“สำลี” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมความงามที่จำเป็น และใช่ว่าสำลีทุกยี่ห้อจะทำออกมาได้ดีเท่ากัน ยิ่งเราลงทุนกับผลิตภัณฑ์ที่เราใช้กับผิวหน้ามากเท่าไหร่ ก็จำเป็นที่จะต้องลงทุนกับสำลีคุณภาพดีด้วยเช่นกัน

นอกจากคุณภาพ ความบริสุทธิ์ของสำลีแล้ว เราก็ยังต้องคำนึงถึงคุณสมบัติและลักษณะของการใช้งานด้วย เพราะว่าการเช็ดทำความสะอาด การเช็ดบำรุงผิว และการทำมาส์ก ก็ใช้ลักษณะของสำลีที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป

 photo RiiCotton01.png
แรกเริ่มเดิมทีในบ้านเราก็ไม่มีตัวเลือกของสำลีมากเท่าไหร่นัก ตัวเลือกที่มีอยู่ก็แม้จะมีความบริสุทธิ์ดีมีราคาไม่สูงนัก แต่การนำมาใช้เช็ดผิวมักจะก่อปัญหาต่าง ๆ เช่นเป็นขุยติดผิว และ ดูดซับโทนเนอร์หรือโลชั่นมากเกินไปจนสิ้นเปลืองเป็นต้น ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ก็มีตัวเลือกจากแบรนด์ต่างประเทศมากขึ้น ล่าสุดก็เริ่มเห็นแบรนด์ของไทยเริ่มทำสำลีคุณภาพดีที่แบ่งประเภทของการใช้งานกันบ้างแล้ว หนึ่งในแบรนด์ที่ว่าก็คือ ริอิ (Rii) ที่เห็นได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไป

ตัวที่เราหยิบมาลองใช้คือ Rii Less Toner 52 ซึ่งเป็นสำลีประหยัดโทนเนอร์และยังเคลมว่าไม่เป็นขุยอีกด้วย ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะสู้สำลี MUJI หรือ Unicharm ที่เราชอบได้รึเปล่า

 photo RiiCotton02.png
Rii Less Toner 52 ราคา 70 บาท บรรจุ 120 แผ่น ในกล่องกระดาษที่ออกแบบมาอย่างสวยงามทีเดียว เรื่องแพคเกจเราให้ผ่านฉลุย เรื่องราคาก็อยู่ในระดับที่รับได้

สำลีของแบรนด์นี้ใช้ใยฝ้ายจากอเมริกา (Cotton USA) เป็นวัตถุดิบหลัก และเคลมว่าไม่ใช้สารเคมีในการทำด้วย

 photo RiiCotton03.png
ตัวกล่องเมื่อเปิดแล้วจะมีสลักให้สามารถปิดกล่องกลับลงไปได้ ทำให้ไม่ต้องซื้อกล่องใส่สำลีมาเพิ่ม

 photo RiiCotton04.png
เมื่อเทียบกับสำลีตัดขอบแบบมาตรฐานแล้ว จะเห็นว่าสำลีของ Rii มีความบางกว่า 3 – 4 เท่าตัว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมสำลีตัวนี้ถึงประหยัดโทนเนอร์ เนื่องจากความบางทำให้กินโทนเนอร์น้อยกว่านั่นเอง

ในทางกลับกัน การซึมซับที่น้อยจากความบางในตรงนี้จึงไม่เหมาะที่จะนำไปใช้เพื่อการทำความสะอาดเครื่องสำอางหรือใช้คู่กับพวก Cleansing Water/Lotion เนื่องจากผลิตภัณฑ์ษณะดังกล่าวจำเป็นต้องใช้คู่กับสำลีที่มีการอุ้มหรือดูดซับสูงพอเหมาะเพื่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด

 photo RiiCotton05.png
นอกจากนี้ขนาดของสำลี Rii ยังมีขนาดที่ใหญ่กว่าสำลีตัดขนาดมาตรฐานอีกด้วย โดยจะมีลักษณะเป็นผืนผ้าที่กว้างกว่า ซึ่งตรงนี้เป็นเหตุผลที่เราชอบในสำลีตัวนี้

 photo RiiCotton06.png
ความกว้างของสำลีที่มากกว่านี้ทำให้การหรับจับสำลีทำได้สะดวกและเหมาะมือมากขึ้น กับผู้หญิงอาจจะไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่มือผู้ชายจะมีขนาดนิ้วที่ใหญ่กว่า โดยส่วนตัวเราจะหนีบสำลีแบบนี้กับสำลีขนาดมาตรฐานไม่ได้เลยเพราะมันสั้นเกินไป

หน้าสัมผัสของสำลีมีการทอที่ทำให้เป็นขุยได้ยาก สามารถตบโลชั่นหรือโทนเนอร์ลงบนผิวซ้ำ ๆ ได้โดยไม่เป็นขุยออกมา จากการใช้มาครึ่งกล่องพบว่าโอกาสเป็นขุยน้อยมาก เว้นแต่จะลากหรือถูแรง ๆ ในวันที่ไม่ได้โกนหนวดอาจจะมีเป็นเส้นใยโผล่ติดมาบ้าง แต่ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสำลีทั่วไป

เรามองว่าตัวนี้เหมาะกับการเช็ดโทนเนอร์ เช็ดโลชั่น หรือเช็ด BHA ของป้าพอลล่าเพราะว่าค่อนข้างจะประหยัดทีเดียว แต่สำหรับการตบเอสเซนส์น้ำอย่าง SK-II Facial Treatment Essence ส่วนตัวเรายังชอบ Silcot Puff Uru Uru ของ Unicharm มากกว่า เพราะสามารถอุ้มตัวเอสเซนส์ได้มากกว่าแต่ก็ไม่กินเอสเซนส์เลย ทว่าก็มีราคาแพงกว่า Rii ถึง 4 เท่าตัว และไม่มีจำหน่ายในไทยแล้ว

 photo RiiCotton07.png
นอกจาก Less Toner 52 แล้วแบรนด์นี้ก็ยังมีสำลีแบบอื่นที่ใช้สำหรับการทำความสะอาดผิวและไม้ปั่นหูที่ก้านทำจากกระดาษแข็งแทนที่จะเป็นพลาสติกด้วย

ส่วนตัวเรามองว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่แบรนด์ไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์สำลีเกรดพรีเมี่ยมให้เป็นทางเลือกกับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มากขึ้น ส่วนตัวอยากเสนอให้ลองทำสำลีแบบไม่ฟอกสี หรือ Organic ออกมาดูบ้างก็น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