หลังจากที่เห็นแบรนด์เงียบไปนาน แต่จู่ ๆ Klairé แบรนด์ไทยที่ผู้นำเข้าส่วนผสมเครื่องสำอางชั้นนำของประเทศทำขายเอง รับประกันว่าความเข้มข้นของสารสำคัญว่าใส่มาอย่างถึงใจ ก็ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ถึงบ้าน และมีตัวนึงที่มีส่วนผสมที่เรากำลังสนใจอย่าง Ectoin พอดี ก็เลยขอเอาทำรีวิวให้อ่านนะจ๊ะ

ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Klairé (อ่านว่า แคลเอ่ย์) มาในกลุ่มที่ชื่อว่า Balance โดยมี 3 ผลิตภัณฑ์ ทำมาในรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย และในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าผลิตภัณฑ์ที่เคยมีก่อนหน้า (ขอยกเว้นโฟมล้างหน้าไว้ตัวนึง) และพกพาใส่กระเป๋าใช้ยามเดินทางหรือไปออกกำลังกายได้สะดวกดี 

และตัวหลักที่เราหยิบมาพูดถึงคือ Klairé : Balance Essence Toner ซึ่งเคลมถึงคุณสมบัติในการบำรุงผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้นในหลายระดับ กางม่านโปร่งใสบางเบาเก็บกักความชุ่มชื้นได้ยาวนาน พร้อมคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากผลกระทบของมลภาวะ และช่วยทำให้รูขุมขนรู้สึกดูกระชับขึ้น

Product’s Formula

Klairé : Balance Essence Toner (50ml / 890 BAHT) ในแง่ของส่วนผสมนั้นตัวหลักที่เราอยากจะพูดถึงคือ Ectoin ซึ่งมันถูกค้นพบมานานเป็นสิบปีแล้วแต่เริ่มถูกนำมาใช้กันมากขึ้นในไม่กี่ปีที่ผ่านมา และใช้กันในแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกด้วย แต่จะหาผลิตภัณฑ์ที่ยัดมาแบบเข้มข้นตามโดสที่ใช้ในงานวิจัยเนี่ยก็จะมีไม่เยอะนัก

Ectoin เป็นหนึ่งในสารกลุ่ม Extremolyte ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่โหดสุดขั้วสร้างมาเพื่อใช้ในการปกป้องเซลล์ให้สามารถดำรงชีวิตในสภาพสุดโต่งอย่างเช่นแล้งจัด ร้อนจัด หรือเต็มไปด้วยสารพิษได้ ซึ่งสาร Ectione ที่เรานำมาใช้กันนี้ได้มาจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Halomonas elongataโดยสารตัวนี้ถูกนำมาศึกษาอย่างกว้างขวางไม่ใช่แค่ในแง่ของการบำรุงผิว แต่ยังมีมีรวมไปถึงยาพ่นเพื่อระบบทางเดินหายใจและแม้แต่ในยาหยอดตาเพื่อลดอาการแพ้อักเสบ

การศึกษาในช่วงที่ผ่านมาสรุปได้ว่าสาร Ectoin นั้นมีคุณสมบัติในการอุ้มความชื้นได้สูงและยาวนานมากแบบสุด ๆ จึงเป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี คงความแข็งแรงของ Skin Barrier และมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านกรอักเสบ ช่วยลดผลกระทบจากการเผชิญรังสี UV รวมไปถึงมลภาวะอย่าง PM2.5 และแม้แต่แสงสีน้ำเงินอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่พบว่า Ectoin ยังมีผลกับการปกป้อง Langerhans Cell ซึ่งเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของชั้นปราการปกป้องผิว ซึ่งมีหน้าที่ในการหลั่งสารที่ช่วยต้านการอักเสบได้อีกด้วย และยังช่วยฟื้นฟูผิวที่มีอาการโรคผิวหนังอักเสบอย่าง Atopic Dermatitis อีกด้วย ความเข้มข้นที่ใช้ในการศึกษามักอยู่ที่ 1 – 2% และมากสุดถึง 5% ซึ่งในผลิตภัณฑ์ตัวนี้น่าจะใช้ในความเข้มข้น 1-2%  ตามงานวิจัยนี่แหล่ะ

