วันนี้อยากจะมาอวยมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เลิศมากในเรื่องการลดการคัน ระคายเคือง แดง อักเสบ ฟื้นฟูผิว เป็นแบรนด์ไทยแบรนด์เล็ก ๆ ที่พึ่งเปิดตัวไม่นาน มีผลิตภัณฑ์แค่ชิ้นเดียว แต่มันดีมากทั้งส่วนผสมและผลที่ได้จนเราต้องยกให้เป็นตำแหน่งครีมสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดเอาไว้

PEODERM เป็นแบรนด์ที่บอกว่าผู้ก่อตั้งและพัฒนาสูตรเป็นแพทย์เด็กที่เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ต้องเห็นคนไข้เด็กเล็ก เด็กอ่อนเกาจนเลือดไหล และทรีตเมนต์ที่มีตัวเลือกในปัจจุบันในท้องตลาดก็ยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด เลยอยากพัฒนาสิ่งที่เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์ในอุดมคติที่แพทย์โรคผิวหนังในเด็กต้องการ  จนออกมาเป็น PEODERM : AD Soothing Cream ที่เราขอเรียกว่าแกงโฮะของส่วนผสมที่มีงานวิจัยเรื่องโรคผิวหนังอักเสบเหมือนกางตำราจิ้มเลือกสาร ตวงในความเข้มข้นที่ระบุในการศึกษา แล้วกวาดลงหม้อมาปั่นรวมกันมาใส่หลอดให้เราใช้กันเลย และจากการทดลองใช้ขอบอกเลยว่ามัน WORK!!!

Product’s Formula

PEODERM : AD Soothing Cream (50g / 650 BAHT) แม้จะมีสารบำรุงที่มีประโยชน์กับผิวเยอะมาก โดยสามารถแบ่งเป็น 3 ส่วนประกอบของมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ดีควรมีได้แก่ Active Ingredients หรือพวกสารสกัด วิตามินต่าง ๆ  กับ  Humectants ที่เป็นตัวช่วยเติมและอุ้มความชุ่มชื้นกับผิว  และ Emollients / Occlusive ที่ช่วยเคลือบให้ผิวมีความนุ่มนวล ยืดหยุ่น เติมเต็มร่องผิวและไขมันจำเป็นที่หดหายหรือเสียไปรวมไปถึงสารที่มีคุณสมบัติในการเคลือบเก็บกักความชุ่มชื้นเหมือนฟิล์มคลุมผิว

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีสารที่อาจจัดเป็น Active Ingredients อยู่เยอะมาก แต่เพื่อความง่ายในการสื่อสารทางแบรนด์จึงเลือกชูด้วยส่วนผสมเด่น 3 ชนิดที่เรียกเป็นชื่อย่อว่า SOL formula ซึ่งประกอบไปด้วย

Sunflower Oil Oleodistillate (SOD) คือ Helianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil Unsaponifiables หรือสารที่มีชื่อทางการค้าว่า Soline® ของบริษัท Laboratoires Expanscience คือน้ำมันดอกทานตะวันปกติก็มีการศึกษายืนยันว่าดีต่อการเสริมความแข็งแรงของผิวอยู่แล้ว แต่สารตัวนี้พิเศษกว่าตรงที่นำน้ำมันดอกทานตะวันไปผ่านกระบวนการในการแยกเอากรดไขมัน Oleic Acid ออก ให้เหลือแต่ Sterols กรดไขมันและสารที่มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและเสริมความแข็งแรงของชั้นปราการปกป้องผิวด้วยกลไกเสริมการสร้าง Lipid เช่นพวก Ceramide และ Cholesterol ในชั้นผิวตามธรรมชาติ และเสริมการพัฒนาตัวของเซลล์เคราติโนไซด์ให้เป็นปกติ

ส่วนผสมนี้มีงานวิจัยตีพิมพ์โดยระบุว่า SOD ในความเข้มข้น 2% นั้นช่วยเสริมคุณภาพผิวให้กับผู้ใหญ่ที่มีปัญหาผิว Atopic Dermatitis (โรคผิวหนังอักเสบ) และช่วยลดการพึ่งยาการใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid-Sparing) ในเด็กและทารกที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ  จากการหาข้อมูลพบว่านี่น่าจะเป็นแบรนด์ไทยเจ้าแรกที่ใช้ส่วนผสมตัวนี้เลยครับ

