โดยถ้ารู้สึกไม่สบายผิว รู้สึกว่าผิวแห้งลง โดยเฉพาะหลังล้างหน้าเสร็จแล้วซับให้แห้ง หรือมีอาการที่บ่งชี้ว่าผิวเริ่มมีการระคายเคือง แปลว่าเราอาจจะกำลัง over-exfoliate หรือผลัดเซลล์ผิวมากไป ให้หยุด และเริ่มปรับลดความถี่ในการใช้ลงครับ

Conclusion

โดยสรุปแล้ว Elemis : Dynamic Resurfacing Facial Pads เป็นผลิตภัณฑ์ผลัดเซลลืผิวที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะลองการผลัดเซลลืผิวด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจากส่วนผสมของ AHA / BHA / PHA ที่มีใช้อยู่กัน โดยตัวแผ่นเช็ดนี้นอกจากจะใช้เทคโนโลยีเอนไซม์ในการผลัดเซลล์ผิวแล้ว เนื้อแผ่นที่มี texture ยังทำหน้าที่เป็น mechanical exfoliator หารการผลัดเซลล์ทางกายภาพไปในตัวได้ด้วย และยังมีส่วนผสมของโปรไบโอติกที่ช่วยเสริมการทำงานของผิวจากข้างในด้วย

ในแง่ของประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ ส่วนตัวเราเห็นจากตรวจสภาพผิวแล้วว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ ข้อควรระวังคืออย่าถูแผ่นเช็ดผิวแรงเกินไป หรือไม่ต้องถูเลยถ้าคุณเป็นผิวที่ค่อนข้างไวต่อการระคายเคือง ควรทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำร่วมด้วยทุกครั้งเมื่อมีการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว ทางด้านราคาก็ถือว่าไม่เบาเลยสำหรับการผลัดเซลล์ผิว แต่เราก็เข้าใจว่า Elemis เป็นแบรนดืความงามระดับ Luxury ก็จะตั้งราคาประมาณนี้แหล่ะ

ทางด้านกลิ่นเรารู้สึกส่าโดนตัวท็อปโน๊ตของกลิ่นมันมีความสดใส เป็นกลิ่นที่เราชอบนะ แต่อยากให้มันลดความแน่นของกลิ่นลงมาอีกหน่อยจะดีกว่านี้มากเลยล่ะ

ส่วนตัวเราคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจของ Elemis คือบริการทรีตเมนต์ผิวและนวดหน้า เพราะว่าเขาเป็นแบรนด์ที่สตองในเรื่องนี้มาก สปาดัง ๆ ในโรงแรมหรูทั่วโลกมีใช้กัน  ลองแวะไปเคาน์เตอร์ Elemis สาขาแรกของไทยได้ที่ห้างสรรพสินค้าพารากอนชั้น M ซึ่งในช่วงนี้มีบริการตรวจสภาพผิวและรับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  และเขามีโปรโมชั่นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และคอร์สนวดปรณิบัติผิวตามแบบฉบับ House of Elemis ด้วยจ้า หรือใครที่ไม่สะดวกไปห้างก็สามารถช็อปผ่านทาง Lazada : Elemis ได้เลย

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Elemis : Dynamic Resurfacing Facial Pads
Price :  60 Pads / 2,000 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Gentle Exfoliation

Elemis : Dynamic Resurfacing Facial Pads
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • เห็นผลในการผลัดเซลล์ผิวที่มีประสิทธิภาพดี
  • มีค่า pH เป็นกรดอ่อนใกล้เคียงกับผิวตามธรรมชาติ
CONS
  • มีส่วนผสมของน้ำหอม
  • เอนไซม์ยังมีการศึกษาถึงประสิทธิภาพที่น้อยกว่าสารผลัดเซลล์ผิวกลุ่มอื่น
3.6Overall Score