(Source : Extremolytes: natural compounds from extremophiles for versatile applications, Ectoine-containing cream in the treatment of mild to moderate atopic dermatitis: a randomised, comparator-controlled, intra-individual double-blind, multi-center trial)

ส่วนผสมของความชุ่มชื้นมีอีกหลายตัวมาก เช่นส่วนผสมของไฮยาลูโรนิคแอซิดถึง 4 ขนาด ในนามของ Hymagic™-4D (Hydrolyzed Sodium Hyaluronate + Sodium Acetylated Hyaluronate + Sodium Hyaluronate + Sodium Hyaluronate Crosspolymer) โดยขนาดที่ใหญ่และขนาดที่เป็นโครงสร้างแบบคลอสลิงค์จะกางตัวเป็นม่านคลุมลดการสูญเสียความชุ่มชื้น ส่วนขนาดที่เล็กลงจะให้ความชุ่มชื้นในระดับที่ลึกลงไปของผิวชั้นนอก

Sodium Polyglutamate เป็นไฮโดรเจลของ γ-Polyglutamic Acid ซึ่งโดยตัวของมันเองก็เป็นส่วนผสมให้ความชุ่มชื่นชั้นยอดและยังสามารถกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของ Natural Moisturizing Factor ได้อยู่แล้ว รูปแบบไอโดรเจลของ γ-Polyglutamic Acid นั้นมีคุณสมบัติเพิ่มเติมในการโอบอุ้มความชุ่มชื่นได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 5,000 เท่า และช่วยส่งเติมเต็มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี

(Source : Polyglutamic Acid: A Novel Peptide for Skin Care)

Beta-Glucan อันนี้คือ Hydrasensyl® Glucan Green ของบริษัท BASF ซึ่งมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดีคล้ายไฮยาลูโรนิคแอซิด และมีโครงสร้างเป็นเกลียวที่ยืดหยุ่นบนผิวคล้ายคอลลาเจน และด้วยความมันเป็นเบต้ากลูแคนก็มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ลดการแดงของผิวได้ด้วย

(Source : Regenerative and Protective Actions of the GHK-Cu Peptide in the Light of the New Gene Data.)

และก็ยังมียังมีส่วนผสมของสารแอคทีฟที่มีคุณสมบัติคล้ายกันอย่าง อย่างเช่น  PatcH2O™ ของบริษัท BASF ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวหลายชนิดอย่าง Glycerin กับ Serine กับ Trehalose และ Urea และยังสร้างโครงข่ายไบโอโพลิเมอร์จากธรรมชาติอย่าง Algin กับ Sodium Hyaluronate และ Pullulan เพื่อกางม่านเก็บกักความชุ่มชื้นเอาไว้ โดยเขาเคลมว่าไม่ใช่แค่ในขณะที่ใช้เท่านั้น แต่ในระยะยาวเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องแล้วผิวจะยังคงเก็บกักความชุ่มชื้นได้นานขึ้นแม้จะไม่ทาอะไรเลยหลังล้างหน้า

ถ้าแค่นั้นยังคิดว่ายังไม่มากพอ เขายังยัด MC-BNC ซึ่งเป็นการรวมกันของกรดอะมิโน แร่ธาตุ และสารกลุ่มแลคเตท ที่เป็น Natural Moisturizing Factor ที่มีในผิวตามธรรมชาติหลายสิบชนิดใส่มาด้วย  เรียกได้ว่าส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น กักความชุ่มชื้น คือเหมือนบริษัทฉันมีอะไรฉันเทใส่ให้เต็มที่กันเลยทีเดียว 

 