Oat-Inspired DihydroAvenanthramide D คือ Hydroxyphenyl Propamidobenzoic Acid เป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบ Avenanthramide ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่ทำให้ข้าวโอ๊ตให้คุณสมบัติในการต้านการคัน ระคายเคือง แต่ว่ามีอยู่ในปริมาณที่น้อยมากในข้าวโอ๊ตตามธรรมชาติ การสังเคราะห์ Dihydroavenanthramide D  เลียนแบบธรรมชาติจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในเชิงธุรกิจ สารตัวนี้เป็นสิทธิบัตรของบริษัท Symrise ภายใต้ชื่อว่า SymCalmin®  ซึ่งมีการศึกษาที่ตีพิมพ์ว่าใช้ตัวทำละลายที่นำพาสารให้แทรกเข้าผิวได้ดี และก็มีการศึกษาที่อธิบายคุณสมบัติในการลดการคันของผิวหนังผ่านกลไกต้านการอักเสบ IL-6 และ NK1R

Licochalcone A คือ Glycyrrhiza Inflata (Licorice) Root Extract สารบริสุทธิ์ที่สกัดได้จากรากชะเอมเทศ มีการศึกษามากมายทั้งกับการใช้ภายในและภายนอก โดยมีการศึกษาบนผิวหนังมนุษย์ที่แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติในการต้านการระคายเคือง ลดการแดง ต้านการอักเสบของผิว รวมถึงศึกษากลไกการต้านการอักเสบของสารตัวนี้จากเซลล์ในหลอดทดลอง

 

นอกจาก SOL แล้ว สารออกฤทธิ์หลักในนี้ยังประกอบไปด้วยสารสำคัญที่ดีกับผิวที่อ่อนแอ บอบบางระคายเคืองง่ายอีกหลายตัว ได้แก่

Niacinamide ซึ่งน่าจะมีความเข้มข้นข้นที่ 2% หรือมากกว่าโดยอิงจากงานวิจัยที่ชี้ว่าในความเข้มข้นระดับนี้ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นปราการผิวของผู้มีปัญหาผิว Rosacea ที่แห้งแดงให้ดีขึ้นใน 4 สัปดาห์  มีการศึกษาที่เทียบการทาครีมผสม Niacinamide  กับ Petrolatum และพบว่าในระยะยาวการใช้ครีมที่ผสม Niacinamide จะช่วยเสริมการสร้างเซราไมด์ ช่วยให้ปราการผิวแข็งแรงขึ้น ลดการระเหยของความชุ่มชื้น (TEWL) และเพิ่มความชุ่มชื้นของชั้นหนังกำพร้าอย่างมีนัยสำคัญจากการใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ วิตามินตัวนี้มีประโยชน์กับผิวหลากหลายและมีการศึกษารองรับมากมายถึงคุณสมบัติในการเสริมคุณภาพผิวในแง่ต่าง ๆ ทั้งลดเลือนจุดด่างดำ ลดการอักเสบของสิว และริ้วรอย เมื่อใช้ในความเข้มข้นที่ 4-5%

Allantoin เป็นสารที่สกัดมาได้จากรากของต้น Comfrey เพื่อช่วยต้านการระคายเคืองและยังช่วยเสริมความชุ่มชื้นอีกด้วย การศึกษาในสัตว์ทดลองยังพบว่ามันช่วยเสริมการเยียวยาบาดแผล แต่ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าสารสกัดรวม ๆ ของต้น Comfrey ให้ผลดีกว่าในแง่ของการกระตุ้นการแบ่งเซลล์ เสริมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง เพราะสารอื่น ๆ ในรากของ Comfrey ที่ทำงานร่วมกันกับสาร Allantoin เลยได้ผลที่ดีกว่าสาร Allantoin เดี่ยว ๆ ที่ถูกแยกออกมา แต่ในทางกลับกันการแยกสาร Allantoin ออกมาใช้ก็ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาจากการแพ้สารประกอบอื่น ๆ ในพืช Comfrey ได้

Biosaccharide Gum-2 คือ Rhamnosoft® HP ของบริษัท Solabia เป็นสารกลุ่มน้ำตาลเชิงซ้อนที่มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ

Dipotassium Glycyrrhizinate เป็นสารอีกตัวที่ได้มาจากชะเอมเทศ มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ต้านการระคายเคือง ต้านเอนไซม์ที่ทำลายไฮยาลูโรนิคแอซิด และมีการศึกษาบนผิวหนังมนุษย์ว่าช่วยเสริมการเยียวยาแผลได้อีกด้วย

ส่วนผสมของสารกลุ่ม Emollients / Occlusive ในสูตรก็เลือกมาแต่ตัวที่เป็นมิตรเสริมความแข็งแรงของผิว ไม่ว่าจะเป็นทั้งในรูปของ Ceramide NP (Ceremide 3) ซึ่งจำเป็นกับผิว มีการศึกษาที่ชี้ว่าส่วนผสมนี้เมื่อนำมารวมเข้ากับกรดไขมันชนิดต่าง ๆ ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวที่ใช้สเตียรอยด์เป็นประจำได้ และยังมีสารคล้ายเซราไมด์อย่าง Phytosteryl/OctyldodecylLauroyl Glutamate หรือ ELDEW® PS-203R ของบริษัท Ajinomoto ที่พบได้บ่อยในสกินแคร์ญี่ปุ่นอีกด้วย

ส่วนผสมของ Butyrospermum Parkii (Shea) Butter ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่ดีกับผิว และมีข้อมูลที่ชี้ว่าสารประกอบในเชียบัตเตอร์ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบด้วย การศึกษาในกลุ่มเด็กที่มีอาการโรคผิวหนังอักเสบพบว่ากว่า 3/4 ของกลุ่มทดสอบรายงานผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของเชียบัตเตอร์ช่วยลดอาการคันได้ดี ตัวเลือกของน้ำมันจากพืชอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันโฮโฮบา Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil และน้ำมันมะพร้าว Cocos Nucitera (Coconut) Oil ก็เหมือนกับเลือกจิ้มจากตัวเลือกที่มีงานวิจัยว่าดีกับผิวที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบ และเสริมความแข็งแรงของผิว

และแม้ว่าจะเต็มไปด้วยสารที่มาจากพืช แต่ครีมตัวนี้ก็ยังมีส่วนผสมของ Petrolatum หรือปิโตรเลียมเจลลี่ มีข้อมูลระบุว่ามีคุณสมบัติเป็น Occlusive เคลือบคลุมลดการระเหยของความชุ่มชื้น (TEWL) ได้ถึง 98% แม้จะใช้ในความเข้มข้นเพียง 5%  แม้ว่าปัจจุบันจะมีกระแสโจมตีส่วนผสมจากปิโตรเลียมนี้ในหลายแง่ทั้งในเชิงของความไม่ยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม (ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงของสารที่เป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี)  ไปจนถึงการป้ายสีว่าเป็นสารที่อันตรายกับผิว (เป็นข้อมูลเท็จและการสร้างปีศาจทางการตลาดเพื่อขายสินค้าที่อ้างว่ามาจากธรรมชาติ)

แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดยังชี้ว่า Petrolatum ในเกรดของเครื่องสำอางและยาเป็นส่วนผสมที่ปลอดภัยกับผิว ถูกใช้เป็นเบสของออยเมนต์ทาแผลผิวหนัง ตำรายาสารพัด มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า Petrolatum อาจไม่ได้แค่เคลือบผิวลดการระเหยออกของความชุ่มชื้นแต่ยังเอื้อต่อการแสดงออกของกลไกที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยาและปกป้องตนเองของผิว การศึกษาล่าสุดเทียบกับน้ำมันพืชหลายชนิดก็ยังพบว่าไม่มีตัวไหนที่ให้คุณสมบัติ Occlusive ลดการระเหยความชุ่มชื้นโดยทันทีได้ดีเท่า Petrolatum ภายใน 2 ชั่วโมงแรกหลังใช้ จากข้อมูลชี้ว่าปัจจุบันยังมีความพยายามในการพัฒนาหาส่วนผสมจากธรรมชาติที่มาใช้แทน Petrolatum แต่ก็ยังไม่มีตัวไหนที่แทนได้แบบเหมือนเป๊ะล่ะ