ส่วนคุณสมบัติในการเคลมเรื่องรูขุมขนดูกระชับนั้น เขาใช้ Fomes Officinalis Extract คือ Laricyl™ LS 8865 จากบริษัท BASF ซึ่งเป็นสารสกัดจากเห็ดหน้าตาแปลก ๆ ที่พบในป่าของยุโรป เคลมว่ามีคุณสมบัติเป็น Astringent ช่วยเรื่องทำให้รูขุมขนดูกระชับและความชุ่มชื้น ยังไม่มีการศึกษาจากแหล่งอื่นมาสนับสนุนตรงนี้ แต่สารจากเห็ดมักเป็นพวกโพลีแซคคาไรด์ต่าง  ที่มีคุณสมบัติพื้นฐานในการให้ความชุ่มชื้นอยู่แล้ว  เราคิดว่าส่วนผสมของ Hamamelis Virginiana Leaf Extract หรือ Witch Hazel นั้นถูกใส่มาในนี้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ชื่อ Toner ในการขอ อย. ได้ เนื่องจากสารเป็นสารกลุ่มที่ Astringent อย. รู้จัก

จากส่วนผสมนี่เรียกได้ว่าเป็นแกงโฮะของส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น และใช้ Ectoin ในความเข้มข้นที่เป๊ะตามงานวิจัย  คือเราก็ไม่แน่ใจว่าเขากล้าเรียกว่าสิ่งนี้คือ Toner ได้อย่างไร เพราะพวกเซรั่มที่วางขายกันในท้องตลาดหลายตัวยังไม่อัดแอคทีฟมาขนาดนี้  ส่วนตัวเราเราถือว่าสิ่งนี้คือ Hydrating + Anti-Pollution Serum ที่อ่อนโยนและใช้ได้กับทุกสภาพผิวตัวนึงเลยล่ะ

Ingredients : Water, Butylene Glycol, Glycerin, Pentylene Glycol, Ectoin, 1-2Hexanediol, 1-Methylhydantoin-2-Imide, Alanine, Algin, Ammonia, Arginine, Asparagine, Aspartic Acid, Beta-Glucan, Calcium Chloride, Caprylyl Glycol, Citric Acid, Citrulline, Copper Tripeptide-1, Cysteine, Dipotassium Phosphate, Ethylhexylglycerin, Fomes Officinalis Extract, Formic Acid, Glucosamine HCl, Glutamic Acid, Glutamine, Glyceryl Polyacrylate, Glycine, Hamamelis Virginiana Leaf Extract, Histidine, Hydrolyzed Sodium Hyaluronate, Isoleucine, Leucine, Lysine, Magnesium Chloride, Magnesium Citrate, Magnesium PCA, Methionine, Ornithine, PEG-40 Hydrogenated Castor Oil, Phenoxyethanol, Phenylalanine, Potassium Hydroxide, Potassium Phosphate, Proline, Pullulan, Sea Salt, Serine, Sodium Acetylated Hyaluronate, Sodium Citrate, Sodium Hyaluronate, Sodium Hyaluronate Crosspolymer, Sodium Lactate, Sodium Polyglutamate, Sucrose, Taurine, Tetrasodium EDTA, Threonine, Trehalose, Tryptophan, Tyrosine, Urea, Uric Acid, Valine.

Usage & Result

เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นน้ำที่ค่อนข้างเหลว มีบอดี้เล็กน้อย เซ็ทตัวแบบเป็นชั้นฟิลม์บาง ๆ ตามหน้าที่ที่มันถูกออกแบบมา จะเพิ่มความหนึบบ้างแต่ไม่มาก ไม่มีน้ำหอมแต่ก็ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือตุ่ย ๆ สามารถใช้เป็นน้ำตบบำรุงผิวได้ หรือใช้เป็นเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นก็ได้

เราประทับใจในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นที่ค่อนข้างดี  เราทดลองไม่ทาสกินแคร์อะไรเลย 24 ชั่วโมง แล้วล้างหน้าทิ้งให้แห้ง ผิวคือเป็นริ้วเหี่ยวๆ จากความแห้งกร้านและจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ตบตัวนี้เข้าไปคือผิวอิ่มขึ้นมาทันที และคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน รู้สึกสบายผิว ขยับหน้าแล้วไม่รู้สึกเหมือนปริแตกเพราะมีความชุ่มชื้นยืดหยุ่นได้แม้ไม่ทาอะไรเพิ่ม  ถือว่าประสิทธิภาพในการชั้นฟิลม์ลดการระเหยความชุ่มชื้นนี่ทำได้ดีเลยล่ะ