สำหรับสารกลุ่ม Humectant ให้ความชุ่มชื้นก็เป็นตัวที่เราพบได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็น Glycerin เอย Sodium PCA เอย ไฮยาลูรอน Sodium Hyaluronate เอย และโปรวิตามิน B5 ในรูป Panthenol ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ทุกตัวเป็นสิ่งที่มอยซ์เจอไรเซอร์ควรจะมีอย่างน้อยสักตัวหรือมากกว่าเป็นพื้นฐาน

โดยสรุปแล้วจากส่วนผสมนี่คือส่วนผสมทั้งหมดนั้นเข้าใจง่ายและตรงไปตรงมา เหมือนกางงานวิจัยแล้วจิ้มเลือกสารออกมา โดยเอามาปั่นรวมกันโดยใส่สารเสริมเนื้อแค่พอจำเป็นเพื่อให้เนื้อสัมผัสที่ดีและใช้ง่าย  ไม่มีส่วนผสมแปลก ๆ หรือต้องกังวล  สารออกฤทธิ์หลักใช้สารบริสุทธิ์ทุกตัว แม้ต้นทุนจะสูงกว่า แต่ลดความเสี่ยงในการแพ้สารประกอบข้างเคียงของพวกสารสกัดจากพืชไปได้ จึงเป็นสูตรที่พัฒนาโดยแนวคิดเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก  การตลาดเป็นรอง

Ingredients : Water, Butyrospermum Parkii (Shea Butter), Glycerin, Petrolatum, Niacinamide, Hydrogenated Polydecene, Sunflower oil extract, Glyceryl Stearate SE, Cyclopentasiloxane, Sodium Polyacrylate, Cyclohexasiloxane, Butylene Glycol, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil, Dimethicone, Ceteareth-25, Tocopheryl Acetate, Sodium PCA, Hydroxyphenyl Propamidobenzoic Acid, Allantoin, Hydrogenated Lecithin, Biosaccharide Gum-2, Sodium Hyaluronate, Phytosteryl/OctyldodecylLauroyl Glutamate, Glycyrrhiza Inflata (Licorice) Root Extract, Ceramide NP, Dipotassium Glycyrrhizinate, Cocos Nucifera (Coconut) Oil, Pentylene Glycol, Ceteareth-6, Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer, Panthenol, Phenoxyethanol, Stearyl Alcohol, Chlorphenesin, BHT, Caprylic/Capric Triglyceride, Disodium EDTA

Usage & Result

เนื้อครีมของ PEODERM : AD Soothing Cream เป็นเนื้อครีมเนียนข้นสีออกเหลืองนวล ๆ ไม่มีส่วนผสมสีและน้ำหอม แต่กลิ่นจะค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์แบบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม Shea Butter ในปริมาณมาก  

เนื้อครีมเกลี่ยได้ง่าย  แม้จะเข้มข้นแต่ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นสบายผิว  เนื้อซึมสู่ผิวได้โดยยังคงเหลือชั้นที่เคลือบผิวบาง ๆ แต่เคลือบผิวได้นาน ต้องขอบคุณคุณสมบัติของเนื้อที่ซึมดีจากบัตเตอร์และน้ำมันธรรมชาติ แต่คงเคลือบผิวด้วยส่วนผสม Petrolatum ที่ใส่มาในสูตร

ในแง่ของผลในการใช้ ปูเป้ลองใช้ตัวนี้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย โดยพบว่าสำหรับผิวหน้านี่เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวที่ดีสำหรับผิวค่อนไปทางแห้งและผิวที่มีการระคายเคือง แต่คนที่มีผิวมัน ผิวผสม ก็สามารถทาเป็นครีมบำรุงในตอนกลางคืนที่ช่วยเก็บล็อคความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี

แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของครีมตัวนี้คือคุณสมบัติในเยียวยา ปลอบประโลมผิว ต้านการอักเสบและอาการคัน ที่ส่วนตัวปูเป้บอกเลยว่าใช้แทนยาแก้คันที่ปกติตัวเองใช้อยู่แล้วได้เลย

ปกติปูเป้เป็นภูมิแพ้พวกแมลงกัดต่อย และบางทีจะมีอาการคันที่ผิวหนังโดยเฉพาะในตอนกลางคืนบ้างอยู่แล้ว จากในรูปคือผิวบริเวณหน้าขาที่จู่ ๆ เกิดอาการคัน เมื่อเอา PEODERM : AD Soothing Cream ทาลงไปก็รู้สึกได้เลยว่าสบายผิวขึ้นทันที อาการคันค่อย ๆ น้อยลง หลังจากผ่านไปราว 30 นาที อาการคันจนอยากเกาจะลดลงมากแต่ยังคงรู้สึกว่าผิวบริเวณนั้นยังมีความร้อนผ่าว ๆ อยู่  แต่หลังจากผ่านไปเป็นชั่วโมง ผิวบริเวณดังกล่าวก็กลับมาเป็นปกติ ไม่เหลือความรู้สึกอาการคันและความแดงอยู่เลย

ปูเป้ใช้กับผิวที่แห้งลอกและถลอกคันตรงบริเวณซอกหลังใบหู ที่น่าจะมาจากการที่ต้องใช้น้ำเกลือล้างแผล ซับน้ำ และเป่าให้แห้ง โดยที่ไม่ได้ทาสกินแคร์ตามปกติ เพราะไม่อยากไปรบกวนแผลจากการเจาะติ่งหู PEODERM : AD Soothing Cream ช่วยลดอาการคัน แสบ ได้ในทันที  และสามารถทาซ้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการเมื่อรู้สึกเริ่มคัน  จนผิวบริเวณดังกล่าวกลับมาเป็นสภาพปกติครับ

Conclusion

โดยสรุปแล้วปูเป้มองว่า PEODERM : AD Soothing Cream เป็นเหมือนครีมสามัญประจำบ้าน ที่ใช้ได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็กอ่อนไปยันผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะมีปัญหาผิวหนังอักเสบจากโรคทางพันธุกรรม หรือผิวแพ้จนอ่อนแอระคายเคืองอักเสบเพราะสัมผัสกับปัจจัยแพ้หรือระคายเคืองภายนอกก็ใช้ได้  ใช้กับผิวที่พึ่งผ่านการทำหัตถการอย่างเลเซอร์ จิ้มหน้า หรือบำรุงผิวที่เจอผลกระทบจากยาสเตียรอยด์จนอ่อนแอ หรือผิวที่แห้งแหกจากยารักษาสิวคือได้หมด  คนที่ผิวไม่มีปัญหาอะไรจะใช้เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวก็ดีมาก ใครมือแห้งมาก ลอก ก็ใช้เป็นครีมบำรุงมือได้ ผิวตัวคันแดงหรือเป็นลมพิษเจอแมลงกัดจนคันก็ทาได้

ในแง่ของสูตร ปูเป้รู้สึกได้ถึงความจริงใจจากการเลือกแต่สิ่งที่ดี มีประสิทธิภาพ อ่อนโยน และใส่มาเท่าที่จะหามาใส่ได้  อะไรที่มีงานวิจัยว่าจะช่วยทำให้ผิวของคนที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ฉันใส่หมด โดยไม่ให้เรื่องการตลาดมาตัดหรือเอาส่วนผสมที่ควรจะมีออกไปเพียงเพราะว่ากระแสการตลาดทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่ดีไปเอง