นอกจากนี้เรารู้สึกว่าแม้เราจะออกไปข้างนอก ไปม็อบ  ติดต่อกัน ท่ามกลางอากาศที่เต็มไปด้วย PM2.5 ความอบชื้น การสวมหน้ากาก แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องผิวอักเสบ  สิวที่ขึ้นคือขึ้นจากการที่เราดาวน์แล้วนอนเน่าเป็นผักอยู่บ้านไม่อาบน้ำล้างหน้าทั้งวันแทน

เรื่องรูขุมขนเราไม่แน่ใจว่ามาจากตัวนี้ไหม เพราะเราลองใช้ผลิตภัณฑ์อีกตัวนึงที่เขาก็เคลมว่าช่วยทำให้ผิวแน่นขึ้น ซึ่งผิวเราก็ดูละเอียดขึ้นจริง ๆ  อันนี้เราบอกตรง ๆ ว่าเราฟันธงไม่ได้ว่ามาจากตัวนี้ แต่เรื่องผิวชุ่มชื้น อิ่มฟู ปกป้องผิวจากมลภาวะ คือตัวนี้เวิร์คมาก

อย่างไรก็ดี แม้ว่ามันจะสร้างฟิลม์เก็กกักความชุ่มชื้นได้ แต่ถ้าผิวคุณมีส่วนที่แห้งหรือขาดเรื่องน้ำมันหลล่อเลี้งผิว ก็ยังจำเป็นต้องทาโลชั่หรือครีมที่มีส่วนของ Emollients ที่จะช่วยเคลือบผิว และจะช่วยเซ็ทผิวให้ดูนุ่มนวลขึ้น แทนที่จะดูเป็นฟิลม์ ๆ ล่ะ

Usage & Result

โดยสรุปแล้ว Klairé : Balance Essence Toner คือโทนเนอร์ที่ไม่ใช่โทนเนอร์ แต่มันความเข้มข้นระดับคือเซรั่มเติมความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากมลภาวะที่เข้มข้นและใส่ส่วนผสมมาแบบไม่ยั้ง เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวที่บอบบางแพ้พังง่าย  และถ้าคุณอยากรู้ว่าส่วนผสมของ Ectoin  ที่ช่วยปกป้องให้สิ่งมีชีวิตรอดจากสภาพแวดล้อมสุดโหดได้จะมีผลอย่างไรกับผิวคุณ ตัวนี้เป็นตัวที่ใส่มาเข้มข้นตามการศึกษา ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายด้วย

ไม่มีอะไรจะติ ถ้าให้ติคงเป็นเรื่องแพคเกจที่อาจจะไม่ใช่ดีไซน์ที่เราชอบนัก แต่เราว่ามันก็สะดวกในการพกพาและใช้งานได้ดีตามที่เขาเคลมไว้เลยล่ะ

ใครที่สนใจ สามารถหาซื้อได้ทาง https://klairethailand.com/shop/klaire-balance-essence-toner/ ได้เลยจ้า

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

Klairé : Balance Essence Toner
Price :  50ml / 890 BAHT
Skin Type : All Skin Type
Outstanding :  Hydration / Anti-Oxidant / Barrier Repair / Fragrance-Free

Klairé : Balance Essence Toner
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ส่วนผสมเติมความชุ่มชื้นหลากหลาย อัดแน่น
  • Ectoin เป็นส่วนผสมที่มีการศึกษาและได้รับการยอมรับเรื่องความอ่อนโยน ความชุ่มชื้น และการปกป้องผิว
  • ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ไม่ระคายเคืองผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว
CONS
  • ส่วนผสมบางตัวยังไม่มีข้อมูลจากแหล่งอื่นนอกจากผู้ผลิตมมารับรอง
4.6Overall Score