คือเราหามอยซ์เจอไรเซอร์ที่เคลือบผิวดี ให้ความชุ่มชื้นดี เสริมปราการปกป้องผิวน่ะหาได้ไม่ยากหรอก แต่ตัวที่จะลดอาการคันได้ดีจนปูเป้ไม่ต้องทายา Systral ที่ปกติใช้ประจำนี่สิ คือไม่ใช่ตัวไหนก็ทำได้นะบอกเลย  ส่วนราคาค่าตัวไม่ว่าจะดูจากแง่ส่วนผสมที่ใส่และกับผลที่ได้ก็บอกเลยว่าไม่แพง คุ้มเงินที่จ่ายสุด ๆ

ส่วนข้อคิดเห็นหรือคำแนะนำเพิ่มเติม ปูเป้คิดว่าสูตรปัจจุบันอาจจะปรับได้อีกเล็กน้อยในเรื่องของการตัด Cyclopentasiloxane หรือ D5 ออก แม้ว่าปัจจุบันนี้ใน EU จะยังคงอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์แบบไม่ต้องล้างออก ส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดล้างออกคือโดนห้ามใช้ไปแล้ว แต่ก็มีแนวโน้มค่อนข้างมากว่าในอนาคตอาจถูกจำกัดการใช้ในผลิตภัณฑ์ทาผิวไม่ต้องล้างออกด้วย ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ยุโรปจำนวนมากเลิกใช้สารตัวนี้แล้ว และสกินแคร์ฝั่งเอเชียโดยเฉพาะในญี่ปุ่นก็กำลังทยอยปรับเอาออก เพราะเรื่องการส่งออกไปยังตลาดยุโรปนั่นเอง  ปูเป้มองว่าสารตัวนี้หาตัวแทนได้ไม่ยาก และมองว่าสินค้าตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีศักยภาพที่จะไปถึงต่างประเทศได้เลย ถือว่าเป็นข้อเสนอแนะสำหรับการปรับสูตรในรุ่นต่อไป  นอกนั้นก็คงอยากได้สูตรที่มีเนื้อแบบอื่นเช่นเจลครีม ซึ่งน่าจะทำให้กลุ่มคนที่มีผิวมันและมักมีปัญหาผิวอย่างเซ็บเดิร์มก็สามารถใช้ได้ง่ายขึ้นในอากาศบ้านเราครับ

สำหรับใครที่สนใจแบรนด์ PEODERM ก็สามารถไปกดติดตามข่าวสารและช่องทางการจำหน่ายได้ทาง Facebook : PEODERM หรือสั่งซื้อในช่องทางออนไลน์ได้ทาง Shopee  และใน LINE Shopping กันได้เลยฮะ

สำหรับคำถามว่า “จะแพ้มั้ย” “ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?” เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

***Sponsored Item***

PEODERM : AD Soothing Cream
Price :  50g / 650 BAHT
Skin Type : Sensitive Skin / Normal to Dry Skin
Outstanding : Soothing / Anti-Itch / Anti-Inflammation / Barrier Repair / Hydration / Fragrance-Free

PEODERM : AD Soothing Cream
FORMULA
GENTLENESS
SENSORY
RESULT
PUPE LOVE IT
PROS
  • ส่วนผสมเลือกมาแต่ตัวที่มีงานวิจัยรับรอง และใส่มาแน่น จัดเต็ม แกงโฮะ
  • ลดอาการคันได้ดี ใช้แทนยาแก้คันตัวอ่อน ๆ ที่ปกติใช้ประจำได้เลย
  • ราคาเมื่อเทียบกับส่วนผสม ผลที่ได้แล้วคือไม่แพงเลย เทียบกับตัวเลือกอื่นในท้องตลาดถือว่าราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่ามาก ๆ
CONS
  • ส่วนตัวไม่รู้จะติอะไร ผลิตภัณฑ์ทำได้ตามที่เคลมทุกอย่าง สูตรก็เป๊ะตามตำรา เนื้อก็ดี การสื่อสารก็ตรงไปตรงมา มีแต่ข้อเสนอในการทำเนื้อสัมผัสแบบอื่น ๆ เพื่อผิวธรรมดาถึงผิวมัน และการปรับลดซิลิโคนบางรูปแบบเผื่อในอนาคตเท่านั้นเองครับ
4.6Overall Score

Related Posts